ด่วน แผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 เขย่าคาบสมุทรคัมชัตกา รัสเซีย จุดชนวนเตือนภัยสึนามิข้ามพรมแดนถึงหมู่เกาะอะลูเชียนของสหรัฐฯ

แผ่นดินไหว 7.8 คัมชัตกา

แผ่นดินไหว 7.8 คัมชัตกา เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ วัดความรุนแรงได้ 7.8 แมกนิจูด บริเวณนอกชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตกา ทางภาคตะวันออกไกลของประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงได้กระตุ้นให้ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก (PTWC) ออกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิในระดับสูงสุดสำหรับพื้นที่ชายฝั่งบางส่วนของหมู่เกาะอะลูเชียน ในรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร เหตุการณ์นี้ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของระบบการเตือนภัยพิบัติระหว่างประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกเหนือ และสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของประชากรในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารของทั้งสองชาติมหาอำนาจ

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10:34 น. ตามเวลาท้องถิ่นของคัมชัตกา (Kamchatka Time, UTC+12) โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ทะเลเพียง 22.5 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวในระดับตื้น ที่มีศักยภาพสูงในการทำให้เกิดการกระเพื่อมของมวลน้ำมหาศาลและก่อตัวเป็นคลื่นสึนามิที่อันตรายได้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บจากฝั่งรัสเซีย ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง แต่หน่วยงานฉุกเฉินกำลังเร่งประเมินสถานการณ์อย่างเร่งด่วน

สถานการณ์ทวีความตึงเครียดขึ้นเมื่อ PTWC ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิ โดยระบุว่า “มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิอันตรายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ภายในรัศมี 1,000 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว” โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หมู่เกาะอะลูเชียน ซึ่งเป็นแนวหมู่เกาะภูเขาไฟของสหรัฐฯ ที่ทอดยาวจากอะแลสกาเข้าไปในทะเลเบริง ทางการสหรัฐฯ ได้สั่งการให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบนเกาะเชมยา (Shemya) และเกาะอะดัก (Adak) อพยพขึ้นสู่ที่สูงโดยทันที

เหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.8 ที่คัมชัตกาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตทางธรณีวิทยาอันทรงพลังของ “วงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก” และความเปราะบางของชุมชนที่ตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนที่พร้อมจะปลดปล่อยพลังงานออกมาได้ทุกเมื่อ

Magnitude 7.8 quake shakes Russia's Far East region, prompts tsunami alert  | Earthquakes News | Al Jazeera

แผ่นดินไหว 7.8 คัมชัตกา วิเคราะห์แรงสั่นสะเทือน อะไรคือสาเหตุของแผ่นดินไหว 7.8 ที่คัมชัตกา?

แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับนักธรณีวิทยา เนื่องจากคาบสมุทรคัมชัตกาตั้งอยู่บนหนึ่งในเขตมุดตัวของเปลือกโลก (Subduction Zone) ที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “วงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก” (Pacific Ring of Fire) อันเลื่องชื่อ

ข้อมูลทางเทคนิคจาก USGS

  • ความรุนแรง (Magnitude) 7.8 แมกนิจูด
  • ความลึก (Depth) 22.5 กิโลเมตร
  • ตำแหน่ง นอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรคัมชัตกา สหพันธรัฐรัสเซีย
  • กลไกการเกิด เกิดจากการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก (Pacific Plate) ขนาดมหึมาลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกโอค็อตสค์ (Okhotsk Plate) ซึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็กที่รองรับคาบสมุทรคัมชัตกาและทะเลโอค็อตสค์

การที่แผ่นดินไหวเกิดในระดับตื้น (Shallow-focus earthquake) มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหมายความว่าการปริแตกของรอยเลื่อนเกิดขึ้นใกล้กับพื้นทะเล ทำให้เกิดการยกตัวหรือยุบตัวของพื้นมหาสมุทรอย่างฉับพลัน ส่งผลให้มวลน้ำถูกผลักดันออกไปทุกทิศทางและก่อตัวเป็นสึนามิ นักวิทยาศาสตร์จาก USGS ระบุว่าแผ่นดินไหวประเภทนี้ที่เรียกว่า “Megathrust earthquake” คือแผ่นดินไหวที่ทรงพลังที่สุดในโลก และเป็นต้นเหตุของสึนามิครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์มาแล้วมากมาย

ขณะนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังติดตาม “อาฟเตอร์ช็อก” (Aftershocks) หรือแผ่นดินไหวตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงและไม่กี่วันข้างหน้า และอาจมีความรุนแรงพอที่จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมหรือก่อให้เกิดสึนามิระลอกใหม่ได้

Russian earthquake triggers tsunami advisory in Alaska

ภัยสึนามิข้ามพรมแดน การแข่งขันกับเวลาของระบบเตือนภัยในแปซิฟิกเหนือ

หัวใจสำคัญของการรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้คือ “ระบบเตือนภัยสึนามิ” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานทั่วโลก โดยมีศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก (PTWC) ที่โฮโนลูลู รัฐฮาวาย เป็นหน่วยงานหลัก

การทำงานของระบบเตือนภัย

  1. ตรวจจับแผ่นดินไหว ทันทีที่เกิดแผ่นดินไหว เครือข่ายเครื่องวัดความสั่นสะเทือน (Seismometer) ทั่วโลกจะส่งข้อมูลไปยังศูนย์เตือนภัยต่างๆ ภายในไม่กี่นาที
  2. ประเมินความเสี่ยง PTWC ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนในการวิเคราะห์ข้อมูลแผ่นดินไหว (ขนาด, ความลึก, ตำแหน่ง) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการเกิดสึนามิ
  3. ตรวจสอบระดับน้ำทะเล ข้อมูลจากทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ (DART buoys) ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรจะถูกนำมาใช้เพื่อยืนยันว่ามีคลื่นสึนามิก่อตัวขึ้นจริงหรือไม่ และวัดความสูงของคลื่นที่เกิดขึ้น
  4. ออกประกาศเตือน หากความเสี่ยงสูง PTWC จะออกประกาศเตือนภัย (Tsunami Warning), การเฝ้าระวัง (Tsunami Watch), หรือคำแนะนำ (Tsunami Advisory) ไปยังประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางของคลื่น

สถานการณ์ล่าสุดที่หมู่เกาะอะลูเชียน

สำหรับเหตุการณ์นี้ PTWC ได้ออก “Tsunami Warning” ซึ่งเป็นระดับการเตือนภัยที่รุนแรงที่สุดสำหรับ

  • เกาะเชมยา (Shemya Island) ที่ตั้งของสถานีทหารอากาศ Eareckson Air Station ซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
  • เกาะอะดัก (Adak Island) หนึ่งในชุมชนที่มีประชากรอาศัยอยู่ทางตะวันตกสุดของสหรัฐอเมริกา

คาดการณ์ว่าคลื่นสึนามิระลอกแรกซึ่งอาจมีความสูงระหว่าง 0.3 ถึง 1 เมตร จะเดินทางมาถึงชายฝั่งของเกาะเหล่านี้ภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหว แม้ความสูงของคลื่นอาจดูไม่มากนัก แต่พลังและกระแสน้ำที่รุนแรงของมันสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อท่าเรือ อาคารริมชายฝั่ง และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

Mega 8.8-magnitude quake in Russia's Far East causes tsunami, Pacific-wide  evacuations

พื้นที่ประสบภัย ดินแดนห่างไกลที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

ความท้าทายที่สำคัญในการรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้คือลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงได้ยาก และมีสภาพอากาศที่เลวร้าย

คาบสมุทรคัมชัตกา, รัสเซีย

  • ดินแดนแห่งภูเขาไฟและหมี คัมชัตกาเป็นคาบสมุทรขนาดใหญ่ที่มีประชากรเบาบางมาก มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติที่บริสุทธิ์และเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่กว่า 160 ลูก
  • เมืองหลัก ประชากรส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองเปโตรปავლอฟสค์-คัมชัตสกี (Petropavlovsk-Kamchatsky) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวพอสมควร
  • ความท้าทาย การประเมินความเสียหายในพื้นที่ชนบททำได้ยากลำบาก เนื่องจากขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานและต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด การสื่อสารที่อาจถูกตัดขาดทำให้การส่งความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

หมู่เกาะอะลูเชียน, อะแลสกา, สหรัฐอเมริกา

  • แนวเกาะภูเขาไฟ เป็นโซ่หมู่เกาะที่เกิดจากภูเขาไฟกว่า 57 ลูก ทอดยาวเป็นแนวโค้งกว่า 1,900 กิโลเมตร
  • ประชากรน้อย มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองอะลิวต์ (Aleut) และบุคลากรทางทหาร
  • ความท้าทาย การอพยพประชาชนทำได้จำกัดเนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเกาะและมีสนามบินเพียงไม่กี่แห่ง การรับมือกับคลื่นสึนามิในสภาพอากาศที่มีพายุและคลื่นลมแรงอยู่เป็นปกติ ทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น

บทสรุป เสียงเตือนจากวงแหวนแห่งไฟ และความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ

แผ่นดินไหว 7.8 คัมชัตกา คือการสำแดงพลังทางธรณีวิทยาครั้งล่าสุดจากวงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก ซึ่งเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า และผลกระทบของมันสามารถขยายวงกว้างข้ามพรมแดนและมหาสมุทรได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

สถานการณ์ ณ ขณะนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ทุ่นวัดระดับน้ำทะเลและรายงานจากชายฝั่งหมู่เกาะอะลูเชียนเพื่อประเมินความรุนแรงที่แท้จริงของคลื่นสึนามิ ขณะที่ทีมกู้ภัยในรัสเซียกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงพื้นที่ที่อาจได้รับความเสียหาย

เหตุการณ์นี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ ระบบการเตือนภัยล่วงหน้าที่ทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำคือปัจจัยชี้ขาดระหว่างความเป็นและความตายของประชากรนับพันที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้ธงชาติใดก็ตาม โลกกำลังเฝ้าติดตามและหวังว่าความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้จะอยู่ในวงจำกัด

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *