จีนเตือนปชช.รับมือ “คลื่นอากาศเย็น” มวลอากาศหนาวเย็นแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่

จีน คลื่นอากาศเย็น

ปักกิ่ง, สาธารณรัฐประชาชนจีน — ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน (NMC) ได้ยกระดับการเตือนภัยเป็น “สีเหลือง” (Yellow Alert) เมื่อเช้าวันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เพื่อรับมือกับ คลื่นอากาศเย็น หรือ “หานเฉา” (寒潮) ลูกแรกที่รุนแรงที่สุดของฤดูหนาวปีนี้ ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวจากไซบีเรียเข้าแผ่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้

ในขณะที่ประชาชนหลายร้อยล้านคนกำลังเตรียมรับมือกับอุณหภูมิที่ดิ่งฮวบลง 10-14 องศาเซลเซียส และพายุหิมะในหลายพื้นที่ นี่ไม่ใช่แค่รายงานพยากรณ์อากาศธรรมดา แต่สำหรับแวดวงเศรษฐกิจและการเมืองโลก นี่คือ “บททดสอบสุดขั้ว” (Extreme Stress Test) ครั้งสำคัญที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

การที่ จีน คลื่นอากาศเย็น แผ่ปกคลุมในครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกและวิกฤตพลังงานที่ยังไม่จางหาย การจับตาดูของนานาชาติจึงไม่ได้อยู่ที่เทอร์โมมิเตอร์เท่านั้น แต่อยู่ที่ “ความมั่นคงทางพลังงาน” ของจีน ฤดูหนาวนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่าจีนได้เรียนรู้จากวิกฤตไฟฟ้าดับในปี 2021 หรือไม่ และผลกระทบจากความหนาวเย็นนี้จะส่งแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดก๊าซ LNG โลก และห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอย่างไร

China sees first cold wave of 2024, multiple regions experiencing  snowstorms - Global Times

“เตือนภัยสีเหลือง” สัญญาณอันตรายจาก “หานเฉา” ลูกแรก

ตามประกาศอย่างเป็นทางการของ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน (NMC) คลื่นความเย็นระลอกนี้มีความรุนแรงเพียงพอที่จะยกระดับการเตือนภัยเป็น “สีเหลือง” (ระดับ 3 จาก 4 ระดับ) ซึ่งส่งสัญญาณถึงผลกระทบในวงกว้าง

  • เส้นทางการเคลื่อนตัว มวลอากาศเย็นจัดจากไซบีเรียได้เริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ซินเจียงและมองโกเลียในแล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกและใต้ด้วยความเร็วสูง
  • พื้นที่ผลกระทบ คาดว่า 18 มณฑลและเมืองใหญ่จะได้รับผลกระทบ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มณฑลเฮยหลงเจียง, จี๋หลิน, เหลียวหนิง) จะเผชิญกับ พายุหิมะ รุนแรง
  • อุณหภูมิลดฮวบ NMC คาดการณ์ว่าอุณหภูมิในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือและตอนกลางของจีน จะลดลงอย่างรวดเร็ว 10-14 องศาเซลเซียส ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า
  • จุดเยือกแข็งในเมืองหลวง กรุงปักกิ่ง ซึ่งปกติจะเริ่มหนาวเย็นในเวลานี้ คาดว่าจะเผชิญกับอุณหภูมิต่ำสุดติดลบ 15 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งถือว่าหนาวเย็นเร็วกว่าค่าเฉลี่ย

“นี่คือคลื่นอากาศเย็นที่มีลักษณะเฉพาะคือ ‘การเคลื่อนตัวเร็ว’, ‘อุณหภูมิลดลงอย่างรุนแรง’ และ ‘ขอบเขตผลกระทบกว้างขวาง'” โฆษกของ NMC กล่าวในงานแถลงข่าว “เราขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ… โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ… เตรียมพร้อมสำหรับสภาพอากาศเลวร้ายที่อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งและชีวิตประจำวัน”

สถานการณ์ล่าสุด ปิดถนน-หยุดเรียน รับมือหิมะถล่ม

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการประกาศเตือนภัย ผลกระทบก็เริ่มปรากฏให้เห็นแล้วในหลายพื้นที่

