วิเคราะห์เกมวัดใจ ฮามาส-อิสราเอล ข้อเสนอปล่อยตัวประกัน แลกยุติสงครามถาวร เดิมพันที่ “เนทันยาฮู” อาจไม่ยอมจ่าย

ฮามาส-อิสราเอล

ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง หลังกลุ่มฮามาสส่งสัญญาณผ่านตัวกลางเจรจาในกรุงโดฮาและกรุงไคโร ยืนยันความพร้อมในการเดินหน้าข้อตกลง “ช่วยเหลือตัวประกัน” ครั้งใหม่ แลกกับการที่อิสราเอลต้องยอม “หยุดยิงในฉนวนกาซา” อย่างถาวร ข้อเสนอนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ กดดันรัฐบาลอิสราเอลที่กำลังเผชิญเสียงเรียกร้องจากครอบครัวตัวประกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ขัดแย้งกับเป้าหมายสูงสุดในการทำลายล้างกลุ่มฮามาส บทความนี้จะวิเคราะห์ถึงรายละเอียดของข้อเสนอ, จุดยืนที่แตกต่างกันสุดขั้วของทั้งสองฝ่าย, บทบาทของตัวกลาง และอนาคตของข้อตกลงที่อาจกำหนดชะตากรรมของผู้คนนับล้านในฉนวนกาซา

ท่ามกลางเสียงปืนและเปลวไฟของ สงครามอิสราเอล ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ความหวังในการยุติความรุนแรงได้ถูกจุดขึ้นอีกครั้งจากความเคลื่อนไหวทางการทูตที่เกิดขึ้นห่างไกลจากสมรภูมิ รายงานข่าวล่าสุดจากสำนักข่าวอัลจาซีราและรอยเตอร์ส ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวระดับสูงในคณะเจรจาของ กาตาร์ และอียิปต์ ระบุว่า ผู้นำกลุ่มฮามาสได้แสดงท่าทีเชิงบวกต่อกรอบข้อตกลงหยุดยิงฉบับใหม่ที่ร่างขึ้นโดยนานาชาติ

อย่างไรก็ตาม “ท่าทีเชิงบวก” ดังกล่าวมาพร้อมกับเงื่อนไขสำคัญที่เป็น “ยาขม” สำหรับอิสราเอล นั่นคือ “การรับประกันการยุติสงครามอย่างถาวร” และการถอนทหารอิสราเอลทั้งหมดออกจาก ฉนวนกาซา ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้ปฏิเสธมาโดยตลอด การยื่นเงื่อนไขนี้จึงไม่ใช่แค่การเจรจาเพื่อ ช่วยเหลือตัวประกัน แต่เป็นการเดิมพันที่สูงกว่านั้น คือการกำหนดอนาคตทางการเมืองและการปกครองในฉนวนกาซาหลังสงครามสิ้นสุดลง

ข่าวอิสราเอลล่าสุด ชี้ให้เห็นว่า คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลกำลังประเมินข้อเสนอดังกล่าวอย่างหนัก ท่ามกลางแรงกดดันสองด้านที่บีบคั้นอย่างรุนแรง ทั้งจากภายในประเทศที่ต้องการให้ตัวประกันได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย และจากเป้าหมายทางทหารที่ประกาศไว้กับประชาคมโลกว่าจะกำจัดกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก

Gaza news: Israeli forces kill over 20 people seeking food

ถอดรหัสข้อเสนอฮามาส ไม่ใช่แค่หยุดยิง แต่คือการยุติสงคราม

เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน จำเป็นต้องแยกแยะรายละเอียดในข้อเสนอของฮามาส ซึ่งไม่ใช่แค่การหยุดยิงชั่วคราว แต่เป็นกระบวนการหลายขั้นตอนที่ผูกโยงกันอย่างซับซ้อน จากข้อมูลของแหล่งข่าวในทีมเจรจา ฮามาสยื่นข้อเสนออะไรให้อิสราเอลล่าสุด สามารถสรุปเป็น 3 ระยะได้ดังนี้

  • ระยะที่หนึ่ง (ประมาณ 42 วัน)
  • ฮามาส ปล่อยตัวประกันผู้หญิง, เด็ก, ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย จำนวนหนึ่ง (คาดว่าประมาณ 33 คน)
  • อิสราเอล ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ในอัตราส่วนที่สูง, หยุดยิงสมบูรณ์, ถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซา และอนุญาตให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างไม่จำกัด
  • ระยะที่สอง (ประมาณ 42 วัน)
  • ฮามาส ปล่อยตัวประกันชายที่เหลือทั้งหมด ทั้งที่เป็นพลเรือนและทหาร
  • อิสราเอล ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์เพิ่มเติม รวมถึงนักโทษที่มีความสำคัญ
  • เงื่อนไขสำคัญ ในระยะนี้จะมีการเจรจาเพื่อนำไปสู่ “การคืนสู่ความสงบอย่างยั่งยืน” (Restoration of a Sustainable Calm) ซึ่งเป็นถ้อยคำทางการทูตที่ฮามาสใช้ตีความหมายถึงการหยุดยิงถาวร
  • ระยะที่สาม
  • เริ่มต้นกระบวนการฟื้นฟูบูรณะ ฉนวนกาซา ครั้งใหญ่ภายใต้การกำกับดูแลของ กาตาร์, อียิปต์ และสหประชาชาติ พร้อมกับการแลกเปลี่ยนร่างผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝ่าย

จุดที่เปราะบางที่สุดของข้อตกลงนี้คือการเปลี่ยนผ่านจากระยะที่หนึ่งไปยังระยะที่สอง ฮามาสต้องการการรับประกันที่ชัดเจนว่าการหยุดยิงจะดำเนินต่อไปอย่างถาวร ในขณะที่อิสราเอลต้องการเก็บทางเลือกในการกลับมาโจมตีฮามาสอีกครั้งหลังจากได้ตัวประกันพลเรือนคืนมาแล้ว

จุดยืนอิสราเอล “ทำลายฮามาส” กับ “ช่วยตัวประกัน” ภารกิจที่ไปด้วยกันไม่ได้?

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู และคณะรัฐมนตรีฝ่ายขวาจัดของเขา ยืนกรานในเป้าหมายหลัก 2 ประการของสงครามครั้งนี้มาโดยตลอด คือ

  • ทำลายขีดความสามารถทางทหารและการปกครองของฮามาส
  • นำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าเป้าหมายทั้งสองนี้มีความขัดแย้งกันในทางปฏิบัติ การจะทำลายฮามาสให้สิ้นซากจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรงและยาวนาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวประกันที่เหลืออยู่ ในทางกลับกัน การจะ ช่วยเหลือตัวประกัน ผ่านการเจรจา ก็จำเป็นต้องยอมผ่อนปรนในเงื่อนไขบางอย่างให้กับฮามาส ซึ่งอาจรวมถึงการยุติสงครามก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายทางทหาร

Netanyahu says Hamas 'doesn't want a deal'

แรงกดดันภายในประเทศต่อรัฐบาลเนทันยาฮูนั้นมหาศาล

  • ครอบครัวตัวประกัน มีการจัดการประท้วงอย่างต่อเนื่องในกรุงเทลอาวีฟและเยรูซาเล็ม เรียกร้องให้รัฐบาลทำ “ทุกวิถีทาง” เพื่อบรรลุ ข้อตกลงหยุดยิง และนำคนที่พวกเขารักกลับมา
  • ฝ่ายค้านและประชาชน มีความไม่พอใจต่อการบริหารจัดการสงครามของเนทันยาฮู และมองว่าเขากำลังยื้อสงครามเพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองของตนเอง

คำถามที่ว่า อิสราเอลจะยอมหยุดโจมตีเพื่อตัวประกันหรือไม่ จึงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และขึ้นอยู่กับการคำนวณผลได้ผลเสียทางการเมืองและความมั่นคงของผู้นำอิสราเอล

บทบาทของตัวกลาง ความท้าทายในการเชื่อมรอยร้าวที่ลึกเกินไป

กาตาร์ และอียิปต์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา กำลังทำหน้าที่เป็นตัวกลางในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ

  • ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทั้ง ฮามาส-อิสราเอล ต่างไม่เชื่อใจอีกฝ่ายว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างครบถ้วน
  • ช่องว่างของข้อเรียกร้อง ข้อเรียกร้องพื้นฐานเรื่อง “การยุติสงคราม” ยังคงเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ยังหาจุดร่วมไม่ได้
  • การสื่อสารทางอ้อม การเจรจาไม่ได้เกิดขึ้นแบบเผชิญหน้า แต่เป็นการที่ตัวกลางต้องวิ่งไปมาระหว่างคณะเจรจาของทั้งสองฝ่าย ทำให้กระบวนการล่าช้าและซับซ้อน

วิกฤตมนุษยธรรม ปัจจัยเร่งที่โลกไม่อาจเพิกเฉย

ขณะที่การเจรจาทางการทูตกำลังดำเนินไป สถานการณ์ใน ฉนวนกาซา เลวร้ายลงทุกขณะ องค์กรสิทธิมนุษยชนและสหประชาชาติได้ออกมาเตือนถึง วิกฤตมนุษยธรรม ที่รุนแรง

  • ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ตัวเลขพลเรือนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
  • การขาดแคลนอาหารและน้ำ ประชากรกว่า 2 ล้านคนกำลังเผชิญกับความอดอยาก
  • ระบบสาธารณสุขล่มสลาย โรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานได้ ขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์

นานาชาติมีท่าทีอย่างไรต่อสงครามฮามาส-อิสราเอล? ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก รวมถึงพันธมิตรของอิสราเอลอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ต่างเรียกร้องให้มีการ หยุดยิงในฉนวนกาซา โดยทันทีเพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรม และกดดันให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุด

Israeli minister prays at flashpoint holy site as officials say 33  aid-seekers killed in Gaza

บทสรุป อนาคตบนทางสองแพร่ง

ความขัดแย้ง ฮามาส-อิสราเอล กำลังอยู่บนทางแพร่งที่สำคัญ ข้อเสนอจากฮามาสได้วางเดิมพันครั้งใหญ่ไว้บนโต๊ะเจรจา ขณะที่อิสราเอลกำลังถูกบีบให้ต้องเลือกระหว่างเป้าหมายทางทหารกับชีวิตของพลเมืองของตนเอง สถานการณ์ตัวประกันในกาซาเป็นอย่างไร ยังคงเป็นคำถามที่เจ็บปวดและรอคอยคำตอบจากการตัดสินใจของผู้นำไม่กี่คน

อนาคตของข้อตกลงนี้ยังคงไม่แน่นอน หากการเจรจาล้มเหลว แนวรบในฉนวนกาซา โดยเฉพาะเมืองราฟาห์ อาจทวีความรุนแรงขึ้นและนำไปสู่หายนะทางมนุษยธรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม แต่หากการเจรจาสำเร็จ มันอาจเป็นก้าวแรกที่เปราะบางสู่การยุติความขัดแย้งที่ยาวนานและสร้างบาดแผลลึกให้กับผู้คนทั้งสองฝ่าย โลกกำลังจับตาทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ด้วยความหวังว่าสันติภาพและการช่วยเหลือตัวประกันจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *