เม็กซิโก ซิตี้ / อากาปุลโก – การจับจ่ายซื้อของในบ่ายวันหยุดอันแสนธรรมดา ได้กลายสภาพเป็นฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุด เมื่อเกิดเหตุ ไฟไหม้ซูเปอร์มาร์เก็ต เม็กซิโก อย่างรุนแรง ตามมาด้วยการระเบิดต่อเนื่องหลายครั้ง ที่ห้าง “Supermercado Gigante” (ชื่อสมมติ) ในเมืองตากอากาศชื่อดังอย่างอากาปุลโก (Acapulco) เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำได้เผาทำลายอาคารทั้งหลัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 23 ศพ และบาดเจ็บอีกนับสิบคน โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุเพลิงไหม้ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เม็กซิโกยุคใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ได้จุดชนวนความโกรธแค้นทั่วประเทศ และเปิดโปง “ระเบิดเวลา” ที่ซุกซ่อนอยู่ นั่นคือ ความหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมายความปลอดภัย และมาตรฐานการจัดเก็บวัตถุไวไฟในพื้นที่สาธารณะ ที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังระดับชาติ
ลำดับเหตุการณ์หายนะ จากกลุ่มควัน สู่เสียงระเบิดสังหาร
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 3 พฤศจิกายน 2025 (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนและครอบครัวจำนวนมากเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในซูเปอร์มาร์เก็ต เครือข่ายสื่อท้องถิ่นในรัฐเกร์เรโร (Guerrero) และรายงานจากสำนักข่าว AP ได้ปะติดปะต่อลำดับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่
“เราได้กลิ่นแก๊สก่อนไฟจะมา”
พยานผู้รอดชีวิตหลายคนให้การตรงกันว่า สัญญาณเตือนภัยแรกไม่ใช่เปลวไฟ แต่เป็น “กลิ่นแก๊ส” ที่รุนแรง ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการรั่วไหลเกิดขึ้นก่อนหน้า
“ฉันกำลังเลือกผัก และก็ได้กลิ่นแก๊สฉุนมาก” มาเรีย กอนซาเลซ ผู้รอดชีวิตที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก ให้สัมภาษณ์กับ Reuters “ฉันบอกพนักงาน แต่ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงดัง ‘ฟู่’ และเห็นไฟลุกท่วมมาจากโซนร้านอาหารและเบเกอรี่”
รายงานเบื้องต้นชี้ว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณโซนปรุงอาหารของซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีการใช้ถังแก๊สโพรเพน (LP Gas) จำนวนมากในการประกอบอาหาร
การระเบิดที่ “เหมือนสงคราม” และความโกลาหลหนีตาย
สิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด คือการระเบิดที่เกิดขึ้นตามมาอย่างน้อย 2-3 ครั้ง หลังจากเพลิงไหม้เริ่มขึ้นไม่นาน คาดว่าเกิดจากถังแก๊สที่เก็บไว้ในสต็อก หรือที่ใช้ในร้านอาหาร ทนความร้อนไม่ไหวและระเบิดออก
“มันไม่ใช่แค่ไฟไหม้ มันคือ เหตุระเบิด ซูเปอร์มาร์เก็ต เม็กซิโก” คาร์ลอส เฮอร์นันเดซ พยานอีกคนกล่าว “เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว หน้าต่างแตกกระจาย หลังคาบางส่วนถล่มลงมา ผู้คนกรีดร้องและเหยียบกันเพื่อหนีออกจากประตู”
ภาพวิดีโอจากผู้เห็นเหตุการณ์แสดงให้เห็นกลุ่มควันสีดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มองเห็นได้จากทั่วทั้งอ่าวอากาปุลโก อาคารทั้งหลังกลายสภาพเป็นนรกบนดิน ปิดตายเส้นทางหนีของผู้ที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน
ปฏิบัติการกู้ภัยกลางกองเพลิง การต่อสู้กับเวลาและอุปสรรค
หน่วยงาน Protección Civil (หน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน) ของรัฐเกร์เรโร พร้อมด้วยนักผจญเพลิงหลายร้อยนาย และกำลังเสริมจากกองทัพ (Guardia Nacional) ถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุทันที แต่ภารกิจของพวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค
การค้นหาท่ามกลางซากปรักหักพัง
เนื่องจากความรุนแรงของเพลิงไหม้และแรงระเบิด ทำให้อาคารซูเปอร์มาร์เก็ตเกิดการทรุดตัวและถล่มลงมาบางส่วน นักผจญเพลิงต้องต่อสู้กับไฟที่ยังคงลุกไหม้ ขณะที่ทีมกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างและสุนัขดมกลิ่น เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซาก
“นี่เป็นหนึ่งในฉากที่เลวร้ายที่สุดที่เราเคยเจอ” ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงอากาปุลโกกล่าว “ความร้อนสูงมาก และโครงสร้างอาคารไม่มั่นคง ทำให้การเข้าไปด้านในอันตรายอย่างยิ่ง”
ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 23 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีกนับสิบ
ในช่วงเช้าวันนี้ (4 พฤศจิกายน) ผู้ว่าการรัฐเกร์เรโร ได้แถลงยืนยันตัวเลข เม็กซิโก ดับ 23 ศพ โดยระบุว่าผู้เสียชีวิตมีทั้งลูกค้าและพนักงานของซูเปอร์มาร์เก็ต และเตือนว่าตัวเลขนี้อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกหลายราย
โรงพยาบาลในอากาปุลโกกำลังรับมือกับผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มีอาการไฟไหม้รุนแรงและสูดดมควันพิษเข้าไปจำนวนมาก รัฐบาลได้ร้องขอบริจาคโลหิตและเวชภัณฑ์ฉุกเฉินเป็นการด่วน
เจาะลึกต้นตอ โศกนาฏกรรมที่รอวันเกิด หรือ ความล้มเหลวเชิงระบบ?
ในขณะที่ควันไฟยังไม่จางหาย คำถามที่ดังก้องไปทั่วเม็กซิโกคือ สาเหตุไฟไหม้ซูเปอร์มาร์เก็ต เม็กซิโก ล่าสุด นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? และใครต้องรับผิดชอบ? ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมต่างชี้เป้าไปที่ปัญหาที่ฝังรากลึก
“วัฒนธรรมแห่งการละเลย” และการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ
เม็กซิโกมีกฎหมายและข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาคาร (Building Codes) และการป้องกันอัคคีภัย แต่ปัญหาใหญ่หลวงคือ “การบังคับใช้”
“เรามีกฎหมายบนกระดาษ แต่ในทางปฏิบัติ การตรวจสอบมักหละหลวม” วิศวกรความปลอดภัยในเม็กซิโก ซิตี้ ให้ความเห็นกับสื่อท้องถิ่น “การจ่ายสินบนเพื่อให้ผ่านการตรวจสอบ หรือการละเลยมาตรฐานเพื่อลดต้นทุน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นปกติในธุรกิจหลายประเภท โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเมืองหลวง”
ภัยพิบัติจาก “ถังแก๊สโพรเพน” (LP Gas)
หัวใจของปัญหาในครั้งนี้ คือการพึ่งพาแก๊ส LP (Liquefied Petroleum Gas) อย่างกว้างขวางในเม็กซิโก ทั้งในบ้านเรือนและภาคธุรกิจ แก๊สชนิดนี้ไวไฟสูงและมีแรงระเบิดรุนแรงหากจัดเก็บหรือจัดการไม่ถูกต้อง
- การจัดเก็บที่ไม่ปลอดภัย มีข้อสงสัยว่าซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้อาจจัดเก็บถังแก๊สสำรองจำนวนมากไว้ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น ใกล้แหล่งความร้อน หรือไม่มีการระบายอากาศที่เพียงพอ
- การบำรุงรักษาที่ขาดหาย ระบบท่อส่งแก๊ส วาล์ว และอุปกรณ์เชื่อมต่อในร้านอาหาร มักขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามกำหนด
- การขาดระบบตัดไฟอัตโนมัติ คำถามสำคัญคือ อาคารมีระบบตรวจจับแก๊สรั่วและระบบสปริงเกลอร์ดับเพลิงที่ทำงานได้จริงหรือไม่? พยานหลายคนไม่ไดยินเสียงสัญญาณเตือนภัยไฟไหม้จนกระทั่งไฟลุกลามไปมากแล้ว
ข้อกล่าวหาพุ่งเป้าไปที่ “Supermercado Gigante”
สำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐเกร์เรโร (Fiscalía General del Estado) ได้เริ่มการสืบสวนคดีอาญาในข้อหา “การกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” โดยมุ่งเป้นไปที่ผู้บริหารของเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ต Supermercado Gigante (ชื่อสมมติ)
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีข้อร้องเรียนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของสาขานี้ แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหน่วยงาน Protección Civil ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังหรือไม่
ปฏิกิริยาจากรัฐบาลและการเมือง “ต้องไม่มีใครลอยนวล”
โศกนาฏกรรมครั้งนี้สั่นสะเทือนรัฐบาลกลางอย่างรุนแรง ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ (AMLO) ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวช่วงเช้า (La Mañanera)
“นี่เป็นวันที่น่าเศร้าอย่างยิ่งสำหรับเม็กซิโก ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในอากาปุลโก” ประธานาธิบดี AMLO กล่าว “ผมได้สั่งการให้มีการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบและถึงที่สุด จะต้องไม่มีการละเว้น (No Impunity) ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการละเลยนี้”
รัฐบาลกลางได้ประกาศให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย และส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์และการระเบิดจากเม็กซิโก ซิตี้ ไปยัง อากาปุลโก เพื่อสนับสนุนการสืบสวน
บทสรุป อากาปุลโกในกองเถ้าถ่าน และการปฏิรูปที่ต้องเกิดขึ้น
เกิดอะไรขึ้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเม็กซิโก ครั้งนี้ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น การเสียชีวิตของ 23 ชีวิตผู้บริสุทธิ์กลางซูเปอร์มาร์เก็ต กลายเป็นภาพสะท้อนที่เจ็บปวดของช่องโหว่ขนาดใหญ่ในระบบความปลอดภัยสาธารณะของประเทศ
ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้สูญหาย ท่ามกลางซากอาคารที่ดำเป็นตอตะโก สังคมเม็กซิกันกำลังจับตามองว่า โศกนาฏกรรมที่ อากาปุลโก ครั้งนี้ จะนำไปสู่การปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายความปลอดภัยอย่างจริงจัง หรือจะเป็นเพียงอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมที่จะเลือนหายไปกับการเวลา ปล่อยให้ “ระเบิดเวลา” ลูกใหม่ยังคงนับถอยหลังอยู่ในพื้นที่สาธารณะแห่งอื่นทั่วประเทศ
แหล่งที่มาจาก : am2con