รอสตอฟ-ออน-ดอน / มอสโก – ท้องฟ้ายามเช้าที่มืดมิดในฤดูหนาวของรัสเซียถูกย้อมจนกลายเป็นสีส้มฉาน เมื่อเกิดเหตุ ไฟไหม้ตลาดรัสเซีย ครั้งรุนแรงที่ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ทางตอนใต้ของประเทศ เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำอย่างรวดเร็วได้กลืนกินพื้นที่ร้านค้าไปกว่า 4,000 ตารางเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 1 ราย และประชาชนกว่า 100 ชีวิตต้องวิ่งหนีตายฝ่าความหนาวเย็นออกมาอย่างโกลาหล เหตุการณ์นี้ไม่เพียงสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่ยังปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลซ้ำซากของมาตรการป้องกันอัคคีภัยในโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซียที่กำลังถูกกัดกร่อนจากปัจจัยรอบด้าน
)
รุ่งสางแห่งความโกลาหล ลำดับเหตุการณ์ระทึก
จากการรายงานของสำนักข่าว TASS และ RIA Novosti ระบุว่า ต้นเพลิงเริ่มปะทุขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ ตลาดเสื้อผ้าและสินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญในภูมิภาค พยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นเบาๆ จากแผงขายเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังโครงสร้างหลังคาพลาสติกและไม้เก่าอย่างรวดเร็ว
“ควันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจนมองไม่เห็นทาง เราได้ยินเสียงไซเรน แต่ไฟมันเร็วกว่า พ่อค้าแม่ค้าพยายามขนของออกมาแต่ก็ทำได้แค่ยืนมองสินค้าของตัวเองกลายเป็นเถ้าถ่าน” อเล็กเซย์ อิวานอฟ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์
กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย (EMERCOM) ได้ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 120 นาย และรถดับเพลิง 40 คัน เข้าควบคุมสถานการณ์ แต่ความพยายามเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจาก
- สภาพอากาศ อุณหภูมิที่ติดลบทำให้แหล่งน้ำบางจุดเป็นน้ำแข็ง และอุปกรณ์ดับเพลิงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- วัสดุติดไฟ สินค้าประเภทเสื้อผ้า พลาสติก และน้ำหอม กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี
- โครงสร้างอาคาร หลังคาตลาดบางส่วนได้พังถล่มลงมา (Roof Collapse) ปิดกั้นเส้นทางเข้าถึงต้นเพลิง
ความสูญเสียและการสูญหาย หนึ่งชีวิตที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
หลังใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ค้นพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ท่ามกลางซากปรักหักพัง เบื้องต้นคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือคนงานที่นอนเฝ้าร้าน ซึ่งไม่สามารถหนีออกมาได้ทันขณะเกิดเหตุระเบิด
นอกจากนี้ การอพยพประชาชน 100 คน เป็นไปด้วยความตื่นตระหนก ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการสำลักควันและถูกความเย็นกัด (Frostbite) เนื่องจากต้องหนีออกมาโดยไม่มีเครื่องกันหนาวที่เพียงพอ

ปมปริศนา อุบัติเหตุหรือความประมาท?
