พายุเฮอริเคนเอริน แม้อ่อนกำลัง แต่ ‘สตอร์มเซิร์จ’ มรณะและผลกระทบราคาน้ำมัน คือภัยร้ายตัวจริง

พายุเฮอริเคนเอริน

แม้ข่าวการอ่อนกำลังของพายุเฮอริเคนเอริน จากระดับ 4 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3 จะสร้างความโล่งใจให้กับผู้คนได้เพียงชั่วครู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับเตือนว่า ภัยคุกคามที่แท้จริงและอันตรายถึงชีวิตที่สุดจากพายุลูกนี้ไม่ใช่ความเร็วลม แต่เป็น “สตอร์มเซิร์จ” หรือกำแพงน้ำขนาดยักษ์ที่กำลังมุ่งหน้าถล่มชายฝั่งฟลอริดา ขณะเดียวกัน ในอีกมุมหนึ่งของมหาสมุทรแห่งความกังวล ผลกระทบจากพายุลูกนี้ได้เริ่มส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงกระเป๋าเงินของผู้คนทั่วโลกแล้ว รวมถึงประเทศไทย ผ่านกลไกราคาน้ำมันที่กำลังผันผวนอย่างหนัก

สถานการณ์เฮอริเคนล่าสุด จาก ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (NHC) ของสหรัฐฯ ยืนยันว่า พายุเฮอริเคนเอริน ได้ลดระดับความรุนแรงลงเป็นเฮอริเคนระดับ 3 ตาม มาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน แต่คำเตือนที่ตามมานั้นกลับน่ากังวลยิ่งกว่าเดิม เพราะ “อสูรร้ายที่แท้จริง” ของพายุลูกนี้คือ สตอร์มเซิร์จ (Storm Surge) หรือคลื่นพายุซัดฝั่ง ที่คาดว่าจะสูงหลายเมตรและเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะที่ เส้นทางพายุเฮอริเคน กำลังมุ่งหน้าสู่รัฐ ฟลอริดา พร้อมกันนั้น การเคลื่อนตัวผ่านใจกลางแหล่งพลังงานใน อ่าวเม็กซิโก ได้บังคับให้แท่นขุดเจาะน้ำมันต้องหยุดทำการ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดพลังงานโลก บทความนี้จะเจาะลึกสองมิติของวิกฤตครั้งนี้ ทั้งภัยคุกคามจากกำแพงน้ำมรณะ และ ผลกระทบเฮอริเคนเอรินต่อราคาน้ำมัน ที่คนไทยต้องจับตามอง

Life-Threatening' Damage Expected to Hit Several Areas, Despite Hurricane  Erin's Downgrade to Category 3 Storm

สถานการณ์ล่าสุด เส้นทางพายุเฮอริเคนเอรินมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา

ณ เวลาล่าสุด พายุเฮอริเคนเอริน กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ อยู่ใน อ่าวเม็กซิโก ด้วย ความเร็วลมเฮอริเคนระดับ 3 ซึ่งมีความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะลดลงจากระดับ 4 ที่มีความเร็วลมสูงถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังจัดเป็น “พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่” (Major Hurricane) ที่มีศักยภาพในการทำลายล้างสูง

คำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้คือ เฮอริเคนเอรินจะเข้าฝั่งเมื่อไหร่? แบบจำลองพยากรณ์อากาศส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางของพายุจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งฟลอริดา แพนแฮนเดิล (Florida Panhandle) ในช่วงค่ำของวันอังคารที่ 19 สิงหาคม ถึงเช้าวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2025 ตามเวลาท้องถิ่น

ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายเคาน์ตีของรัฐฟลอริดา แอละแบมา และมิสซิสซิปปี พร้อมทั้งมีคำสั่งอพยพภาคบังคับสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและแนวชายฝั่ง ซึ่งคาดว่ามีจำนวนหลายแสนคน

ลมไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจ รู้จัก ‘สตอร์มเซิร์จ’ ภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในมุมมองของนักอุตุนิยมวิทยา ไม่ใช่ตัวเลขความเร็วลมที่ลดลง แต่คือขนาดของพายุและพลังงานที่มันสะสมมาตลอดการเดินทาง พายุขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวช้ามีความสามารถในการ “กวาด” และ “ดัน” มวลน้ำทะเลจำนวนมหาศาลให้ก่อตัวเป็นโดมน้ำขนาดยักษ์ ซึ่งเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่ง มันจะยกตัวสูงขึ้นกลายเป็นกำแพงน้ำที่เรียกว่า “สตอร์มเซิร์จ”

“ประชาชนมักจะยึดติดกับระดับความรุนแรงของพายุ แต่สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า การเสียชีวิตส่วนใหญ่จากพายุเฮอริเคนไม่ได้มาจากลม แต่มาจากการจมน้ำที่เกิดจากสตอร์มเซิร์จ” ผู้อำนวยการ NHC กล่าวเน้นย้ำ “สตอร์มเซิร์จสูง 15 ฟุต (4.5 เมตร) สามารถท่วมบ้านชั้นเดียวได้มิดหลัง พลังของมันสามารถพัดพารถยนต์และทำลายโครงสร้างอาคารได้อย่างง่ายดาย มันไม่ใช่แค่คลื่น แต่คือกำแพงน้ำที่เคลื่อนที่”

มาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน บอกอะไรเราบ้าง?

เพื่อให้เข้าใจถึงความรุนแรง เราควรทำความรู้จักกับ มาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน ซึ่งแบ่งความรุนแรงของเฮอริเคนเป็น 5 ระดับตามความเร็วลม

  • ระดับ 1 (119-153 กม./ชม.) – สร้างความเสียหายเล็กน้อย
  • ระดับ 2 (154-177 กม./ชม.) – สร้างความเสียหายปานกลาง
  • ระดับ 3 (178-208 กม./ชม.) – (ระดับของเอรินในปัจจุบัน) สร้างความเสียหายรุนแรง สามารถถอนต้นไม้ใหญ่และทำลายบ้านเรือนได้
  • ระดับ 4 (209-251 กม./ชม.) – สร้างความเสียหายหายนะ บ้านส่วนใหญ่อาจพังทลาย
  • ระดับ 5 (>252 กม./ชม.) – สร้างความเสียหายระดับมหาหายนะ พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยไม่ได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

แม้เอรินจะอยู่ที่ระดับ 3 แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ของมัน ทำให้สามารถสร้างสตอร์มเซิร์จได้เทียบเท่ากับพายุระดับ 4 ในบางพื้นที่

Hurricane Erin to bring rough waves, strong surf to Space Coast during  Atlantic passage

ผลกระทบเฮอริเคนเอรินต่อราคาน้ำมัน เมื่ออ่าวเม็กซิโกต้องหยุดผลิต

นอกเหนือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ พายุเฮอริเคนเอริน ยังกำลังสร้าง “พายุ” ลูกใหม่ในตลาดการเงินโลก อ่าวเม็กซิโก ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ แต่เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐฯ โดยเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบประมาณ 17% และก๊าซธรรมชาติ 5% ของประเทศ

เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ เช่น Shell, BP, และ Chevron ได้ดำเนินการอพยพบุคลากรออกจากแท่นขุดเจาะและแท่นผลิตที่อยู่ใน เส้นทางพายุเฮอริเคน และสั่งหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราว

ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีคือ

  • อุปทานน้ำมันหายไปจากตลาด รายงานล่าสุดระบุว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกได้ลดลงแล้วประมาณ 40-50% หรือราว 700,000 – 900,000 บาร์เรลต่อวัน
  • ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น ทันทีที่ข่าวการหยุดผลิตแพร่ออกไป สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI และ Brent ในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นทันทีราว 2-3% เนื่องจากความกังวลว่าอุปทานจะตึงตัว
  • ความเสี่ยงระยะยาว หากพายุสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อท่อส่งน้ำมันหรือโรงกลั่นริมชายฝั่ง อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการกลับมาผลิตได้เต็มกำลัง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันค้างอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน

สำหรับประเทศไทยซึ่งต้องนำเข้าน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกย่อมส่งผลโดยตรงต่อราคาขายปลีกในประเทศ ซึ่งจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เสียงจากพื้นที่ ประชาชนเร่งอพยพและวิธีรับมือพายุเฮอริเคน

ขณะนี้ ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าออกจากแนวชายฝั่งเต็มไปด้วยรถยนต์ของประชาชนที่กำลังอพยพตามคำสั่งของทางการ ปั๊มน้ำมันและซูเปอร์มาร์เก็ตเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเติมน้ำมันและกักตุนเสบียง

“เราจะไม่เสี่ยง” ครอบครัวสมิธให้สัมภาษณ์ขณะกำลังนำแผ่นไม้มาปิดหน้าต่างบ้านในเมืองปานามาซิตี้ “เราผ่านเฮอริเคนไมเคิลเมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว เรารู้ดีว่ามันเลวร้ายแค่ไหน เราเอาเอกสารสำคัญ ของใช้จำเป็น และสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ แล้วจะมุ่งหน้าไปอยู่กับญาติที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน”

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง วิธีรับมือพายุเฮอริเคน ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือ

  • ปฏิบัติตามคำสั่งอพยพทันที
  • เตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน รวมถึงน้ำดื่ม, อาหารแห้ง, ยารักษาโรค, ไฟฉาย, แบตเตอรี่สำรอง
  • ป้องกันบ้านเรือน นำวัตถุที่อาจปลิวได้เข้ามาในบ้าน, ปิดหน้าต่างด้วยแผ่นไม้
  • ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด

Hurricane Erin weakens to Category 3 as forecasters warn of storm's rapid  growth | The Hill

บทสรุป

พายุเฮอริเคนเอริน คือเครื่องย้ำเตือนอีกครั้งว่า ภัยธรรมชาติในยุคปัจจุบันมีความซับซ้อนและส่งผลกระทบในวงกว้างกว่าที่เราคิด การลดระดับความรุนแรงของลมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด แต่ภัยคุกคามจากน้ำอย่าง สตอร์มเซิร์จ ยังคงเป็นอันตรายที่ประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด ในขณะเดียวกัน โลกที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบเศรษฐกิจทำให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในมุมหนึ่งของโลก สามารถส่งแรงกระเพื่อมมาถึงชีวิตประจำวันของเราได้ผ่านราคาพลังงาน การจับตาสถานการณ์ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การติดตามข่าวต่างประเทศ แต่คือการเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเราทุกคนในไม่ช้า

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *