คิม จองอึน เยือนจีน สัญญาณร้อนคาบสมุทรเกาหลี เมื่อมังกร-โสมแดงผนึกกำลัง

คิม จองอึน เยือนจีน

ปักกิ่ง, สาธารณรัฐประชาชนจีน – ท่ามกลางความเงียบงันของการทูตระหว่างประเทศ ขบวนรถไฟสีเขียวเข้มที่เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าแต่หนักแน่นข้ามแม่น้ำยาลูเข้าสู่แผ่นดินจีนในเช้าวันนี้ ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก การปรากฏตัวของ “คิม จองอึน” ในการเดินทางเยือนจีนอย่างกะทันหันครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงข่าวการเดินทางของผู้นำประเทศ แต่เป็นสัญญาณเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ชัดเจนและท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี การพบกันระหว่าง คิม จองอึน และ สี จิ้นผิง ก่อนหน้า พิธีสวนสนามจีน ที่กำลังจะมาถึง คือภาพสะท้อนของ ความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-จีน ที่กำลังผนึกแน่นเพื่อส่งสาส์นถึงโลกตะวันตก

การเดินทางครั้งนี้ซึ่งไม่มีการประกาศล่วงหน้า ถือเป็นบทล่าสุดของละครการทูตที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และความหมายซ่อนเร้น ขณะที่สื่อทั่วโลกกำลังจับตามองทุกความเคลื่อนไหว นักวิเคราะห์ต่างลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า นี่ไม่ใช่แค่การเยือนเพื่อกระชับมิตรภาพ แต่เป็นการวางหมากครั้งสำคัญบนกระดานแห่งอำนาจโลก ที่อาจกำหนดทิศทางของ สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีล่าสุด ไปอีกหลายปีข้างหน้า

Kim leaves North Korea on armoured train to meet Trump in Vietnam | World  News | Sky News

การเดินทางบน “รถไฟสีเขียว” สัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และความปลอดภัย

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของการเยือนครั้งนี้คือพาหนะที่นายคิมเลือกใช้ รถไฟส่วนตัว คิม จองอึน ขบวนสีเขียวขอบทองในตำนาน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยคิม อิลซุง ผู้เป็นปู่ การเลือกใช้รถไฟแทนที่จะเป็นเครื่องบินส่วนตัว ไม่ใช่แค่เรื่องของความกลัวในการเดินทางทางอากาศ แต่เปี่ยมไปด้วยนัยยะสำคัญ

  • ความปลอดภัยสูงสุด ตู้รถไฟแต่ละตู้ถูกหุ้มเกราะอย่างหนาแน่น สามารถป้องกันกระสุนและการโจมตีจากระเบิดขนาดเล็กได้ ทำให้มันกลายเป็นป้อมปราการเคลื่อนที่ การเดินทางบนรางที่ควบคุมได้ทั้งหมดในจีนและเกาหลีเหนือให้ความปลอดภัยในระดับที่เครื่องบินไม่อาจเทียบได้
  • สัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ รถไฟขบวนนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนและพรรคแรงงานเกาหลี มันย้ำเตือนถึงสายใยแห่ง “มิตรภาพที่ผูกพันด้วยเลือด” ตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี
  • การควบคุมข้อมูล การเดินทางที่เชื่องช้าและเป็นความลับ ช่วยให้เกาหลีเหนือสามารถควบคุมการปล่อยข่าวและรูปภาพได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจากการเดินทางทางอากาศที่ต้องเปิดเผยต่อระบบควบคุมการบินสากล

คำถามที่ว่า “คิม จองอึน ไปจีนทําไม 2025” เริ่มต้นคำตอบได้จากการเลือกวิธีการเดินทางของเขานั่นเอง มันคือการประกาศว่าการเยือนครั้งนี้ตั้งอยู่บนรากฐานของประวัติศาสตร์และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน

มากกว่าพิธีสวนสนาม วาระซ่อนเร้นในการพบกันของ คิม-สี

แม้ข่าวสารเบื้องต้นจะระบุว่านายคิมอาจเข้าร่วมพิธีสวนสนามวันชาติจีน แต่นั่นเป็นเพียงฉากหน้าของวัตถุประสงค์ที่ลึกซึ้งกว่า นักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเชื่อว่าวาระการประชุมระหว่างสองผู้นำที่ ปักกิ่ง จะครอบคลุมประเด็นสำคัญหลายมิติ

  1. การประสานท่าทีต่อต้านสหรัฐฯ และพันธมิตร ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้ยกระดับการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี การเยือนจีนของนายคิมจึงเป็นการส่งสัญญาณตอบโต้อย่างชัดเจนว่า เกาหลีเหนือไม่ได้โดดเดี่ยว และมีจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจให้การหนุนหลัง การปรากฏตัวของสองผู้นำเคียงข้างกัน จะเป็นการแสดงพลังเพื่อคานอำนาจกลุ่มพันธมิตรไตรภาคีดังกล่าว
  2. ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและมนุษยธรรม เกาหลีเหนือยังคงเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงจากนานาชาติ ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนอาหารภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้สูงว่า การเจรจา ครั้งนี้จะรวมถึงการขอรับความช่วยเหลือด้านพลังงาน ปุ๋ย และอาหารจากจีน เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจและป้องกันวิกฤตด้านมนุษยธรรม
  3. ความร่วมมือทางทหารและเทคโนโลยี หลังจากที่เกาหลีเหนือประสบความล้มเหลวในการส่งดาวเทียมสอดแนมครั้งล่าสุด อาจมีการหารือเพื่อขอความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีทางทหารจากจีน ซึ่งจะช่วยยกระดับโครงการขีปนาวุธและดาวเทียมของเปียงยางให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
  4. การกลับสู่โต๊ะเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ จีนอาจใช้โอกาสนี้ในการผลักดันให้เกาหลีเหนือแสดงท่าทีที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และอาจปูทางไปสู่การเจรจา 6 ฝ่ายอีกครั้ง โดยมีจีนเป็นตัวกลาง เพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยตรงต่อเสถียรภาพชายแดนของจีนเอง

North Korea says Kim Jong Un is back home from Russia, where he deepened  'comradely' ties with Putin | RochesterFirst

ปักกิ่งต้องการอะไรจากเปียงยาง? ผลประโยชน์ร่วมของสองพันธมิตร

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีเหนือไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบทางเดียว จีนเองก็ได้ประโยชน์มหาศาลจากการมีเกาหลีเหนือเป็นพันธมิตร

  • รัฐกันชนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Buffer State) เกาหลีเหนือทำหน้าที่เป็นรัฐกันชนที่สำคัญยิ่ง ป้องกันไม่ให้กองกำลังทหารของสหรัฐฯ ที่ประจำการในเกาหลีใต้มาประชิดชายแดนของจีนโดยตรง การรักษาเสถียรภาพของระบอบการปกครองใน เปียงยาง จึงเป็นผลประโยชน์ด้านความมั่นคงอันดับหนึ่งของจีน
  • เครื่องมือต่อรองกับสหรัฐฯ การมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือ ทำให้จีนมีไพ่สำคัญในการต่อรองกับสหรัฐฯ ในประเด็นอื่นๆ เช่น ไต้หวัน หรือทะเลจีนใต้ การเคลื่อนไหวของคิม จองอึน สามารถสร้างแรงกดดันให้วอชิงตันต้องหันมาเจรจากับปักกิ่งได้เสมอ

ปฏิกิริยาจากนานาชาติ วอชิงตัน-โซล-โตเกียวจับตาไม่กะพริบ

การเดินทางของ คิม จองอึน เยือนจีน ครั้งนี้ ทำให้เมืองหลวงของชาติตะวันตกและพันธมิตรในเอเชียต้องทำงานอย่างหนัก

  • สหรัฐอเมริกา แสดงความกังวลผ่านแถลงการณ์ทางการทูต เรียกร้องให้จีนซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ใช้อิทธิพลในการกดดันให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามมติของ UN
  • เกาหลีใต้ รัฐบาลกรุงโซลจัดประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติอย่างเร่งด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์และเจตนาของการเยือนครั้งนี้ โดยแสดงความหวังว่าจีนจะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการนำเกาหลีเหนือกลับสู่การเจรจา
  • ญี่ปุ่น แสดงความกังวลต่อโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างเข้มงวดต่อไป

North Korea's Kim Jong Un crossed border into China via train, state media  says | MarketScreener

บทสรุป ก้าวต่อไปบนกระดานหมากแห่งคาบสมุทรเกาหลี

การเดินทางเยือนจีนของคิม จองอึน ในปี 2025 ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ปกติ แต่เป็นจุดเปลี่ยนที่อาจบ่งชี้ถึงการก่อตัวของ “แนวร่วม” ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐฯ ในเอเชีย ภาพที่โลกจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นภาพการจับมือระหว่างคิมและสี หรือภาพผู้นำเกาหลีเหนือชมการสวนสนามของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งข้อความทางการเมืองที่หนักแน่น

คำถามที่ว่า เกาหลีเหนือ จีน ประชุมเรื่องอะไร อาจไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมาสู่สาธารณะ แต่ผลลัพธ์ของการประชุมครั้งนี้จะสะท้อนออกมาผ่านการกระทำของเปียงยางในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ หรือการแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นต่อศัตรู

โลกกำลังจับตามองการผนึกกำลังของมังกรและโสมแดงครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะทุกย่างก้าวของพวกเขาบนกระดานหมากแห่ง คาบสมุทรเกาหลี จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *