Arnold Schwarzenegger อาร์โนลด์ อาลัวส์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1947) เป็นนักแสดงชาวออสเตรียและอเมริกัน นักธุรกิจ อดีตนักการเมือง และอดีตนักเพาะกายมืออาชีพ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทบาทของเขาใน ภาพยนตร์แอคชั่นชื่อดัง เขาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนที่ 38ตั้งแต่ปี 2003 ถึงปี 2011 ชวาร์เซเน็กเกอร์เริ่มยกน้ำหนักเมื่ออายุ 15 ปีและได้รับ รางวัล Mr. Universeตอนอายุ 20 ปี และต่อมา ได้รางวัล Mr. Olympiaถึง 7 สมัย เขาเสมอกับฟิล ฮีธในการชนะ Mr. Olympia มากที่สุดเป็นอันดับสองตลอดกาล ตามหลังรอนนี่ โคลแมนและลี ฮานีย์ซึ่งครองอันดับหนึ่งร่วมกันด้วยการชนะคนละ 8 ครั้ง เขาได้รับฉายาว่า “ต้นโอ๊กแห่งออสเตรีย”
ในสมัยที่เขาเล่นเพาะกาย และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเพาะกาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง ตลอดกาล เขาเขียนหนังสือและบทความเกี่ยวกับการเพาะกาย รวมถึงหนังสืออัตชีวประวัติชื่อArnold: The Education of a Bodybuilder (1977) และThe New Encyclopedia of Modern Bodybuilding (1998) เทศกาลกีฬา Arnoldซึ่งเป็นงานเพาะกายที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับสองรองจาก Mr. Olympia ตั้งชื่อตามเขา เขาปรากฏตัวในสารคดีเกี่ยวกับการเพาะกายเรื่องPumping Iron (1977) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามีอาชีพในวงการภาพยนตร์
Arnold Schwarzenegger ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’
ในช่วงเวลานี้ ดูเหมือนมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันระหว่าง ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ (Arnold Schwarzenegger) กับ Netflix อยู่สองสามประเด็น หนึ่ง, คือมีการออกอากาศภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติอาร์โนลด์ ทาง Netflix เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สอง, คือ Netflix มีการแต่งตั้งให้ อาร์โนลด์ ดำรงตำแหน่ง CAO (Chief Action Officer) หรือ ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’ นับเป็นบทบาทใหม่ของอาร์โนลด์ เจ้าของฉายา ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ ผู้ที่อย่างน้อยฉายาได้ชี้ชัดไว้ 2 บทบาท คือ ‘ผู้ว่าฯ’ และ ‘คนเหล็ก’
‘ผู้ว่าฯ’ หมายถึงบทบาทเมื่อครั้งที่เขาชนะเลือกตั้ง ‘ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย’ คนที่ 38 ส่วน ‘คนเหล็ก’ หมายถึงอาชีพในวงการบันเทิง โดยเฉพาะในบทบาท ‘คนเหล็ก’ จากภาพยนตร์ชุด ‘The Terminator’ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ติดตัวเขาไปสู่หนังเรื่องอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน โดยก่อนที่จะเป็น ‘คนเหล็ก’ อาร์โนลด์เคยเป็น ‘นักกล้ามบันลือโลก’ หรือ ‘แชมป์โลกเพาะกาย’ หลายสมัย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ส่งให้เขาเข้าสู่ฮอลลีวูด แต่ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิง อาร์โนลด์เคยเป็นนักธุรกิจ SME ขายอุปกรณ์เพาะกาย และเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มาก่อนด้วย