  • เฮยหลงเจียง เมืองฮาร์บินและเมืองอื่นๆ ในมณฑลเฮยหลงเจียง ได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนในโรงเรียนทุกระดับเป็นเวลา 2 วัน และแนะนำให้บริษัทเอกชนปรับเปลี่ยนเวลาทำงานหรืออนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน
  • การคมนาคมเป็นอัมพาต ทางด่วนหลายสายในมณฑลเหลียวหนิงและจี๋หลินถูกปิดให้บริการแล้ว เนื่องจากทัศนวิสัยเลวร้ายและหิมะที่ทับถมสูง เที่ยวบินหลายสิบเที่ยวบินที่สนามบินฮาร์บินและเสิ่นหยางถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป
  • ปักกิ่งเตรียมพร้อม แม้หิมะยังไม่ตกหนักในเมืองหลวง แต่รัฐบาลท้องถิ่นกรุงปักกิ่งได้สั่งการให้บริษัทผู้ให้บริการทำความร้อน (Heating Companies) เริ่มเดินเครื่องระบบทำความร้อนส่วนกลาง (Central Heating) เร็วกว่ากำหนดการปกติ 1 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนในอพาร์ตเมนต์หลายล้านคนจะมีความอบอุ่นเพียงพอ

บทวิเคราะห์เชิงลึก “สงครามพลังงานฤดูหนาว” บททดสอบใหม่ของสี จิ้นผิง

สิ่งที่ทำให้นานาชาติจับตามองคลื่นความเย็นในจีนครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงของมัน แต่เป็น “ช่วงเวลา” ที่มันเกิดขึ้น นี่คือบททดสอบแรกของฤดูกาลต่อคำมั่นสัญญาที่ใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งของรัฐบาลปักกิ่ง นั่นคือ “ความมั่นคงทางพลังงาน”

Strong cold wave to sweep China as warning issued across  country|Society|chinadaily.com.cn

บทเรียนราคาแพงจาก “วิกฤตไฟฟ้าดับ 2021”

ความทรงจำเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานครั้งเลวร้ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 ยังคงชัดเจน

  • ในครั้งนั้น การขาดแคลนถ่านหินอย่างรุนแรง (เนื่องจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและการควบคุมราคา) ประกอบกับความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นหลังโควิด-19 ทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง (Rolling Blackouts) ในหลายมณฑล
  • ผลกระทบคือหายนะ โรงงานหลายพันแห่งต้องหยุดการผลิต, สัญญาณไฟจราจรดับ, และประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องทนอยู่ในความมืดและความหนาวเย็น
  • นี่ถือเป็นความล้มเหลวที่น่าอับอายสำหรับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเน้นย้ำเรื่อง “เสถียรภาพ” และความสามารถในการจัดหาสิ่งจำเป็นพื้นฐาน

การเดิมพันทั้งหมดอยู่ที่ “ถ่านหิน” และ “ก๊าซ”

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการ “ทุกวิถีทาง” เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

  • การเพิ่มการผลิตถ่านหิน จีนได้สั่งการให้เหมืองถ่านหินเพิ่มการผลิตอย่างเต็มกำลัง แม้จะขัดแย้งกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศก็ตาม
  • การกักตุนก๊าซ (LNG) บริษัทพลังงานของรัฐ เช่น Sinopec และ PetroChina ได้ทำสัญญาระยะยาวเพื่อนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จำนวนมหาศาล และเติมคลังเก็บก๊าซจนเต็มความจุก่อนฤดูหนาว
  • การอัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้า มีการลงทุนมหาศาลในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grids) และสายส่งไฟฟ้าแรงสูงพิเศษ (UHV) เพื่อส่งไฟฟ้าจากตะวันตก (ที่มีพลังงานน้ำและแสงอาทิตย์) ไปยังตะวันออก (ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม)

คลื่นความเย็นลูกนี้ คือ “บททดสอบ” แรกว่ามาตรการเหล่านี้เพียงพอหรือไม่ จีนรับมืออากาศหนาวอย่างไร ในปีนี้ จะเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของระบบพลังงานใหม่ทั้งหมด

ผลกระทบระดับโลก ทำไมยุโรปต้องจับตาดู “เทอร์โมมิเตอร์ของปักกิ่ง”

ความหนาวเย็นในจีนไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในประเทศ แต่ส่งแรงกระเพื่อมโดยตรงไปยังตลาดพลังงานโลก โดยเฉพาะตลาดยุทธศาสตร์อย่าง LNG

  • สงครามแย่งชิง LNG ยุโรป ซึ่งพยายามเลิกพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียอย่างถาวร กลายเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ในตลาด LNG โลก แต่จีนก็เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดเช่นกัน
  • สถานการณ์ปัจจุบัน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตลาด LNG ค่อนข้างสงบ เนื่องจากยุโรปมีคลังเก็บกักที่เต็มความจุ และจีน (เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว) ไม่ได้ซื้อจากตลาดจร (Spot Market) มากนัก
  • จุดเปลี่ยนจากคลื่นความเย็น หาก จีน คลื่นอากาศเย็น รุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ปริมาณก๊าซสำรองที่จีนกักตุนไว้อาจไม่เพียงพอ
  • ผลกระทบ บริษัทจีนจะถูกบีบให้กลับเข้าสู่ตลาดจรเพื่อแย่งซื้อ LNG เพิ่มเติม การแข่งขันที่ดุเดือดกับผู้ซื้อในยุโรปและญี่ปุ่น จะทำให้ราคา LNG ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นทันที ซึ่งอาจจุดชนวนวิกฤตค่าครองชีพในยุโรปให้เลวร้ายลงอีกครั้ง

“ตลาด LNG ทั่วโลกกำลังกลั้นหายใจ” นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยพลังงาน Oxford Institute for Energy Studies กล่าว “เทอร์โมมิเตอร์ในปักกิ่งและฮาร์บินในสัปดาห์นี้ มีความสำคัญต่อราคาพลังงานในลอนดอนและเบอร์ลิน มากเท่ากับสภาพอากาศในยุโรปเอง”

Cold waves bring stunning snow, rime scenery across China

ห่วงโซ่อุปทานสะดุด? จากผักใบเขียวสู่ iPhone

ผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่ได้หยุดอยู่ที่พลังงาน แต่ลามไปถึงทุกส่วนของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานโลก

  1. ภาคเกษตรกรรมและเงินเฟ้อ คลื่นความเย็นและการขาดแสงแดดกะทันหัน เป็นอันตรายต่อพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะผักใบเขียวในเรือนเพาะชำทางภาคเหนือ
  • ราคาผักพุ่ง เป็นที่คาดการณ์ว่าราคาผักสดในปักกิ่งและเทียนจินจะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะซ้ำเติมแรงกดดันด้านค่าครองชีพของประชาชนในเมือง
  1. ภาคอุตสาหกรรมและการผลิต แม้จีนจะเตรียมพร้อมด้านพลังงานดีกว่าปี 2021 แต่ความเสี่ยงที่โรงงานจะหยุดชะงักก็ยังคงมีอยู่
  • การขนส่งโลจิสติกส์ อุปสรรคแรกคือการขนส่ง การปิดทางด่วนและสนามบินในภาคเหนือ หมายความว่าชิ้นส่วนต่างๆ ไม่สามารถส่งไปยังโรงงานประกอบได้ และสินค้าสำเร็จรูปก็ไม่สามารถส่งไปยังท่าเรือได้
  • การปันส่วนพลังงาน (ในกรณีเลวร้ายที่สุด) หากโครงข่ายไฟฟ้าตึงตัว รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการ “ปันส่วนพลังงาน” (Power Rationing) โดยจะให้ความสำคัญกับ “บ้านเรือน” เป็นอันดับแรกเสมอ นั่นหมายความว่า “โรงงานอุตสาหกรรม” จะเป็นกลุ่มแรกที่ถูกสั่งให้ลดการใช้พลังงานหรือปิดตัวชั่วคราว
  • ผลกระทบต่ออาเซียนและไทย (มุมมองเสริม) โรงงานในจีนหลายแห่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญที่ป้อนให้กับโรงงานประกอบในเวียดนาม, มาเลเซีย และไทย (เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์) การหยุดชะงักเพียงไม่กี่วันในจีน อาจหมายถึงการขาดแคลนชิ้นส่วนในสายการผลิตของอาเซียนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

บทสรุป 72 ชั่วโมงแห่งการจับตา จีนจะ “แช่แข็ง” หรือ “ยืนหยัด”

การที่ จีนเตือนอากาศหนาว ในครั้งนี้ เป็นมากกว่าพาดหัวข่าวสภาพอากาศตามฤดูกาล มันคือจุดตัดที่สมบูรณ์แบบของความท้าทายด้านภูมิอากาศ, ความมั่นคงทางพลังงาน, และภูมิเศรษฐศาสตร์โลก (Geo-economics)

ในอีก 72 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่มวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมจากกำแพงเมืองจีนสู่แม่น้ำแยงซี โลกไม่ได้เพียงแค่เฝ้าดูว่าอุณหภูมิลดลงต่ำเพียงใด แต่กำลังเฝ้าดูว่าโครงข่ายพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะทนทานได้หรือไม่

ผลลัพธ์ของบททดสอบนี้ ไม่เพียงแต่จะกำหนดชะตากรรมทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่สี่ แต่ยังจะส่งผลต่อบิลค่าไฟในยุโรป และความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทานที่ค้ำจุนเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

แหล่งที่มาจาก : am2con