วันที่ 1 กันยายน 2568 – กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนซึ่งคุ้นชินกับเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศมานานหลายปี วันนี้กลับต้องเผชิญกับความตื่นตระหนกในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เมื่อเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารสะเทือนขวัญ อดีตประธานรัฐสภายูเครนถูกยิง เสียชีวิตอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ การเสียชีวิตของนาย โอเล็กซานเดอร์ โมรอซ นักการเมืองผู้คร่ำหวอดและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่สร้างความโศกเศร้า แต่ยังจุดชนวนคำถามสำคัญที่ดังกระหึ่มไปทั่วประเทศที่กำลังบอบช้ำจากสงคราม: “นี่คือการล้างแค้นส่วนตัว, การหักหลังทางการเมือง, หรือเป็นปฏิบัติการของศัตรูจากภายนอก?” บทความนี้จะดำดิ่งสู่ใจกลางของเหตุการณ์ วิเคราะห์ปูมหลังของเหยื่อ และสำรวจทุกทฤษฎีที่เป็นไปได้เบื้องหลังการ ลอบสังหารนักการเมือง ครั้งประวัติศาสตร์นี้
สถานการณ์ในเคียฟ ตกอยู่ในความตึงเครียดระลอกใหม่ หลังเกิดเหตุ อดีตประธานรัฐสภายูเครนถูกยิง เสียชีวิตภายในรถยนต์ส่วนตัวระหว่างการเดินทางใจกลางเมืองช่วงเช้าวันนี้ ผู้เสียชีวิตคือนาย โอเล็กซานเดอร์ โมรอซ อดีตประธาน แวร์โฮฟนา ราดา (รัฐสภายูเครน) ซึ่งเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญใน การเมืองภายในยูเครน มาหลายทศวรรษ ขณะที่ หน่วยความมั่นคงยูเครน (SBU) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าคนร้ายอย่างเต็มกำลัง เหตุการณ์นี้ได้ก่อให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมาย และสร้างความกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณของความแตกแยกภายใน หรือเป็นความพยายามของรัสเซียในการสร้างความวุ่นวายเพื่อบ่อนทำลายยูเครนจากภายใน ท่ามกลาง สงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ยังคงดำเนินอยู่
ลำดับเหตุการณ์ ปฏิบัติการสังหารที่เย้ยกฎหมาย
ตามรายงานเบื้องต้นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติยูเครน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 0930 น. ตามเวลาท้องถิ่น บนถนนสายหลักในเขตเปเชอร์สก์ (Pechersk) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญหลายแห่ง
- 0930 น. รถยนต์ของนายโมรอซกำลังเคลื่อนตัวช้าๆ ท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่น คนร้ายซึ่งคาดว่ามีอย่างน้อย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาเทียบข้าง ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่รถยนต์หลายนัด โดยมุ่งเป้าไปที่ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหลัง
- 0932 น. รถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความโกลาหลของผู้คนที่สัญจรไปมา
- 0940 น. หน่วยแพทย์ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พบร่างของนายโมรอซและคนขับรถเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ทันทีเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน
- 1100 น. SBU ออกแถลงการณ์ยืนยันการเสียชีวิต และประกาศยกระดับการสืบสวนเป็นคดีความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อไล่ล่าผู้ก่อเหตุ
ลักษณะการก่อเหตุที่รวดเร็วและแม่นยำ บ่งชี้ว่าเป็นการลงมือของมืออาชีพที่ผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี และทำให้คำถามว่า ใครยิงอดีตประธานรัฐสภายูเครน ยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้น
“โอเล็กซานเดอร์ โมรอซ คือใคร?” ย้อนรอยเส้นทางการเมืองที่เต็มไปด้วยขวากหนาม
การจะเข้าใจถึงสาเหตุการลอบสังหารครั้งนี้ได้นั้น จำเป็นต้องเข้าใจว่า โอเล็กซานเดอร์ โมรอซ เป็นใคร และเขามีบทบาทอย่างไรในภูมิทัศน์การเมืองของยูเครน
นายโมรอซ วัย 68 ปี ถือเป็นหนึ่งใน “ไดโนเสาร์ทางการเมือง” ของยูเครน เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต และก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาถึง 2 สมัย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเปลี่ยนขั้วและสร้างพันธมิตรทางการเมืองได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งคุณสมบัตินี้เองที่ทำให้เขามีทั้งมิตรและศัตรูมากมาย
- ยุคแรก เขามีบทบาทสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญของยูเครนฉบับแรกหลังได้รับเอกราช
- ยุคปฏิวัติสีส้ม (2004) เขาสนับสนุนฝ่ายค้านที่เรียกร้องประชาธิปไตย แต่หลังจากนั้นก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการจับมือกับพรรคการเมืองคู่แข่งเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
- ช่วงหลัง แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสำคัญแล้ว แต่เขายังคงมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และมีข่าวลือว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลและกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่หลายกลุ่ม อีกทั้งยังเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลชุดปัจจุบันในบางประเด็น โดยเฉพาะเรื่องยุทธศาสตร์การทำสงคราม
เส้นทางการเมืองที่ยาวนานและซับซ้อนของเขา ทำให้ปมสังหารสามารถแตกแขนงออกไปได้หลายทิศทาง
วิเคราะห์ 3 ปมสังหาร การเมืองภายใน, ผลประโยชน์ทับซ้อน, หรือสงครามเงา?
สาเหตุการลอบสังหารในยูเครนคืออะไร ในกรณีนี้ ทีมสืบสวนกำลังพิจารณา 3 ทฤษฎีหลักที่มีน้ำหนักเท่าๆ กัน
- ความขัดแย้งใน “การเมืองภายในยูเครน” นี่คือทฤษฎีแรกที่ทุกคนนึกถึง เนื่องจากประวัติของนายโมรอซเต็มไปด้วยการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ
- การล้างแค้นทางการเมือง เขาอาจถูกกำจัดโดยศัตรูทางการเมืองเก่าที่เคยถูกเขาหักหลัง หรืออาจมีกลุ่มอำนาจใหม่ที่มองว่าเขาเป็นเสี้ยนหนามในการก้าวขึ้นสู่อำนาจ
- ข้อมูลลับ มีการคาดการณ์ว่าโมรอซอาจครอบครองข้อมูลที่สามารถทำลายชื่อเสียงหรือเปิดโปงการทุจริตของนักการเมืองระดับสูงในปัจจุบัน การสังหารจึงเป็นการ “ปิดปาก” ที่ถาวร
- การเลือกตั้งในอนาคต แม้ยูเครนจะอยู่ในภาวะสงคราม แต่การเมืองภายในไม่เคยหยุดนิ่ง อาจมีกลุ่มที่กังวลว่าโมรอซกำลังวางแผนกลับคืนสู่อำนาจหลังสงครามยุติ และเลือกที่จะกำจัดเขาเสียแต่เนิ่นๆ
- การหักหลังในโลกธุรกิจสีเทา เบื้องหลังฉากหน้าทางการเมือง มีข่าวลือหนาหูมาตลอดว่านายโมรอซมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอิทธิพล (Oligarchs) และธุรกิจที่อาจไม่โปร่งใส
- ผลประโยชน์ทับซ้อน การเสียชีวิตของเขาอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในการจัดสรรผลประโยชน์มหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม หรือสัมปทานพลังงาน
- หนี้สินและการหักหลัง เขาอาจติดหนี้สินหรือหักหลังหุ้นส่วนทางธุรกิจที่มีอำนาจมืด ซึ่งนำไปสู่การตอบโต้ที่รุนแรง
- ปฏิบัติการของรัสเซีย (The Russian Hand) ในบริบทของ สงครามยูเครน-รัสเซีย ทฤษฎีนี้ไม่สามารถถูกตัดออกไปได้ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลยูเครนกำลังให้น้ำหนัก
- สร้างความปั่นป่วน การลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองเป็นยุทธวิธีคลาสสิกในการสร้างความระส่ำระสาย, ความไม่ไว้วางใจในหมู่ผู้นำ และบั่นทอนขวัญกำลังใจของประชาชน
- ส่งสารเตือน อาจเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังนักการเมืองยูเครนคนอื่นๆ ที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซีย
- โยนความผิด อีกมุมหนึ่งคือการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความขัดแย้งภายในยูเครน เพื่อให้โลกภายนอกมองว่ายูเครนเป็นรัฐที่ล้มเหลวและไม่สามารถปกครองตนเองได้
ผลกระทบและความท้าทาย เมื่อความมั่นคงในเมืองหลวงถูกสั่นคลอน
การลอบสังหารครั้งนี้ส่งผลกระทบในวงกว้างมากกว่าแค่การสูญเสียบุคคลหนึ่งคน
- ความเชื่อมั่นของประชาชน ความมั่นคงในกรุงเคียฟล่าสุดเป็นอย่างไร คือคำถามที่ประชาชนกำลังถามด้วยความหวาดวิตก เหตุการณ์นี้ทำลายความรู้สึกปลอดภัยและแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ใจกลางเมืองหลวงก็ยังไม่ปลอดภัย
- เสถียรภาพทางการเมือง การเสียชีวิตของโมรอซอาจทำให้สมดุลอำนาจของกลุ่มการเมืองต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป และอาจนำไปสู่การกล่าวโทษและสืบสวนที่สร้างความแตกแยกในหมู่ชนชั้นนำทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนเปราะบางที่สุดในเวลานี้
- ภาพลักษณ์ในสายตาชาวโลก พันธมิตรชาติตะวันตกที่ให้การสนับสนุนยูเครน อาจเริ่มตั้งคำถามถึงเสถียรภาพภายในของรัฐบาลยูเครน และความสามารถในการควบคุมสถานการณ์
บทสรุป ปริศนาท่ามกลางควันปืนและอนาคตที่แขวนบนเส้นด้าย
การเสียชีวิตของ โอเล็กซานเดอร์ โมรอซ ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการณ์ครั้งใหม่ที่ซ้อนทับอยู่บนวิกฤตสงครามเดิม การตามล่าหาตัวฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการ ลอบสังหารนักการเมือง ครั้งนี้ คือการแข่งขันกับเวลาของหน่วยงานความมั่นคงยูเครน ไม่ใช่เพียงเพื่อนำคนผิดมาลงโทษ แต่เพื่อรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของชาติที่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
ข่าวยูเครนล่าสุด ในวันนี้จึงไม่ใช่ข่าวจากสมรภูมิรบแนวหน้า แต่เป็นข่าวจากสมรภูมิเงาใจกลางเมืองหลวง ที่ซึ่งกระสุนเพียงไม่กี่นัดอาจสร้างความเสียหายได้รุนแรงไม่แพ้ขีปนาวุธ คำตอบของปริศนานี้จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของยูเครน ว่าจะสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งภายในเพื่อรวมพลังต่อสู้กับศัตรูภายนอกได้หรือไม่ หรือจะจมดิ่งลงสู่ความวุ่นวายที่ศัตรูปรารถนา
แหล่งที่มาจาก : am2con