ฉากและชีวิตของอาร์โนลด์ ไม่เพียงเป็นเรื่องราวแบบ 3 in 1 หรือ 4 in 1 คือ แชมป์โลกเพาะกาย นักธุรกิจ พระเอกหนัง และผู้ว่าการรัฐฯ เท่านั้น เพราะปัจจุบันอาร์โนลด์ยังรับบท ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’ พ่วงมาด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง ‘ผมไม่อยากเป็นนักบอล’ เส้นทางสู่ ‘แชมป์โลกเพาะกาย’ อาร์โนลด์เป็นคนออสเตรีย มีพี่ชายหนึ่งคน มีพ่อเป็นตำรวจผู้ฝักใฝ่ลัทธินาซี มีแม่เป็นแม่บ้าน อาร์โนลด์เกิดที่เมืองทาลเมื่อปี 1947 เติบโตในบรรยากาศครอบครัวที่พ่อชอบใช้ความรุนแรงกับแม่และตัวเขา มีเพียงพี่ชายที่พ่อรัก และพ่อชอบด้อยค่าเขาตั้งแต่เล็กจนโต โดยเปรียบเทียบเขากับพี่ชาย
เป็นธรรมดาของชนชั้นล่างยุโรปที่พ่อแม่มักมองหาอาชีพให้ลูก ๆ ถ้าเป็นวงการกีฬา ชาวยุโรปส่วนใหญ่ล้วนคลั่งไคล้ฟุตบอล แต่อาร์โนลด์ชื่นชอบ ‘ยกน้ำหนัก’ มากกว่า เขาแอบไปซ้อมยกน้ำหนัก และต่อมาก็เริ่มเพาะกายตั้งแต่อายุ 14 ปี จากการมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ‘Hercules and the Captive Women’ ที่ออกฉายในโรงหนังออสเตรียปี 1961 ซึ่งนำแสดงโดยแชมป์เพาะกาย ‘เร็ก ปาร์ค’ (Reg Park) am2con
ทำให้เขายึดถือ เร็ก ปาร์ค เป็นต้นแบบทั้งในกีฬาเพาะกาย และอาชีพนักแสดง อาร์โนลด์จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะออกจากออสเตรีย เดินทางไปอเมริกาเพื่อสานฝันในวัยเด็กของเขา คือเป็น ‘นักกล้ามแชมป์โลก’ และเป็นพระเอกหนังเหมือนเร็ก ปาร์ค เขามุ่งมั่นฝึกซ้อม และลงแข่งในบ้านเกิด จากนั้นเดินทางไปทั่วออสเตรียเพื่อประกวดเพาะกาย ได้พบเจอผู้คนมากมายที่ชักนำเขาให้ออกจากออสเตรีย
หลังไต่เต้าจากรายการแข่งขันระดับเยาวชนทั่วยุโรป จนขึ้นชั้นสู่รุ่นใหญ่ คว้าแชมป์มิสเตอร์ยุโรป อาร์โนลด์จึงมีโอกาสได้ไปอเมริกาจริง ๆ เพื่อเข้าประกวด ‘เพาะกายชิงแชมป์โลก’ หรือ ‘มิสเตอร์ยูนิเวิร์ส’ ที่อเมริกา จากนั้นเขานำเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันเบ่งกล้ามไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเปิดกิจการขายอุปกรณ์เพาะกายทางไปรษณีย์ ซึ่งธุรกิจ SME ของอาร์โนลด์เดินหน้าไปด้วยดี
ระหว่างนั้น อาร์โนลด์ไขว่คว้าหาโอกาสในวงการบันเทิง ด้วยบทตัวประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ และไปลงเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจภาคค่ำ ที่มหาวิทยาลัยแห่งวิสคอนซิน พร้อมกับเข้าประกวดมิสเตอร์ยูนิเวิร์ส และชนะเลิศอีก 4 สมัย จากนั้นก็พุ่งสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักกล้าม ด้วยการคว้าตำแหน่ง ‘มิสเตอร์โอลิมเปีย’ 6 ครั้งติดต่อกัน
และแล้วฝันของอาร์โนลด์ก็เป็นจริง เมื่อเขาเข้าทดสอบหน้ากล้องภาพยนตร์เรื่อง ‘Hercules in New York’ และผ่านการคัดเลือก ได้เป็นพระเอกในปี 1970 หลังจากนั้นเขามีงานแสดงอีก 2 – 3 เรื่อง จนได้มารับบท ‘โคแนน’ ในภาพยนตร์ ‘Conan the Barbarian’ ปี 1982 ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างจริงจัง และมาดังทะลุฟ้ากับบท ‘คนเหล็ก’ ในหนังเรื่อง ‘The Terminator’ ทำให้มีผลงานตามมาอีกหลายเรื่อง เช่น Commando, Predator, Total Recall, Kindergarten Cop, Twins