แม้สาเหตุที่แท้จริงจะยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอัคคีภัยตั้งข้อสังเกตถึงปัจจัยหลักที่มักเป็นต้นตอของ ไฟไหม้ตลาดรัสเซีย ในช่วงฤดูหนาว
- ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) การใช้เครื่องทำความร้อนไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (DIY Heaters) เพื่อสร้างความอบอุ่นในแผงค้า เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของเพลิงไหม้ในฤดูหนาวรัสเซีย
- ระบบสายไฟเก่า ตลาดหลายแห่งในรัสเซียสร้างขึ้นตั้งแต่ยุค 90 หรือยุคโซเวียต ระบบสายไฟมักไม่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
- การละเมิดกฎความปลอดภัย รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า ตลาดแห่งนี้เคยถูกตักเตือนเรื่องทางหนีไฟที่มีสิ่งกีดขวางและระบบสปริงเกอร์ที่ไม่ทำงาน แต่ยังไม่มีการแก้ไขจนเกิดเหตุสลด
ภาพสะท้อนสังคม เศรษฐกิจฐานรากบนกองเพลิง
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากเอเชียกลาง (เช่น ทาจิกิสถาน, อุซเบกิสถาน) ที่ใช้ตลาดนี้เป็นแหล่งทำมาหากินเลี้ยงชีพ สินค้าทั้งหมดที่สต็อกไว้สำหรับขายในช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสออร์โธดอกซ์ถูกทำลายจนหมดสิ้น
นักวิเคราะห์เศรษฐกิจมองว่า เหตุไฟไหม้ตลาดค้าส่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะตลาดเหล่านี้คือ “เส้นเลือดฝอย” ของเศรษฐกิจรัสเซียที่ช่วยกระจายสินค้าราคาถูกไปยังประชาชนที่กำลังเผชิญภาวะเงินเฟ้อ การที่ตลาดขนาดใหญ่ถูกทำลายจะซ้ำเติมปัญหาค่าครองชีพในระดับท้องถิ่นทันที
“สำหรับคนรวย ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าคือข่าว แต่สำหรับคนจน ไฟไหม้ตลาดคือหายนะ พวกเขาไม่มีประกัน และไม่มีรัฐบาลมาเยียวยา” – นักสังคมวิทยาอิสระในมอสโกกล่าว
ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอย บทเรียนที่ไม่เคยจำ
รัสเซียมีประวัติศาสตร์อันเลวร้ายเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมไฟไหม้ในที่สาธารณะ หากย้อนกลับไปดูสถิติจะพบว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
- ปี 2018 ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า Winter Cherry ในเมืองเคเมโรโว คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 60 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็ก
- ปี 2022 ไฟไหม้คลังสินค้า Ozon และ Mega Khimki ชานกรุงมอสโก สร้างความเสียหายระดับหมื่นล้านรูเบิล
ทุกครั้งหลังเกิดเหตุ ทางการรัสเซียมักประกาศ “กวาดล้าง” ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความหย่อนยานและการคอร์รัปชันในการออกใบอนุญาตก็กลับมาเป็นวงจรเดิม

บริบทภูมิรัฐศาสตร์ ข้อสงสัยเรื่องการก่อวินาศกรรม?
แม้หลักฐานเบื้องต้นจะชี้ไปที่อุบัติเหตุ แต่ในบริบทของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ดำเนินมาถึงปลายปี 2025 สื่อและโซเชียลมีเดียบางส่วนตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ของการ “ก่อวินาศกรรม” (Sabotage) เนื่องจากตลาดและคลังสินค้ามักเป็นเป้าหมายในการทำลายเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียยังไม่มีการยืนยันในประเด็นนี้ และมักจะพยายามระบุสาเหตุว่าเป็น “ความประมาท” เพื่อลดความตื่นตระหนกของประชาชน
บทสรุป เถ้าถ่านแห่งความจริง
เหตุการณ์ ไฟไหม้ตลาดรัสเซีย ในวันที่ 17 ธันวาคม 2025 ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน 1 ชีวิตที่สูญเสียไป และอีก 100 ชีวิตที่รอดตายมาได้ คือพยานปากสำคัญของระบบความปลอดภัยที่ล้มเหลว
ตราบใดที่ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานเก่า การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ และสภาพเศรษฐกิจที่บีบคั้นยังดำรงอยู่ ชาวรัสเซียก็จำต้องใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงที่พร้อมจะระเบิดเป็นเปลวเพลิงได้ทุกเมื่อ และโศกนาฏกรรมครั้งนี้อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของฤดูหนาวปีนี้
โลกภายนอกอาจมองเห็นเพียงควันไฟ แต่สำหรับคนข้างใน นี่คือสัญญาณเตือนภัยของระบบที่กำลังต้องการการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนที่สุด
แหล่งที่มาจาก : am2con