ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ส (Flinders University) ประเทศออสเตรเลีย ได้ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญที่อาจปฏิวัติความปลอดภัยทางทะเลและการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับฉลาม ด้วยการพัฒนาและทดสอบ “ชุดเว็ตสูทป้องกันฉลาม” ที่ผลิตจากวัสดุผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูง นวัตกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่เป็นผลลัพธ์จากการวิจัยและทดสอบอย่างเข้มข้นที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความรุนแรงของการบาดเจ็บจากคมเขี้ยวฉลามได้อย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะเจาะลึกถึงเบื้องหลังความสำเร็จทางเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ (Materials Science) ครั้งนี้ พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลกในอุตสาหกรรมกีฬาทางน้ำและการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และสำรวจว่านวัตกรรมชิ้นนี้จะเปลี่ยนภูมิทัศน์ด้านการอนุรักษ์ทางทะเลไปอย่างไร
ถอดรหัสเทคโนโลยี UHMWPE คืออะไร และมันหยุดคมเขี้ยวฉลามได้อย่างไร
หัวใจของนวัตกรรมชุดเว็ตสูทนี้คือการผสมผสานระหว่างยางนีโอพรีน (Neoprene) ที่ใช้ทำเว็ตสูททั่วไป เข้ากับเส้นใยสังเคราะห์ประสิทธิภาพสูงที่เรียกว่า Ultra-High Molecular Weight Polyethylene (UHMWPE) ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อทางการค้าอย่าง Dyneema หรือ Spectra วัสดุชนิดนี้คือสุดยอดแห่งโพลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ
- แข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ เส้นใย UHMWPE มีความแข็งแรงต่อแรงดึงสูงกว่าเหล็กกล้าถึง 15 เท่า
- น้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อ มีความหนาแน่นต่ำมากจนสามารถลอยน้ำได้ ทำให้ไม่เป็นภาระต่อนักกีฬาทางน้ำ
- ทนทานต่อการตัดและเสียดสีสูง เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้มันถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด เช่น การผลิตเสื้อเกราะกันกระสุน, เชือกสำหรับเรือยอชท์ และถุงมือกันบาดในโรงงานอุตสาหกรรม
ทีมวิจัยนำโดย รองศาสตราจารย์ ชาร์ลี ฮูวีนีร์ส (Charlie Huveneers) จากสถาบันวิจัยและอนุรักษ์ฉลาม (Southern Shark Ecology Group) ได้นำเส้นใย UHMWPE มาถักทอเป็นผ้าสองรูปแบบ แล้วผนวกรวมเข้ากับยางนีโอพรีนเพื่อสร้างเป็นชุดเว็ตสูทต้นแบบ
หลักการทำงานของมันไม่ใช่การ “ป้องกันการกัด” (Bite-proof) แต่เป็นการ “ทนทานต่อการกัด” (Bite-resistant) กล่าวคือ ชุดเว็ตสูทนี้ไม่สามารถหยุดแรงกดมหาศาลจากขากรรไกรของฉลามได้ แต่มันทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันชั้นนอกที่สำคัญ โดยป้องกันไม่ให้คมเขี้ยวของฉลามที่แหลมคมเหมือนใบมีดโกน ฉีกกระชากเนื้อผ้าและผิวหนังของผู้สวมใส่ได้โดยง่าย ผลลัพธ์คือ การเปลี่ยนบาดแผลฉกรรจ์ที่อาจถึงแก่ชีวิต ให้กลายเป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงน้อยกว่า เช่น รอยช้ำ, บาดแผลจากการถูกกดทับ หรือรอยเจาะเล็กน้อยแทนที่จะเป็นแผลเหวอะหวะที่เสียเลือดมาก
จากห้องแล็บสู่มหาสมุทร เบื้องหลังการทดสอบสุดโหดกับ ‘ฉลามขาว’
เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้ใช้ได้ผลจริงในสถานการณ์จริง ทีมวิจัยได้ทำการทดสอบอย่างเป็นระบบและเข้มข้นในหลายขั้นตอน
การทดสอบในห้องปฏิบัติการ ในขั้นแรก ทีมงานได้นำวัสดุต้นแบบมาหุ้มแผ่นโฟมที่มีเซ็นเซอร์วัดแรงกดอยู่ภายใน จากนั้นนำไปทดสอบกับคมเขี้ยวของฉลามขาว (Great White Shark) จริงๆ ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วัสดุที่มีส่วนผสมของ UHMWPE สามารถทนทานต่อการเจาะทะลุของฟันฉลามได้ดีกว่ายางนีโอพรีนมาตรฐานอย่างมาก โดยลดจำนวนและความลึกของรอยเจาะได้อย่างมีนัยสำคัญ
การทดสอบในภาคสนาม ขั้นตอนต่อมาคือการนำวัสดุไปทดสอบในทะเลจริง บริเวณเกาะเนปจูน (Neptune Islands) ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของฉลามขาวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทีมวิจัยได้นำแผ่นเหยื่อที่หุ้มด้วยวัสดุชนิดต่างๆ ไปให้ฉลามขาวโจมตี และบันทึกภาพด้วยกล้องความเร็วสูงเพื่อวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคมเขี้ยวของฉลามกับเนื้อผ้า
ผลการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ยืนยันว่า “ผ้าผสม UHMWPE สามารถลดโอกาสที่ฟันฉลามจะเจาะทะลุผิวหนัง และช่วยลดการบาดเจ็บจากการฉีกขาดของเนื้อเยื่อได้” รองศาสตราจารย์ฮูวีนีร์สกล่าว “แม้ว่าผู้สวมใส่จะยังคงได้รับบาดเจ็บจากแรงกด แต่บาดแผลส่วนใหญ่จะไม่ใช่แผลเปิดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียเลือดจนเสียชีวิต”
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม อุตสาหกรรมพันล้านและความขัดแย้งที่เปลี่ยนไป
การมาถึงของชุดเว็ตสูทป้องกันฉลาม ไม่ใช่แค่ข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางทะเล แต่ยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในระดับโลก
ตลาดใหม่สำหรับนักโต้คลื่น นักดำน้ำ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมกีฬาทางน้ำและอุปกรณ์ดำน้ำเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลทั่วโลก การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยโดยตรงเช่นนี้ จะสร้างเซกเมนต์ใหม่ในตลาดและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง
- ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น นักโต้คลื่น, นักดำน้ำ, นักพายเรือคายัค และแม้แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเล จะมีความมั่นใจในการลงน้ำในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
- ฟื้นฟูการท่องเที่ยว ในพื้นที่ท่องเที่ยวชายทะเลที่เคยได้รับผลกระทบจากข่าวฉลามโจมตี เทคโนโลยีนี้อาจช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้
- การแข่งขันในอุตสาหกรรม ผู้ผลิตชุดเว็ตสูทแบรนด์ดังทั่วโลกจะต้องหันมาให้ความสนใจและอาจต้องลงทุนในเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน
การอยู่ร่วมกันแทนการกำจัด มุมมองใหม่ต่อการอนุรักษ์ฉลาม ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ฉลามโจมตีมนุษย์ มักจะเกิดแรงกดดันจากสังคมให้มีการ “กำจัด” ฉลามในพื้นที่นั้นๆ เช่น การวางอวนกั้นฉลาม หรือการล่าฉลาม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทางทะเล เนื่องจากฉลามเป็นผู้ล่าสูงสุดที่มีความสำคัญต่อความสมดุลของห่วงโซ่อาหาร
นวัตกรรมชุดเว็ตสูทนี้เสนอทางออกที่แตกต่างออกไป โดยมุ่งเน้นที่ การป้องกันมนุษย์ แทนที่จะเป็นการกำจัดสัตว์ป่า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการอนุรักษ์สมัยใหม่
- ลดความขัดแย้ง เมื่อมนุษย์ปลอดภัยขึ้น ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับฉลามก็จะลดลง
- ส่งเสริมการอนุรักษ์ นักอนุรักษ์ทางทะเลต่างแสดงความยินดีกับเทคโนโลยีนี้ เพราะมันช่วยลดเหตุผลในการล่าฉลาม และส่งเสริมภาพลักษณ์ของฉลามในฐานะสัตว์ป่าที่ควรค่าแก่การปกป้อง ไม่ใช่ภัยคุกคามที่ต้องกำจัด
ข้อจำกัดและอนาคต นี่ยังไม่ใช่ ‘ชุดเกราะอมตะ’
แม้จะเป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ทีมวิจัยก็ย้ำเตือนว่านี่ไม่ใช่อมตะโซลูชั่น ยังมีข้อจำกัดและความท้าทายที่ต้องพัฒนาต่อไป
- ไม่ป้องกันแรงกด ดังที่กล่าวไป ชุดไม่สามารถป้องกันการบาดเจ็บจากการกระแทกหรือแรงกดของขากรรไกร ซึ่งอาจทำให้กระดูกหักได้ในกรณีที่ถูกฉลามขนาดใหญ่โจมตี
- ต้นทุนการผลิต ในปัจจุบัน วัสดุ UHMWPE ยังมีราคาสูง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกของชุดเว็ตสูทสูงกว่าชุดทั่วไปอย่างมาก อาจจำกัดการเข้าถึงเฉพาะกลุ่มผู้ใช้มืออาชีพหรือผู้มีกำลังซื้อสูงในช่วงแรก
- พื้นที่ที่ไม่ได้รับการป้องกัน ชุดเว็ตสูทไม่สามารถป้องกันส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น มือ, เท้า, และศีรษะ ซึ่งยังคงเป็นจุดเสี่ยง
อนาคตของการวิจัยจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาวัสดุให้มีน้ำหนักเบาลง, ยืดหยุ่นมากขึ้น, มีราคาถูกลง และอาจมีการผสมผสานเทคโนโลยีอื่นๆ เข้าไป เช่น ระบบเซ็นเซอร์แจ้งเตือน หรือเทคโนโลยีลวดลายที่ช่วยพรางตาจากฉลาม
บทสรุป ก้าวสำคัญของมนุษยชาติในการสำรวจมหาสมุทร
การคิดค้นชุดเว็ตสูทป้องกันฉลามของนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวัสดุขั้นสูงมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง มันเป็นมากกว่าแค่ชุดดำน้ำ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ จากการพยายามควบคุมธรรมชาติ ไปสู่การหาวิธีอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น นวัตกรรมชิ้นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการปกป้องชีวิตของฉลาม ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขามและจำเป็นต่อสุขภาพของมหาสมุทร ซึ่งเป็นบ้านของพวกเราทุกคน
แหล่งที่มาจาก : am2con