Rosneft กำไรทรุด 15% สวนทางอัดฉีดลงทุนโปรเจกต์ยักษ์ สัญญาณราคาน้ำมันโลก-ไทยระอุ?

Rosneft ผลประกอบการ

มอสโก, รัสเซีย – Rosneft PJSC บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลรัสเซีย สร้างความประหลาดใจให้นักลงทุนและตลาดพลังงานโลก ด้วยการประกาศผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2568 ที่มีกำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 15.1% โดยระบุสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงและค่าเงินรูเบิลที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ท่ามกลางตัวเลขสีแดงนี้ กลับซ่อนกลยุทธ์ “สวนกระแส” ที่น่าจับตา เมื่อบอร์ดบริหารภายใต้การนำของซีอีโอ อิกอร์ เซชิน กลับอนุมัติงบลงทุน (CAPEX) เพิ่มขึ้นเกือบ 19% เพื่อเดินหน้าโครงการ Vostok Oil ขนาดยักษ์ในแถบอาร์กติก การตัดสินใจที่ดูขัดแย้งกันนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงเดิมพันครั้งใหญ่ต่ออนาคตพลังงานของรัสเซีย แต่ยังส่งสัญญาณโดยตรงถึงความผันผวนของราคาพลังงานโลกที่อาจส่งผลกระทบมาถึงราคาน้ำมันหน้าปั๊มในประเทศไทย

Rosneft income falls 77%, revenue down 51% in 2Q20

ถอดรหัสผลประกอบการ Rosneft ตัวเลขที่ซ่อนนัยยะสำคัญ

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา Rosneft ได้เปิดเผยรายงานผลการดำเนินงานสำหรับรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ต่อตลาดหลักทรัพย์มอสโก โดยมีตัวเลขสำคัญที่สะท้อนภาพรวมของบริษัทดังนี้

  • กำไรสุทธิ (Net Income) อยู่ที่ 652 พันล้านรูเบิล (ประมาณ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 15.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
  • รายได้ (Revenue) ลดลงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากราคาขายน้ำมันดิบที่ลดลง
  • EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ลดลงมาอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านรูเบิล
  • เงินลงทุน (Capital Expenditure – CAPEX) เพิ่มขึ้น 18.9% แตะระดับ 780 พันล้านรูเบิล ซึ่งส่วนใหญ่ถูกจัดสรรให้กับโครงการ Vostok Oil

ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า แม้ Rosneft ผลประกอบการ จะเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบัน แต่บริษัทกลับเลือกที่จะ “เจ็บแต่เดินหน้า” ด้วยการทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อการเติบโตในระยะยาว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวไปยังคู่แข่งและตลาดพลังงานโลกว่า Rosneft ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่พร้อมจะกำหนดทิศทางตลาดต่อไป

“พายุสองลูก” ราคาน้ำมันและค่าเงินรูเบิลที่แข็งค่า

ปัจจัยหลักที่ Rosneft อ้างถึงในการฉุดรั้งผลกำไรครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 ปัจจัยสำคัญที่ทำงานประสานกันราวกับพายุที่สมบูรณ์แบบ

  1. ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แม้ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกจะยังคงแข็งแกร่ง แต่ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ Urals ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของรัสเซีย ในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ประมาณ $62.5 ต่อบาร์เรล ลดลง 3.6% จากปีก่อนหน้า การลดลงนี้เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในบางภูมิภาค และความพยายามของกลุ่ม โอเปกพลัส (OPEC+) ในการจัดการอุปทานเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด เมื่อราคาขายลดลงจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อ รายได้ Rosneft
  2. ค่าเงินรูเบิลที่แข็งค่าอย่างน่าประหลาดใจ นี่คือปัจจัยที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุด โดยปกติแล้ว ผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง Rosneft จะได้ประโยชน์จากค่าเงินที่อ่อนค่าลง เพราะรายรับส่วนใหญ่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินสกุลท้องถิ่นจะได้จำนวนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าเงินรูเบิล กลับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2565 จากมาตรการควบคุมเงินทุนที่เข้มงวดของธนาคารกลางรัสเซียเพื่อตอบโต้ มาตรการคว่ำบาตร จากชาติตะวันตก

ผลกระทบเงินรูเบิลแข็งค่าต่อเศรษฐกิจรัสเซีย และบริษัทส่งออกคือ รายรับในรูปดอลลาร์เมื่อแปลงเป็นรูเบิลจะมีมูลค่าลดลงทันที ทำให้ตัวเลขกำไรในสกุลเงินรูเบิลของ Rosneft ถูกกัดกร่อนลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Russia's Rosneft reports 14.4% drop in 2024 net profit | Reuters

ไม่ใช่การถอย แต่คือการเดิมพัน Vostok Oil อนาคตพลังงานของเครมลิน

หัวใจสำคัญของกลยุทธ์สวนกระแสครั้งนี้อยู่ที่ “Vostok Oil” โครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกยุคใหม่ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไทมีร์ (Taimyr Peninsula) ในเขตไซบีเรีย แถบอาร์กติก โครงการนี้คือเดิมพันครั้งประวัติศาสตร์ของ รัฐบาลรัสเซีย และเป็นความภาคภูมิใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

ศักยภาพของ Vostok Oil

  • ปริมาณสำรองมหาศาล คาดว่ามีปริมาณน้ำมันสำรองคุณภาพสูง (Low-Sulphur) มากถึง 6.5 พันล้านตัน (ประมาณ 47 พันล้านบาร์เรล)
  • เส้นทางขนส่งสายใหม่ โครงการนี้จะเปิดเส้นทางเดินเรือทะเลเหนือ (Northern Sea Route) เพื่อส่งออกน้ำมันไปยังตลาดเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ได้โดยตรงและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลดการพึ่งพาตลาดยุโรป
  • การสร้างงานและเทคโนโลยี เป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนหลายล้านล้านรูเบิล สร้างงานหลายแสนตำแหน่ง และผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการขุดเจาะในสภาพอากาศสุดขั้ว

การที่ Rosneft อัดฉีดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 19% ในโครงการนี้ ท่ามกลางผลกำไรที่ลดลง เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า อิกอร์ เซชิน (Igor Sechin) ซีอีโอคนสนิทของปูติน มองว่าการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางพลังงานในอนาคตมีความสำคัญเหนือกว่าผลกำไรในระยะสั้น

เสียงจากซีอีโอและมุมมองนักวิเคราะห์ ความท้าทายบนเส้นทางสายไหมพลังงานใหม่

ในแถลงการณ์ประกอบผลประกอบการ อิกอร์ เซชิน ระบุว่า “แม้จะมีความท้าทายจากสภาพแวดล้อมภายนอก แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการลงทุนตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะ Vostok Oil ซึ่งจะสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นและเป็นรากฐานสำคัญต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในระยะยาว”

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์พลังงานจากสถาบันการเงินตะวันตกหลายแห่งมองว่ากลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูง

  • ความเสี่ยงด้านการลงทุน โครงการ Vostok Oil ต้องใช้เงินทุนมหาศาลและเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งบางส่วนถูกจำกัดโดยมาตรการคว่ำบาตร
  • ความเสี่ยงด้านราคา การเดิมพันกับโครงการระยะยาวเช่นนี้ ขึ้นอยู่กับสมมติฐานว่าราคาน้ำมันในอนาคตจะยังคงอยู่ในระดับสูงพอที่จะทำให้โครงการคุ้มทุน
  • ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม การขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่เปราะบางอย่างอาร์กติก ก่อให้เกิดความกังวลอย่างหนักจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลก

ผลกระทบถึงไทย ทำไมเราต้องจับตา Rosneft?

แม้ว่า วิกฤตพลังงานรัสเซีย จะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่การเคลื่อนไหวของ Rosneft ส่งผลกระทบเป็นระลอกคลื่นมาถึงประเทศไทยอย่างน้อย 3 ด้านด้วยกัน

  1. เสถียรภาพราคาพลังงานโลก การตัดสินใจของ Rosneft ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคตจาก Vostok Oil จะเป็นตัวแปรสำคัญในการประชุมของกลุ่ม OPEC+ เพื่อกำหนดโควตาการผลิต หากรัสเซียเพิ่มอุปทานเข้าสู่ตลาด อาจกดดันให้ราคาน้ำมันดิบโลกลดลง แต่ในทางกลับกัน หากโครงการล่าช้าหรือมีอุปสรรค ก็อาจทำให้อุปทานตึงตัวและดันราคาให้สูงขึ้นได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะสะท้อนมายัง แนวโน้มราคาน้ำมันครึ่งปีหลัง และปีต่อๆ ไป
  2. การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์พลังงาน การที่ รัสเซียขายน้ำมันให้ใครบ้าง ได้เปลี่ยนทิศทางจากยุโรปมายังเอเชียมากขึ้น ทำให้ดุลอำนาจด้านพลังงานของโลกเปลี่ยนไป ประเทศไทยในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ ต้องวางแผนด้านความมั่นคงทางพลังงานให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ใหม่นี้
  3. ต้นทุนราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ผลกระทบที่ใกล้ตัวผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุดคือราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ซึ่งผันผวนโดยตรงตามราคาตลาดโลก ทุกการตัดสินใจของ Rosneft ไม่ว่าจะเพิ่มหรือลดการผลิต ล้วนมีส่วนในการกำหนดต้นทุนที่เราต้องจ่ายในชีวิตประจำวัน

How increased inefficiency explains falling oil prices | Our Finite World

บทสรุป เดิมพันของ Rosneft ชี้ชะตาตลาดน้ำมันโลก

ผลประกอบการครึ่งปี 2568 ของ Rosneft คือภาพจำลองของสถานการณ์ที่ซับซ้อนของรัสเซียในเวทีโลก การเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ยังคงวางแผนเดินเกมระยะยาวอย่างทะเยอทะยาน การลดลงของกำไรไม่ใช่สัญญาณของการยอมแพ้ แต่เป็นต้นทุนที่ต้องจ่ายเพื่อเดิมพันกับอนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่าผ่านโครงการ Vostok Oil

ความสำเร็จหรือล้มเหลวของกลยุทธ์สวนกระแสนี้ จะไม่เพียงแต่กำหนดชะตากรรมของ Rosneft และเศรษฐกิจรัสเซียเท่านั้น แต่ยังจะเป็นตัวแปรกำหนดทิศทางราคาน้ำมันโลกและความมั่นคงทางพลังงานของประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ไปอีกหลายทศวรรษข้างหน้า นี่คือบทพิสูจน์ว่าในโลกของพลังงาน ทุกการเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่เพียงรายเดียว สามารถสร้างแรงกระเพื่อมไปได้ทั่วทั้งโลก

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *