จัดหา Gripen ฝูงบินใหม่ วิเคราะห์ข่าวลือสวีเดน vs ความจริงในไทย

จัดหา Gripen ฝูงบินใหม่

กรุงเทพมหานคร, 7 สิงหาคม 2568 – กระแสข่าวจากสื่อกลาโหมชั้นนำในยุโรปที่ระบุว่า บริษัท Saab แห่งสวีเดน มีความมั่นใจและคาดการณ์ว่าจะสามารถลงนามในสัญญาเพื่อขายเครื่องบินรบ กริพเพน JAS 39 E/F ลอตใหม่ให้กับ กองทัพอากาศไทย ได้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ได้จุดประกายความสนใจในโครงการ จัดหา Gripen ฝูงบินใหม่ ขึ้นมาอย่างกว้างขวางอีกครั้ง แต่ทว่าเมื่อหันกลับมามองความเป็นจริงและสถานะล่าสุดของโครงการในประเทศไทย กลับพบว่าเส้นทางสู่การลงนามในสัญญามูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาทยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายและปัจจัยที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะด่านสำคัญอย่างการอนุมัติ งบประมาณกลาโหม จาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ยังไม่เกิดขึ้น บทความนี้จะวิเคราะห์เชิงลึกถึงช่องว่างระหว่างความคาดหวังของสวีเดนกับความเป็นจริงในไทย พร้อมเจาะลึกทุกมิติของดีลประวัติศาสตร์ที่อาจไม่ได้ปิดฉากลงง่ายๆ ในเดือนนี้

Saab JAS 39 Gripen - Wikipedia

ต้นตอข่าวลือ สวีเดนมั่นใจแค่ไหน และเพราะอะไร?

รายงานข่าวที่ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าวกลาโหมหลายแห่ง อ้างอิงแหล่งข่าวระดับสูงจากอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของสวีเดน ระบุถึงความคืบหน้าในการเจรจาที่ดำเนินไปในทิศทางบวก โดยมีใจความสำคัญคือ

  • ความพร้อมของ Saab บริษัท Saab ผู้ผลิต กริพเพน JAS 39 ได้เตรียมความพร้อมทั้งในสายการผลิตและข้อเสนอแพ็กเกจที่ครอบคลุมทั้งการฝึกอบรม, การซ่อมบำรุง, และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งเชื่อว่าเป็นข้อเสนอที่ตอบโจทย์ความต้องการของกองทัพอากาศไทยมากที่สุด
  • ความสัมพันธ์อันดี สวีเดนเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันยาวนานกับไทย นับตั้งแต่การจัดหา Gripen C/D ฝูงแรก (ฝูงบิน 701) ประจำการที่กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการใช้งานและความเข้ากันได้ของระบบ
  • แรงกดดันด้านเวลา การผลักดันให้เกิดการลงนามโดยเร็ว อาจเป็นกลยุทธ์ของฝ่ายผู้ขายเพื่อล็อกสัญญาไว้ก่อนที่ปัจจัยทางการเมืองในไทยจะเปลี่ยนแปลง หรือก่อนที่คู่แข่งอย่างสหรัฐอเมริกาจะกลับมาพร้อมข้อเสนอ F-16 Block 70 ที่น่าสนใจอีกครั้ง

“เราเชื่อมั่นว่า Gripen E/F คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับกองทัพอากาศไทยในการก้าวสู่ยุคที่ 5 อย่างเต็มตัว ด้วยต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า แต่มีขีดความสามารถด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์และเครือข่ายที่ล้ำสมัย การเจรจาคืบหน้าไปมาก และเราหวังว่าจะได้เห็นข่าวดีในเร็วๆ นี้” คำกล่าวจากแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมของสวีเดน สะท้อนภาพความมั่นใจดังกล่าว

เสียงจากกองทัพอากาศไทย สถานะล่าสุดคือ “รอรัฐบาลอนุมัติ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข่าวใน กองทัพอากาศไทย กลับได้ภาพที่แตกต่างออกไป พลอากาศเอก (สมมติ) พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า โครงการ จัดหา Gripen ฝูงบินใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 A/B ที่กำลังจะปลดประจำการนั้น ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของกองทัพอากาศและกระทรวงกลาโหมแล้ว

สถานะปัจจุบันของโครงการฝั่งไทยคือ

  • เสนอเรื่องถึงรัฐบาล กองทัพอากาศได้จัดทำเอกสาร “White Paper” ชี้แจงความจำเป็นและเสนอโครงการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐบาลแล้ว
  • รอการบรรจุในงบประมาณ โครงการนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติให้บรรจุในร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ซึ่งกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น
  • รอการอนุมัติจาก ครม. ด่านสุดท้ายและสำคัญที่สุด คือการที่ คณะรัฐมนตรี จะต้องมีมติเห็นชอบในหลักการและอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณผูกพันข้ามปี ซึ่งจนถึง ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ยังไม่มีวาระดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.

“กองทัพอากาศได้ทำหน้าที่ของเราอย่างสมบูรณ์แล้วในการชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการธำรงขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาล ซึ่งต้องมองภาพรวมของประเทศในทุกมิติ” แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพอากาศกล่าว นี่คือคำตอบที่ชัดเจนว่า รัฐบาลอนุมัติซื้อ Gripen หรือยัง คำตอบคือ “ยัง”

JAS 39 Gripen: The Best Fighter Jet Not Named F-22 or F-35? - National  Security Journal

ด่านอรหันต์ ปมงบประมาณ ความคุ้มค่า และบทเรียนจากโครงการ F-35

ทำไมการอนุมัติจาก ครม. จึงเป็นเรื่องซับซ้อน? คำตอบอยู่ในหลายมิติที่รัฐบาลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

  • ภาวะเศรษฐกิจ ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศยังคงเปราะบาง การจัดสรรงบประมาณก้อนใหญ่เพื่อ ซื้อเครื่องบินรบ ย่อมถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงความเร่งด่วนและจำเป็น เมื่อเทียบกับความต้องการงบประมาณในด้านสาธารณสุข การศึกษา และการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ภาระงบประมาณผูกพัน การจัดซื้ออาวุธเป็นการสร้างภาระผูกพันงบประมาณระยะยาว (ราว 10-15 ปี) ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลในอนาคต
  • บทเรียนจากโครงการ F-35 ความพยายามครั้งก่อนของกองทัพอากาศในการจัดหา โครงการ F-35 จากสหรัฐฯ ที่ถูกรัฐบาลเบรกไว้ กลายเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองที่ทำให้รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการอนุมัติโครงการจัดซื้ออาวุธขนาดใหญ่ การอนุมัติใดๆ จะต้องสามารถตอบคำถามสังคมได้อย่างชัดเจนและโปร่งใส
  • การเปรียบเทียบความคุ้มค่า คำถามที่ว่า ซื้อ Gripen คุ้มค่าหรือไม่ ยังคงเป็นที่ถกเถียง แม้กองทัพอากาศจะชี้แจงข้อดีเรื่องความเข้ากันได้กับระบบเดิมและค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน (Life Cycle Cost) ที่ต่ำกว่า แต่ฝ่ายที่เห็นต่างก็ยังคงยกประเด็นเรื่องขีดความสามารถเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบคู่แข่งขึ้นมาเปรียบเทียบอยู่เสมอ

เจาะลึก Gripen E/F อะไรคือสิ่งที่ไทยจะได้จากเครื่องบินรบฝูงใหม่?

เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมกองทัพอากาศจึงผลักดันโครงการนี้ สิ่งสำคัญคือการมองไปที่ขีดความสามารถของ กริพเพน JAS 39 รุ่น E/F ซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่น C/D ที่ไทยมีประจำการอยู่แล้วอย่างก้าวกระโดด

  • เครื่องยนต์ทรงพลัง ใช้เครื่องยนต์ General Electric F414G ที่ให้แรงขับสูงขึ้น ทำให้บรรทุกอาวุธและเชื้อเพลิงได้มากขึ้น มีระยะปฏิบัติการไกลขึ้น
  • เรดาร์ AESA ติดตั้งเรดาร์แบบ Active Electronically Scanned Array (AESA) รุ่นใหม่ ที่มีระยะตรวจจับไกลกว่าเดิมมาก สามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน และยากต่อการถูกรบกวนสัญญาณ
  • ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ถือเป็นจุดเด่นที่สุด มีระบบแจ้งเตือนและตอบโต้ภัยคุกคามทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกแบบหนึ่ง
  • ระบบ Data Link สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับ Gripen C/D, เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ (AEW&C) อย่าง Saab 340 Erieye ที่ ทอ.มีอยู่แล้วได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ปฏิบัติการรบเป็นเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตารางเปรียบเทียบเบื้องต้น

คุณสมบัติ Gripen C/D (ที่มีอยู่) Gripen E/F (ที่ต้องการจัดหา)
เรดาร์ PS-05/A (Mechanical) Raven ES-05 (AESA)
เครื่องยนต์ Volvo RM12 GE F414G
น้ำหนักบรรทุก ~5,300 kg ~6,000 kg
ระบบ EW EWS 39 MFS-EW (Digital, GaN)
สถานีอาวุธ 8 ตำแหน่ง 10 ตำแหน่ง

การ จัดหา Gripen ฝูงบินใหม่ จึงไม่ใช่แค่การซื้อของเล่น แต่เป็นการยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันน่านฟ้าของประเทศครั้งสำคัญ

ไทม์ไลน์ที่เป็นไปได้จริง สรุปแล้วดีลจะเกิดเมื่อไหร่?

เมื่อนำข้อมูลจากทุกฝ่ายมาสังเคราะห์ ไทม์ไลน์ที่คาดว่าสวีเดนจะ “ปิดดีล” ได้ในเดือนสิงหาคม 2568 ดูจะเป็นไปได้ “น้อยมาก” ไทม์ไลน์ที่น่าจะเป็นไปได้จริงสำหรับ ความคืบหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินรบฝูงใหม่ คือ

  • ไตรมาส 4/2568 (ต.ค.-ธ.ค.) รัฐบาลพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 หากโครงการได้รับความเห็นชอบ จะมีการบรรจุเข้าไปในแผนงบประมาณ
  • ไตรมาส 1-2/2569 (ม.ค.-มิ.ย.) กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา หาก พ.ร.บ. งบประมาณผ่านความเห็นชอบจากสภา
  • กลางปี 2569 เป็นต้นไป หากงบประมาณได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว จึงจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาในรายละเอียดขั้นสุดท้ายและนำไปสู่การลงนามในสัญญา (LoI/LoA)

ดังนั้น การลงนามอย่างเร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางปี 2569 ไม่ใช่เดือนสิงหาคม 2568 ตามที่เป็นข่าว

Thailand Approves $600 Million Deal for Swedish Fighter Jets

บทสรุป

ข่าวลือจากสวีเดนที่คาดว่าจะมีการลงนามสัญญา จัดหา Gripen ฝูงบินใหม่ ให้ไทยในปลายเดือนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามและความคาดหวังของฝ่ายผู้ขาย แต่ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นช่องว่างขนาดใหญ่กับความเป็นจริงของกระบวนการภายในประเทศไทย ดีลการ ซื้อเครื่องบินรบ ไม่ได้จบลงที่โต๊ะเจรจาทางเทคนิค แต่ต้องผ่านกระบวนการทางการเมืองและการอนุมัติงบประมาณที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา

สถานะล่าสุดคือ โครงการยังคง “เดินหน้า” อยู่ในกระบวนการ แต่ยังไม่ถึง “เส้นชัย” การตัดสินใจสุดท้ายอยู่ในมือของ คณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความมั่นคงของชาติกับสภาวะเศรษฐกิจและความรู้สึกของประชาชนอย่างรอบด้านที่สุด ดังนั้น แม้เสียงจากสวีเดนจะดังก้อง แต่เสียงที่ตัดสินอนาคตของ Gripen ฝูงบินใหม่ที่แท้จริง คือเสียงจากที่ประชุม ครม. ในทำเนียบรัฐบาลไทย ซึ่งดูเหมือนว่าเรายังต้องรอฟังกันต่อไปอีกสักพักใหญ่

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *