ด่วน! โปแลนด์ยิงโดรนรัสเซียร่วงในน่านฟ้า! นาโต้เรียกประชุมฉุกเฉิน-หวั่นบานปลายเป็นสงครามใหญ่

โปแลนด์ยิงโดรนรัสเซีย

โปแลนด์ยิงโดรนรัสเซีย วอร์ซอ/บรัสเซลส์ – สถานการณ์ความมั่นคงในยุโรปตะวันออกทวีความตึงเครียดถึงขีดสุดในวันนี้ (10 กันยายน 2568) เมื่อ กระทรวงกลาโหมโปแลนด์ แถลงยืนยันว่ากองทัพอากาศได้ยิงสกัดอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) สัญชาติรัสเซียที่ล่วงล้ำเข้ามาใน น่านฟ้าโปแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่เริ่ม สงครามยูเครน ส่งผลให้ NATO ต้องเรียกประชุมฉุกเฉินสภาแอตแลนติกเหนือทันที ท่ามกลางความวิตกว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นชนวนที่นำไปสู่การใช้ มาตรา 5 ของนาโต้ ว่าด้วยการป้องกันร่วมกัน และเสี่ยงที่จะลุกลามบานปลายเป็นความขัดแย้งในวงกว้างระหว่างพันธมิตรตะวันตกและรัสเซีย

Poland says it shot down Russian drones after airspace violation

โปแลนด์ยิงโดรนรัสเซีย ลำดับเหตุการณ์ วินาทีเผชิญหน้าเหนือชายแดนยุโรปตะวันออก

ตามแถลงการณ์ฉุกเฉินจากกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ที่กรุงวอร์ซอ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศของโปแลนด์ตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บินข้ามพรมแดนจากฝั่งเบลารุสเข้ามายังจังหวัดลูบลิน (Lublin) ทางตะวันออกของประเทศ

  • การตรวจจับและการแจ้งเตือน ระบบเรดาร์ของ NATO และโปแลนด์ได้ติดตามเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งบินในระดับความสูงปานกลางและไม่ตอบสนองต่อการสื่อสารตามมาตรฐานการบินสากล
  • การส่งเครื่องบินสกัดกั้น กองทัพอากาศโปแลนด์ได้ส่ง เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ ขึ้นสกัดกั้นจากฐานทัพอากาศใกล้เคียง
  • การยืนยันและการตัดสินใจ นักบินได้ทำการพิสูจน์ทราบด้วยสายตา (Visual Identification) และยืนยันว่าอากาศยานดังกล่าวคือโดรนสอดแนมรุ่น Orlan-10 ของรัสเซีย หลังจากประเมินว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและน่านฟ้าอธิปไตย ศูนย์บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศจึงได้อนุมัติให้ทำการยิงสกัด
  • การทำลายเป้าหมาย โดรนของรัสเซียถูกยิงตกในพื้นที่ชนบท ห่างจากเขตชุมชนพอสมควร ขณะนี้ทีมเก็บกู้ซากกำลังเข้าพื้นที่เพื่อทำการสืบสวนโดยละเอียด

เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน รัฐบาลโปแลนด์ได้ประกาศภาวะเฝ้าระวังระดับสูงสุดใน 3 จังหวัดชายแดน ได้แก่ ลูบลิน (Lublin), พอดลาเคีย (Podlaskie) และซับคาร์พาเทีย (Subcarpathian) พร้อมทั้งมีคำสั่งปิดสนามบินชั่วคราว 4 แห่งในภาคตะวันออก ซึ่งรวมถึงสนามบินเชชูฟ-ยาซิออนกา (Rzeszów-Jasionka) ซึ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์สำคัญในการลำเลียงความช่วยเหลือทางทหารและมนุษยธรรมไปยังยูเครน

นาโต้บนทางสองแพร่ง บททดสอบ ‘มาตรา 5’ ที่โลกจับตา

เหตุการณ์ โปแลนด์ยิงโดรนรัสเซีย ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึงสำนักงานใหญ่ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ทันที นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Council) ซึ่งประกอบด้วยเอกอัครราชทูตจาก 32 ชาติสมาชิก เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างเร่งด่วน

Poland Shoots Down Drones Deep Inside NATO Member's Territory - WSJ

ประเด็นที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือคำถามที่ว่า โปแลนด์จะเปิดใช้มาตรา 5 ของนาโต้หรือไม่?

มาตรา 5 ถือเป็นหัวใจของสนธิสัญญาก่อตั้ง NATO ที่ระบุว่า “การโจมตีด้วยอาวุธต่อสมาชิกหนึ่งชาติหรือมากกว่านั้นในยุโรปหรืออเมริกาเหนือ จะถือเป็นการโจมตีต่อทุกชาติ” และสมาชิกทุกชาติจะให้ความช่วยเหลือชาติที่ถูกโจมตีนั้นในทันที ซึ่งอาจรวมถึงการใช้กำลังทหาร

ดร. เจมี่ เชีย อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NATO และนักวิเคราะห์จากสถาบัน Chatham House ในลอนดอน ให้ความเห็นกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “นี่คือสถานการณ์ที่ NATO หวาดกลัวที่สุดแต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือมาโดยตลอด การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับว่าการล่วงล้ำน่านฟ้าครั้งนี้เป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อทดสอบการป้องกันของ NATO หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุจากการนำร่องที่ผิดพลาด การสืบสวนซากโดรนจะเป็นกุญแจสำคัญในการหาคำตอบ”

ขณะนี้ ทางการโปแลนด์ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะร้องขอการปรึกษาหารือภายใต้มาตรา 4 (ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนนำไปสู่มาตรา 5) หรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ได้กล่าวว่า “การละเมิดอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เรากำลังปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร NATO และจะตอบสนองอย่างเด็ดเดี่ยวและเป็นหนึ่งเดียว”

ปฏิกิริยาจากทั่วโลก เสียงเรียกร้องความสงบ ปะทะ วาทกรรมโต้กลับจากเครมลิน

ปฏิกิริยาจากนานาชาติหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับโปแลนด์ แต่ก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจเพื่อหลีกเลี่ยงการบานปลายของสถานการณ์

  • สหรัฐอเมริกา ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี Andrzej Duda ของโปแลนด์แล้ว และยืนยันถึง “พันธสัญญาที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า” ของสหรัฐฯ ต่อมาตรา 5 และความมั่นคงของโปแลนด์
  • สหราชอาณาจักรและเยอรมนี ผู้นำทั้งสองประเทศได้ประสานเสียงเรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างโปร่งใส และประณามการกระทำที่เป็น “การยั่วยุและขาดความรับผิดชอบ” ของรัสเซีย
  • รัสเซีย กระทรวงกลาโหมรัสเซียในกรุงมอสโกได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยโฆษกกระทรวงฯ แถลงผ่านสำนักข่าว TASS ว่า “ไม่มีอากาศยานไร้คนขับของรัสเซียปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว ข้อกล่าวหาของโปแลนด์เป็นการยั่วยุที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการเสริมกำลังทหารของ NATO บริเวณชายแดนรัสเซีย”

รัสเซียตอบโต้อย่างไรหลังโดรนถูกยิง ยังคงเป็นคำถามสำคัญ นักวิเคราะห์ด้านการทหารคาดการณ์ว่า รัสเซียอาจตอบโต้ด้วยการเพิ่มกิจกรรมทางทหารบริเวณชายแดน หรือใช้มาตรการทางการทูตและโฆษณาชวนเชื่อเพื่อกล่าวหาว่า NATO เป็นฝ่ายรุกราน

Poland downs drones that violated its airspace during Russian attack on  Ukraine

ผลกระทบวงกว้าง ปิดน่านฟ้า-ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ และเงามืดเหนือสงครามยูเครน

ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ได้ปรากฏให้เห็นในทันที การปิดสนามบิน 4 แห่งทางตะวันออกของโปแลนด์ได้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินพาณิชย์หลายร้อยเที่ยวบิน และที่สำคัญคือเป็นการขัดขวางเส้นเลือดใหญ่ในการส่งความช่วยเหลือไปยังยูเครน ซึ่งอาจส่งผลต่อสถานการณ์ในสนามรบได้หากการปิดลากยาวออกไป

ในมิติทางเศรษฐกิจ ข่าวนี้ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในยุโรป โดยดัชนีตลาดหุ้นสำคัญปรับตัวลดลงทันทีหลังมีรายงานข่าวด่วน และราคาน้ำมันและทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น

สำหรับ สงครามยูเครน เหตุการณ์นี้ได้เพิ่มความซับซ้อนและอันตรายขึ้นไปอีกระดับ การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียและ NATO เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด การละเมิดน่านฟ้าครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณว่ารัสเซียกำลังทดสอบขีดจำกัดของพันธมิตรตะวันตก หรืออาจเป็นความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิด

บทสรุป ชั่วโมงต่อจากนี้คือช่วงเวลาที่เปราะบางอย่างยิ่ง การตัดสินใจของโปแลนด์และ NATO ในอีก 24-48 ชั่วโมงข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของวิกฤตการณ์ครั้งนี้ โลกกำลังจับตาทุกความเคลื่อนไหวจากวอร์ซอ บรัสเซลส์ และมอสโกอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์โดรนเพียงลำเดียวได้กลายเป็นบททดสอบครั้งประวัติศาสตร์ต่อสถาปัตยกรรมความมั่นคงของยุโรป และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ ความตึงเครียดรัสเซีย-นาโต้ ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *