Apple Inc. กำลังเก็บเกี่ยวผลลัพธ์อันหอมหวานจากตลาดอินเดียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยการสร้างสถิติรายได้ใหม่เกือบ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบปีบัญชีล่าสุด ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ทางการตลาดที่สะท้อนกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของชาวอินเดียเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของยุทธศาสตร์ระดับโลกที่เรียกว่า ‘China Plus One’ ซึ่งเชื่อมโยงมิติทางภูมิรัฐศาสตร์เข้ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแยกไม่ออก ตอกย้ำว่าอินเดียได้ก้าวขึ้นมาเป็นทั้ง “ตลาดผู้บริโภค” ขนาดยักษ์และ “ฐานการผลิต” ที่สำคัญแห่งใหม่ของ Apple อย่างเต็มตัวแล้ว
ยอดขาย Apple ในอินเดีย ไม่ใช่แค่ตัวเลข ถอดรหัส 4 ปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จ
ตัวเลขรายได้เกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.3 แสนล้านบาท) ในปีบัญชีที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ และเป็นการตอกย้ำว่าอินเดียคือตลาดที่สดใสที่สุดของ Apple ในขณะที่ตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว เบื้องหลังความสำเร็จนี้เกิดจากปัจจัยเชิงกลยุทธ์หลายอย่างที่ทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว
- 1. คลื่น “Premiumization” ของตลาดสมาร์ทโฟนอินเดีย ผู้บริโภคชาวอินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลางที่มีรายได้สูงขึ้น กำลังมองหาสินค้าที่มีคุณภาพและสะท้อนสถานะทางสังคมมากขึ้น (Premiumization) ส่งผลให้ความต้องการสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Apple ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ (ราคามากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ) จึงได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ
- 2. พลังของนโยบาย “Make in India” รัฐบาลอินเดียได้ผลักดันนโยบาย “Make in India” อย่างจริงจัง เพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างฐานการผลิตภายในประเทศ Apple ได้ขานรับนโยบายนี้ด้วยการเพิ่มสัดส่วน การผลิต iPhone ในอินเดีย อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า iPhone มากกว่า 1 ใน 4 ที่วางขายทั่วโลกถูกประกอบขึ้นในอินเดีย การผลิตในประเทศช่วยให้ Apple สามารถลดต้นทุนจากภาษีนำเข้าและทำราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภค
- 3. การปฏิวัติประสบการณ์ค้าปลีกด้วย Apple Store การเปิดตัว Apple Store อย่างเป็นทางการแห่งแรกในอินเดียที่มุมไบและเดลีในปี 2023 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ การมีหน้าร้านของตัวเองช่วยให้ Apple สามารถควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการบริการหลังการขาย สร้างความเชื่อมั่นและยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
- 4. แผนการเงินที่เข้าถึงง่าย Apple และตัวแทนจำหน่ายในอินเดียได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อเสนอแผนการผ่อนชำระที่หลากหลายและโปรโมชันแลกซื้อ (Trade-in) ที่น่าดึงดูด ซึ่งช่วยทลายกำแพงด้านราคาและทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ Apple ได้ง่ายขึ้น
อินเดีย คำตอบของยุทธศาสตร์ “China Plus One”
ความสำเร็จในอินเดียมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องยอดขาย แต่มันคือภาพสะท้อนของ “การปรับสมดุล” ครั้งใหญ่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของโลก ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา Apple พึ่งพาจีนในฐานะโรงงานผลิตหลักของโลก แต่ด้วยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างเริ่มมองหากลยุทธ์ “China Plus One” เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป
อินเดียได้กลายเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับยุทธศาสตร์นี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายประการ
- แรงงานมหาศาล อินเดียมีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก ซึ่งเป็นแหล่งแรงงานสำคัญสำหรับภาคการผลิต
- ตลาดภายในประเทศขนาดยักษ์ การตั้งฐานการผลิตในอินเดียไม่เพียงเพื่อการส่งออก แต่ยังเพื่อรองรับตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- การสนับสนุนจากรัฐบาล นโยบาย “Make in India” และสิทธิประโยชน์ทางภาษี (PLI Scheme) เป็นแรงจูงใจสำคัญที่ดึงดูดซัพพลายเออร์รายใหญ่อย่าง Foxconn, Pegatron, และ Wistron (ซึ่งปัจจุบันถูกซื้อกิจการโดย Tata Group) ให้ขยายการลงทุนในอินเดีย
จาก “Made in China” สู่ “Assembled in India” ที่แข็งแกร่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้อย่างชัดเจนผ่านการเข้ามามีบทบาทของกลุ่มทุนใหญ่อินเดียอย่าง Tata Group ซึ่งได้เข้าซื้อโรงงานประกอบ iPhone จาก Wistron และมีแผนที่จะสร้างโรงงานประกอบ iPhone ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ความร่วมมือนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า Apple ไม่เพียงแต่ย้ายฐานการประกอบ แต่กำลังสร้างระบบนิเวศการผลิตที่ครบวงจรและยั่งยืนในอินเดีย
มุมมองจาก Tim Cook และ Wall Street
Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้กล่าวถึงตลาดอินเดียด้วยความกระตือรือร้นมาโดยตลอด ในการแถลงผลประกอบการครั้งล่าสุด เขาได้ย้ำว่า “อินเดียเป็นตลาดที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับเรา และเรามองเห็นโอกาสในการเติบโตอีกมหาศาล เรากำลังลงทุนในตลาดนี้สำหรับระยะยาว” คำพูดของเขาสะท้อนความเชื่อมั่นอย่างสูงต่อศักยภาพของอินเดีย
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก Wall Street และสถาบันวิจัยตลาดอย่าง Counterpoint Research ก็มีมุมมองในทิศทางเดียวกัน “อินเดียกำลังกลายเป็น ‘เครื่องยนต์คู่’ (Twin Engine) สำหรับ Apple” นักวิเคราะห์อาวุโสจาก IDC กล่าว “มันไม่ใช่แค่ตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด แต่ยังเป็นฐานการผลิตเชิงยุทธศาสตร์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของบริษัท”
ความท้าทายบนเส้นทางสู่ตลาดแสนล้าน
แม้ว่าแนวโน้มจะดูสดใส แต่เส้นทางของ Apple ในอินเดียก็ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า
- การแข่งขันที่ดุเดือด ตลาดสมาร์ทโฟนอินเดียโดยรวมยังคงถูกครอบงำโดยแบรนด์ Android ที่มีราคาจับต้องได้ เช่น Samsung, Xiaomi, และ Vivo การเจาะตลาดในกลุ่มราคาต่ำกว่ายังคงเป็นโจทย์ที่ท้าทาย
- ความอ่อนไหวต่อราคา แม้กำลังซื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงมีความอ่อนไหวต่อราคา การรักษาสมดุลระหว่างภาพลักษณ์พรีเมียมกับราคาที่แข่งขันได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
- การขยายตัวนอกเมืองใหญ่ การเติบโตของ Apple ในปัจจุบันยังคงกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ (Tier-1 Cities) การเจาะเข้าไปยังเมืองรอง (Tier-2, Tier-3) คือโอกาสและสมรภูมิต่อไปที่ต้องเอาชนะให้ได้
ผลกระทบต่อซัพพลายเชนในเอเชียและไทย
การที่อินเดียก้าวขึ้นมาเป็นฮับการผลิตแห่งใหม่ของ Apple ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชีย ประเทศที่เคยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญอย่างเวียดนามและไทยอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในการดึงดูดการลงทุน อย่างไรก็ตาม นี่ยังอาจเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการผลิตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอินเดีย
บทสรุป อินเดียคืออนาคตที่ Apple เดิมพัน
ยอดขาย Apple ในอินเดีย ที่ทุบสถิติเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มันคือผลลัพธ์ของการวางกลยุทธ์ระยะยาวที่มองการณ์ไกล การตัดสินใจเดิมพันกับอินเดียในฐานะเสาหลักต้นใหม่ ทั้งในด้านการตลาดและการผลิต กำลังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์โลก
อินเดียได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นมากกว่าแค่ตลาดเกิดใหม่ แต่เป็นดินแดนแห่งโอกาสที่ Apple จะสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนในทศวรรษข้างหน้า และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ทั้งโลกต้องจับตามองทุกย่างก้าวของยักษ์ใหญ่แห่งคูเปอร์ติโนในตลาดที่สำคัญแห่งนี้ต่อไป
แหล่งที่มาจาก : am2con
