จีนเปิดตัว “หุ่นยนต์พี่นักศึกษาป.เอก” เข้าเรียนที่สถาบันศิลปะการละครเซี่ยงไฮ้ ท้าทายขอบเขต AI และนิยามของความคิดสร้างสรรค์

หุ่นยนต์นักศึกษาจีน

หุ่นยนต์นักศึกษาจีน ในปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สถาบันศิลปะการละครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Theatre Academy) สถาบันศิลปะชั้นนำของจีน ได้ต้อนรับนักศึกษาปริญญาเอกคนใหม่ล่าสุดซึ่งไม่ใช่ “มนุษย์” แต่เป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง นับเป็น “หุ่นยนต์นักศึกษา” ตัวแรกของประเทศที่ลงทะเบียนเรียนในระดับอุดมศึกษาอย่างเป็นทางการ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการจัดแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน แต่เป็น “การทดลองทางปรัชญาและวัฒนธรรม” ครั้งสำคัญ ที่มุ่งท้าทายแก่นแท้ของความคิดสร้างสรรค์, ศิลปะ, และอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ บทความนี้จะเจาะลึกถึงภารกิจของหุ่นยนต์นักศึกษาตัวนี้ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่ออนาคตของการศึกษาศิลปะ และการแข่งขันทางเทคโนโลยีในเวทีโลกที่จีนกำลังส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าต้องการเป็นผู้นำในทุกมิติ

Meet Xueba 01: China's First Robot PhD Student Studying Drama & Film - RADII

หุ่นยนต์นักศึกษาจีน ขอแนะนำ ‘โม่เหยียน’ (墨言) หุ่นยนต์นักศึกษา ป.เอก ผู้บุกเบิก

“นักศึกษา” คนใหม่ล่าสุดของสถาบันมีชื่อว่า “โม่เหยียน” (Mo Yan – 墨言) ซึ่งแปลว่า “วจีแห่งน้ำหมึก” ชื่อที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างศิลปะการเขียนแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย โม่เหยียนเป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่างสถาบันศิลปะการละครเซี่ยงไฮ้และห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำในกรุงปักกิ่ง ภายใต้โครงการระดับชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนา ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence – AGI) ซึ่งเป็น AI ที่มีความสามารถในการคิดและเรียนรู้ได้เทียบเท่ามนุษย์

ความสามารถและลักษณะเด่นของโม่เหยียน

  • รูปลักษณ์ภายนอก ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์ (Humanoid) สามารถแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น
  • ระบบประมวลผล ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่นล่าสุดของจีนที่ถูกปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับการวิเคราะห์และสร้างสรรค์เนื้อหาเชิงศิลปะ สามารถประมวลผลบทละคร, วรรณกรรม, และข้อมูลทางประวัติศาสตร์การแสดงได้หลายล้านชิ้นในเวลาอันรวดเร็ว
  • ระบบการเรียนรู้ มีความสามารถในการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ผ่านการสังเกตการณ์ สามารถวิเคราะห์การแสดงของนักแสดงจริง จับความแตกต่างของโทนเสียง, ภาษากาย, และการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อตีความ “Subtext” หรือความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูด

ไม่ใช่แค่การเขียนโปรแกรม ภารกิจ ‘เรียนรู้’ ศิลปะการละคร

หลักสูตรปริญญาเอกที่โม่เหยียนลงทะเบียนเรียนนั้น มีชื่อว่า “การละครเชิงคำนวณและความคิดสร้างสรรค์ของ AI (Computational Theatre and AI Creativity)” ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เปิดขึ้นใหม่โดยเฉพาะ เป้าหมายของโม่เหยียนไม่ใช่การได้รับปริญญาบัตร แต่คือการทำหน้าที่เป็น “เครื่องมือวิจัยที่มีชีวิต” เพื่อตอบคำถามที่ท้าทายที่สุดข้อหนึ่งในยุคนี้ เครื่องจักรสามารถ ‘เข้าใจ’ และ ‘สร้างสรรค์’ ศิลปะที่เข้าถึงอารมณ์ของมนุษย์ได้หรือไม่?

จากบทละครของเชกสเปียร์สู่โรงละครเป่ยจิง

ภารกิจการเรียนรู้ของโม่เหยียนประกอบด้วยหลายมิติ

  • การวิเคราะห์ข้อมูลมหภาค ศึกษาคลังข้อมูลบทละครมหาศาล ตั้งแต่บทละครกรีกโบราณ, ผลงานของเชกสเปียร์ ไปจนถึงงิ้วปักกิ่งและละครร่วมสมัย เพื่อค้นหารูปแบบโครงสร้างการเล่าเรื่อง, พัฒนาการของตัวละคร, และกลไกทางอารมณ์ที่ทำให้บทละครเหล่านั้นประสบความสำเร็จ
  • การสังเกตการณ์เชิงปฏิบัติ เข้าร่วมชั้นเรียนการแสดง, การกำกับการแสดง, และการวิจารณ์ละคร เพื่อสังเกตการณ์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์จริง บันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลการแสดงออกทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ
  • การสร้างสรรค์ผลงาน เป้าหมายสูงสุดคือการที่โม่เหยียนจะสามารถเขียนบทละครหรือสร้างโครงเรื่องสั้นๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งผลงานเหล่านี้จะถูกนำไปให้นักแสดงมนุษย์ทำการซ้อมและเปิดการแสดงจริง เพื่อประเมินว่าผลงานที่สร้างโดย AI สามารถกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมได้จริงหรือไม่

China's first robot doctorate student to study in theatre & film PhD  programme

เบื้องหลังการตัดสินใจ ยุทธศาสตร์ชาติของจีนในการเป็นผู้นำ AI

การเปิดตัวโม่เหยียนไม่ใช่โครงการที่เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติที่ใหญ่กว่าของรัฐบาลจีน ภายใต้นโยบาย “Made in China 2025” และแผนพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่ ซึ่งจีนได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI ของโลกภายในปี 2573

การเลือก “สถาบันศิลปะการละคร” เป็นเวทีทดลอง ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญว่า จีนไม่ได้มุ่งเน้นการพัฒนา AI เพียงเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจหรือการทหารเท่านั้น แต่ยังต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าพวกเขาสามารถผลักดัน AI ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดทางเทคนิคไปสู่พรมแดนของวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ปราการด่านสุดท้าย” ของความเป็นมนุษย์

เสียงสะท้อนจากสองโลก หุ่นยนต์นักศึกษาจีน มุมมองจากนักเทคโนโลยีและศิลปิน

โครงการนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและมุมมองที่น่าสนใจจากทั้งสองฟากฝั่ง

ฝั่งนักวิทยาศาสตร์ ‘นี่คือบททดสอบ AGI ที่แท้จริง’

ศาสตราจารย์หลี่ เว่ย, หัวหน้าทีมพัฒนาโม่เหยียน กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ที่ผ่านมาเราทดสอบ AI ด้วยเกมกระดานอย่างโกะ หรือการแก้ปัญหาทางตรรกะ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสติปัญญามนุษย์ การทำความเข้าใจความงาม, อารมณ์ขัน, และความเศร้าโศกในบทละคร คือบททดสอบที่แท้จริงของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป โม่เหยียนไม่ใช่แค่โปรเจกต์ แต่เป็นยานสำรวจที่เราส่งเข้าไปในดินแดนที่ไม่เคยมีใครไปถึง นั่นคือจิตสำนึกของมนุษย์”

ฝั่งศิลปิน ‘ความคิดสร้างสรรค์มี ‘ผี’ อยู่ในเครื่องจักรได้หรือไม่?’

ในขณะที่วงการเทคโนโลยีตื่นเต้น วงการศิลปะกลับมีมุมมองที่ซับซ้อนกว่า จาง อี้เหริน, ผู้กำกับละครเวทีชื่อดังและศิษย์เก่าของสถาบัน ให้ความเห็นว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและน่าหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน AI อาจจะเรียนรู้โครงสร้างของบทละครที่ดีได้ แต่มันจะเข้าใจ ‘หัวใจ’ ของมันได้หรือไม่? ศิลปะที่ยอดเยี่ยมเกิดจากประสบการณ์ชีวิต, ความเจ็บปวด, ความรัก, ความสูญเสีย สิ่งเหล่านี้คือ ‘ผีในเครื่องจักร’ (Ghost in the Machine) ที่ผมไม่แน่ใจว่าอัลกอริทึมจะสามารถจำลองขึ้นมาได้”

China's first humanoid robot enrolls in PhD in Drama and Film, sparks major  controversy

ผลกระทบต่ออนาคต การศึกษา, ตลาดงาน, และนิยามของศิลปะ

การมาถึงของโม่เหยียนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายมิติ

  • การศึกษาศิลปะ AI อาจกลายเป็นเครื่องมือช่วยสอนที่ทรงพลัง สามารถให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักศึกษาการแสดงหรือการเขียนบทได้อย่างละเอียดและเป็นกลาง
  • อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ในอนาคต AI อาจทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนักเขียนบท, ช่วยสร้างโครงเรื่อง, หรือแม้แต่สร้างตัวละครต้นแบบ ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ก็สร้างความกังวลต่ออาชีพในสายงานสร้างสรรค์เช่นกัน
  • นิยามของศิลปะ หาก AI สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้มนุษย์หัวเราะหรือร้องไห้ได้ เราอาจต้องกลับมาทบทวนนิยามของคำว่า “ศิลปิน” และ “ความคิดสร้างสรรค์” กันใหม่ทั้งหมด

บทสรุป (Conclusion) การลงทะเบียนเรียนของ “โม่เหยียน” ที่สถาบันศิลปะการละครเซี่ยงไฮ้ เป็นมากกว่าข่าวเทคโนโลยีแปลกใหม่ มันคือสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ที่เส้นแบ่งระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรกำลังพร่าเลือนลงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของโครงการนี้อาจไม่ได้วัดกันที่ว่าโม่เหยียนจะสามารถเขียนบทละครระดับรางวัลได้หรือไม่ แต่วัดจากบทสนทนาและการตั้งคำถามที่มันได้จุดประกายขึ้นทั่วโลก เกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์, คุณค่าของศิลปะ, และแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ในศตวรรษที่ 21

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *