พายุเข้าเวียดนาม ไต้ฝุ่นรากาซา บททดสอบห่วงโซ่อุปทานโลก เมื่อพายุหนึ่งลูกเขย่า 3 ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย

พายุเข้าเวียดนาม

พายุเข้าเวียดนาม ไต้ฝุ่น “รากาซา” (Typhoon Ragasa) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่ทรงพลัง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนรุนแรงหลังจากสร้างความเสียหายอย่างหนักในไต้หวันและมณฑลชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของจีน ขณะนี้พายุกำลังเคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้มุ่งหน้าสู่เวียดนาม ซึ่งเป็นปลายทางต่อไปที่กำลังเตรียมรับมืออย่างเต็มกำลัง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เป็นเพียงข่าวภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่ได้กลายเป็น บททดสอบครั้งสำคัญ (Stress Test) ต่อความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างแท้จริง โดยเผยให้เห็นว่าสภาพอากาศสุดขั้วเพียงครั้งเดียวสามารถส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ สร้างความปั่นป่วนให้กับศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยี การขนส่ง และเกษตรกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้อย่างไร พร้อมกันนี้ยังเป็นการชี้วัดประสิทธิภาพการเตรียมความพร้อมและการรับมือด้านมนุษยธรรมของหลายประเทศในภูมิภาคไปพร้อมกัน

Weakened Super Typhoon Ragasa heads towards Vietnam after battering China  and Hong Kong | China | The Guardian

พายุเข้าเวียดนาม รอยแผลจากจีน-ไต้หวัน เมื่อศูนย์กลางเทคโนโลยีและการผลิตโลกหยุดชะงัก

ก่อนที่ไต้ฝุ่นรากาซาจะอ่อนกำลังลง มันได้พัดถล่มไต้หวันและมณฑลฝูเจี้ยนและกวางตุ้งของจีนด้วยความรุนแรงระดับสูง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคเศรษฐกิจที่สำคัญระดับโลก

ไต้หวัน อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลกสะเทือน

ไต้หวัน ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของโลก เป็นพื้นที่แรกที่ต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรงของพายุ แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) และ UMC (United Microelectronics Corporation) จะมีมาตรการป้องกันภัยพิบัติที่แข็งแกร่งและโรงงาน (Fabs) ที่ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อแผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่น แต่ผลกระทบทางอ้อมก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

  • ไฟฟ้าดับและปัญหาโลจิสติกส์ รายงานระบุว่าบ้านเรือนและธุรกิจกว่าแสนแห่งประสบปัญหาไฟฟ้าดับชั่วคราว แม้โรงงานผลิตชิปจะมีระบบไฟฟ้าสำรอง แต่ความไม่เสถียรของพลังงานก็สร้างความเสี่ยงต่อกระบวนการผลิตที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงสุด นอกจากนี้ การปิดท่าเรือเกาสง (Port of Kaohsiung) และสนามบินนานาชาติเถาหยวน ทำให้การขนส่งวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปต้องหยุดชะงักชั่วคราว
  • ผลกระทบระยะสั้น นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ชี้ว่า แม้การหยุดชะงักเพียง 1-2 วันอาจไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตในภาพรวมมากนัก แต่ก็สร้างความกังวลและอาจทำให้ราคาชิปในตลาดจร (Spot Market) มีความผันผวนในระยะสั้น

จีนแผ่นดินใหญ่ อัมพาตในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล

หลังจากข้ามช่องแคบไต้หวัน ไต้ฝุ่นรากาซาได้ขึ้นฝั่งที่มณฑลฝูเจี้ยนและส่งอิทธิพลครอบคลุมไปถึงมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Delta) หรือที่รู้จักในนาม “โรงงานของโลก” ทางการจีนได้ประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดและสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคน

  • การหยุดชะงักของท่าเรือและโรงงาน ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง เช่น ท่าเรือเซินเจิ้น, กว่างโจว และฮ่องกง ต้องระงับการให้บริการชั่วคราว ส่งผลให้ตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างจำนวนมหาศาล โรงงานหลายพันแห่งในพื้นที่ต้องปิดทำการเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน
  • ความเสียหายภาคเกษตรกรรม พื้นที่เกษตรกรรมจำนวนมากในมณฑลกวางตุ้งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันและลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรคิดเป็นมูลค่าเบื้องต้นหลายพันล้านหยวน
  • ตัวเลขความเสียหาย ศูนย์ควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติของจีนรายงานว่า มีการยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว รถไฟความเร็วสูงต้องหยุดให้บริการ และเกิดน้ำท่วมในหลายเมืองสำคัญ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงที่ประเมินว่าอาจสูงถึงหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

Taiwan lowers Typhoon Ragasa death toll to 14; China starts cleanup

เวียดนามปลายทางพายุ เดิมพันสูงในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม

ขณะนี้ ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่เวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเป็นพื้นที่ต่อไปที่พายุจะพัดขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งภาคกลาง แม้พายุจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ทางการเวียดนามยังคงไม่ประมาทและได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมสูงสุด

การเตรียมความพร้อม บทเรียนราคาแพงจากเพื่อนบ้าน

รัฐบาลเวียดนาม โดยคณะกรรมการกลางเพื่อการป้องกันและควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้สั่งการให้จังหวัดต่างๆ ตั้งแต่กว๋างนิญไปจนถึงดานัง เตรียมแผนรับมืออย่างเร่งด่วน

  • อพยพประชาชน มีคำสั่งให้อพยพประชาชนหลายแสนคนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายฝั่งและพื้นที่ลุ่มต่ำไปยังศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย
  • ป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ มีการสั่งให้เรือประมงทั้งหมดกลับเข้าฝั่ง และเสริมความแข็งแรงของเขื่อนและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อป้องกันพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเขตอุตสาหกรรมชายฝั่ง
  • การเรียนรู้และปรับใช้ เจ้าหน้าที่เวียดนามได้ติดตามข้อมูลและบทเรียนจากจีนและไต้หวันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความรุนแรงและปรับแผนการรับมือให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

จากนาข้าวถึงโรงงาน ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่รออยู่

เวียดนามเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลกสำหรับสินค้าหลายประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ เช่น ข้าว กาแฟ และอาหารทะเล

  • ภาคเกษตรกรรม พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (Mekong Delta) ซึ่งเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของประเทศ มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วม ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตข้าวได้อย่างมหาศาล
  • ภาคอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรมหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง โดยเฉพาะในเมืองดานังและหายฝ่อง อาจต้องเผชิญกับการหยุดชะงักของการผลิตและการขนส่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบริษัทข้ามชาติที่ใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิต

มุมมองระดับโลก ผลกระทบระลอกคลื่นต่อห่วงโซ่อุปทานและเศรษฐกิจ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และโลจิสติกส์มองว่า ไต้ฝุ่นรากาซาเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความเปราะบางของระบบห่วงโซ่อุปทานโลกที่พึ่งพิงภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากเกินไป

คำพูดจากผู้เชี่ยวชาญ

“เหตุการณ์เช่นนี้เผยให้เห็น ‘จุดตาย’ ของห่วงโซ่อุปทานโลก” อเล็กซ์ แคปรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าโลกจาก Hinrich Foundation กล่าว “การที่การผลิตสินค้าที่สำคัญของโลกกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เพียงไม่กี่แห่งซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อภัยธรรมชาติ หมายความว่าพายุเพียงลูกเดียวก็สามารถส่งผลกระทบเป็นโดมิโนไปทั่วโลกได้ ตั้งแต่ราคาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงความพร้อมของสินค้าอุปโภคบริโภค”

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

  • ความล่าช้าในการขนส่ง การปิดท่าเรือหลัก 3-4 วันอาจทำให้เกิดภาวะเรือและตู้คอนเทนเนอร์ตกค้าง (Congestion) ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการแก้ไข
  • ต้นทุนที่สูงขึ้น บริษัทขนส่งอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และความล่าช้านี้อาจบีบให้บางบริษัทต้องหันไปใช้การขนส่งทางอากาศที่มีราคาแพงกว่ามาก
  • การขาดแคลนสินค้าชั่วคราว สินค้าที่ผลิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าแฟชั่น อาจเกิดภาวะขาดตลาดชั่วคราวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Typhoon Ragasa aims at China after lashing Taiwan, HK | The Canberra Times  | Canberra, ACT

มิติด้านมนุษยธรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความท้าทายที่ใหญ่กว่าพายุ

นอกเหนือจากผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว มิติด้านมนุษยธรรมก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง การอพยพผู้คนหลายล้านคนใน 3 ประเทศ/เขตปกครอง เป็นปฏิบัติการขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยการประสานงานและการเตรียมทรัพยากรอย่างมหาศาล องค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเตรียมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ในขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศจาก คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ได้เตือนมาอย่างต่อเนื่องว่า ภาวะโลกร้อนและอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้น กำลังทำให้พายุไต้ฝุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกมีความรุนแรงมากขึ้น เกิด “การทวีกำลังอย่างรวดเร็ว (Rapid Intensification)” บ่อยขึ้น และมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าในอดีต ไต้ฝุ่นรากาซาจึงอาจเป็นภาพตัวอย่างของ “ความปกติใหม่” (New Normal) ที่ภูมิภาคนี้ต้องเผชิญ

บทสรุป (Conclusion)

พายุเข้าเวียดนาม ขณะที่ไต้ฝุ่นรากาซากำลังจะขึ้นฝั่งเวียดนาม ผลกระทบทั้งหมดของมันยังคงไม่เป็นที่ประจักษ์แน่ชัด แต่สิ่งที่ชัดเจนแล้วก็คือ พายุลูกนี้ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมไว้เบื้องหลังอย่างมหาศาล มันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติในภูมิภาคหนึ่งสามารถส่งแรงกระเพื่อมไปได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงครั้งสำคัญเกี่ยวกับความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้พายุเหล่านี้ทวีความรุนแรงและอันตรายยิ่งขึ้น

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *