จีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2025 ขยายตัว 5.2% ที่นับว่าชะลอตัวลง แม้จะสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากความวุ่นวายทางการค้าที่เกิดจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ
ตัวเลขดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แม้ว่านักวิเคราะห์จะเตือนถึงความอ่อนแอและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
จีดีพีจีนไตรมาส 2 โต 5.2% ชะลอตัวแต่สูงกว่าคาดการณ์ แม้ความเสี่ยงจากภาษีทรัมป์
เศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดเป็นอันดับ 2 ของโลกยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวอย่างรุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสงบศึกทางการค้าและการสนับสนุนนโยบายระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่ยังไม่แน่นอน แต่ตลาดกำลังเตรียมรับมือกับครึ่งปีหลังที่อ่อนแอลง เนื่องจากการส่งออกสูญเสียความสามารถในการเติบโต ราคาสินค้ายังคงลดลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนเติบโต 5.2% ในไตรมาสเมษายน-มิถุนายน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ชะลอตัวลงจาก 5.4% ในไตรมาสแรก แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของรอยเตอร์สที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.1%
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน แสดงให้เห็นว่าจีดีพีเติบโต 1.1% ในเดือนเมษายน-มิถุนายน เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 0.9% และ 1.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกำหนดนโยบายเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี
จีนได้เพิ่มการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและการอุดหนุนผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคม ธนาคารกลางได้ลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
คาดว่าจะมีการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่ารัฐบาลอาจเพิ่มการใช้จ่ายเกินดุล หากการเติบโตชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าการส่งออกของจีนมีแรงส่งกลับบ้างในเดือนมิถุนายน ขณะที่การนำเข้าฟื้นตัว เนื่องจากโรงงานต่างๆ เร่งส่งออกเพื่อใช้ประโยชน์จากการสงบศึกทางภาษีที่ยังไม่แน่นอนระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายในเดือนสิงหาคมที่ใกล้เข้ามา ขณะที่จีนตั้งเป้าการเติบโตตลอดทั้งปีไว้ที่ประมาณ 5%
การสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าการเติบโตของจีดีพี จะชะลอตัวลงเหลือ 4.5% ในไตรมาสที่ 3 และ 4.0% ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเน้นย้ำถึงอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สงครามการค้าโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้จีนต้องเผชิญภารกิจอันยากลำบากในการทำให้ครัวเรือนใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน.
แหล่งที่มาจาก : am2con