ด่วน! จีนสั่งเตือนภัย “ไต้ฝุ่นคาจิกิ” ระดับสีเหลือง กวางตุ้ง-ฝูเจี้ยนรับมือหนัก! วิเคราะห์เส้นทางล่าสุด กระทบไทยหรือไม่?

สถานการณ์ไต้ฝุ่นล่าสุด ทวีความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เมื่อ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน (NMC) ได้ประกาศ เตือนภัยไต้ฝุ่นจีน ในระดับสีเหลืองในเช้าวันนี้ (26 ส.ค. 68) เพื่อรับมือกับการมาถึงของ ไต้ฝุ่นคาจิกิ ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยคาดว่าจะส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันอังคารหน้า มาตรการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดได้ถูกนำมาใช้ในมณฑลที่เป็นหัวใจทางเศรษฐกิจอย่าง มณฑลกวางตุ้ง และ มณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก ท่ามกลางความกังวลนี้ คำถามสำคัญคือ ไต้ฝุ่นคาจิกิเข้าไทยไหม 2568 และผู้ที่วางแผนเดินทางไปจีนควรเตรียมตัวอย่างไร บทความนี้จะเจาะลึกทุกมิติของสถานการณ์ พร้อมบทวิเคราะห์ที่ชัดเจนที่สุด

ถอดรหัส “เตือนภัยระดับสีเหลือง” ของจีน มีความหมายและรุนแรงแค่ไหน?

เพื่อทำความเข้าใจถึงความรุนแรงของ ไต้ฝุ่นคาจิกิ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจระบบการเตือนภัยสภาพอากาศของประเทศจีน ซึ่งมีความชัดเจนและเป็นระบบ โดยแบ่งออกเป็น 4 สี เรียงตามลำดับความรุนแรงจากมากไปน้อย ดังนี้

• สีแดง (Red Alert) ระดับสูงสุด มีความรุนแรงที่สุด คาดว่าจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง ทางการจะสั่งให้หยุดการทำงานและกิจกรรมทุกประเภท

• สีส้ม (Orange Alert) ระดับ 2 มีความรุนแรงสูงมาก คาดว่าจะเกิดภัยพิบัติ อาจมีการสั่งปิดโรงเรียนและหยุดการทำงานในบางพื้นที่

• สีเหลือง (Yellow Alert) ระดับ 3 มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภัยพิบัติ ทางการจะออกมาตรการป้องกันที่เข้มงวด เช่น สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้ง ระงับการเดินเรือ และเตรียมพร้อมอพยพ

• สีน้ำเงิน (Blue Alert) ระดับ 1 เป็นการเตือนภัยขั้นต้น ให้ประชาชนเริ่มเตรียมความพร้อม

ดังนั้น การประกาศ เตือนภัยระดับสีเหลือง ในครั้งนี้จึงหมายความว่า ทางการจีนประเมินว่า ความรุนแรงไต้ฝุ่นคาจิกิ อยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและประชาชนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างจริงจัง

มาตรการขั้นสูงสุด กวางตุ้ง-ฝูเจี้ยน สั่งรับมือ “ไต้ฝุ่นคาจิกิ” อย่างไร?

ทันทีที่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน ประกาศเตือนภัย รัฐบาลท้องถิ่นของ มณฑลกวางตุ้ง และ มณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางพายุโดยตรง ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด โดยมีมาตรการสำคัญดังนี้

• ปฏิบัติการทางทะเล

• เรียกเรือกลับเข้าฝั่ง เรือประมงกว่า 35,000 ลำถูกสั่งให้กลับเข้าเทียบท่าอย่างปลอดภัยเพื่อหลบพายุ

• ระงับการเดินเรือ บริการเรือข้ามฟากและเรือท่องเที่ยวในหลายเส้นทางถูกระงับชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

• การคมนาคมทางอากาศและบก

• เฝ้าระวังสนามบิน สนามบินนานาชาติในเมืองกวางโจว, เซินเจิ้น และเซียะเหมิน ได้เริ่มมีประกาศแจ้งเตือนผู้โดยสารถึงความเป็นไปได้ที่เที่ยวบินจะล่าช้าหรือถูกยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบสถานะเที่ยวบินอย่างสม่ำเสมอ

• ตรวจสอบเส้นทางรถไฟและทางด่วน มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเส้นทางคมนาคมที่เสี่ยงต่อดินโคลนถล่มหรือน้ำท่วมขัง

• การเตรียมพร้อมภาคประชาชน

• ปิดสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้งและสวนสาธารณะริมทะเลหลายแห่งได้ประกาศปิดให้บริการชั่วคราว

• เตรียมศูนย์พักพิง มีการจัดเตรียมโรงเรียนและอาคารสาธารณะให้เป็นศูนย์อพยพชั่วคราวสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

• การสื่อสารเตือนภัย มีการส่งข้อความเตือนภัย (SMS) และแจ้งข่าวสารผ่านทุกช่องทางสื่อ เพื่อให้ประชาชนรับทราบ สถานการณ์ไต้ฝุ่นล่าสุด อย่างทั่วถึง

สำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ คำแนะนำคือให้กักตุนน้ำดื่มและอาหารที่จำเป็น, หลีกเลี่ยงการออกนอกเคหสถานหากไม่มีเหตุจำเป็น และติดตาม พยากรณ์อากาศจีน อย่างใกล้ชิด

เจาะเส้นทางพายุล่าสุด ไทยจะโดนหางเลขด้วยหรือไม่?

ประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุดคือ เส้นทางไต้ฝุ่นคาจิกิล่าสุด จะเบนทิศทางมายังประเทศไทยหรือไม่ จากการวิเคราะห์แบบจำลองสภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยาไทยและหน่วยงานพยากรณ์อากาศสากล สามารถให้ข้อสรุปที่ค่อนข้างชัดเจน ณ เวลานี้ว่า

“ไต้ฝุ่นคาจิกิจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพอากาศของประเทศไทย”

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้นคือ

• เส้นทางของพายุ แบบจำลองส่วนใหญ่ชี้ตรงกันว่า ไต้ฝุ่นคาจิกิ จะเคลื่อนตัวในทิศทางตะวันตกเฉียงเหนือ เลียบชายฝั่ง มณฑลกวางตุ้ง และ มณฑลฝูเจี้ยน ขึ้นไปยังทะเลเหลือง และจะค่อยๆ อ่อนกำลังลงเมื่อปะทะกับแผ่นดินและมวลอากาศเย็นจากทางตอนเหนือของจีน

• อิทธิพลของลมมรสุม ในขณะนี้ ประเทศไทยยังคงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยเป็นหลัก ซึ่งเป็นคนละระบบกับพายุที่ก่อตัวใน ทะเลจีนใต้

• เกราะป้องกันทางภูมิศาสตร์ ระยะทางที่ห่างไกลและแนวเทือกเขาในประเทศเวียดนามและลาวเป็นปราการสำคัญที่ช่วยลดทอนความรุนแรงของพายุที่มาจากทิศทางดังกล่าว

ดังนั้น ประชาชนในประเทศไทยจึงยังไม่ต้องกังวลถึง ผลกระทบต่อไทย จากพายุลูกนี้โดยตรง แต่ยังคงต้องติดตามสภาวะฝนตกตามฤดูกาลมรสุมตามปกติ

เสียงจากคนในพื้นที่และคำแนะนำสำหรับ “เที่ยวจีนช่วงนี้ปลอดภัยไหม”

สำหรับคำถามที่ว่า เที่ยวจีนช่วงนี้ปลอดภัยไหม คำตอบคือขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จะเดินทางไป

• พื้นที่ที่ควรหลีกเลี่ยง ในช่วงวันที่ 26-28 สิงหาคม 2568 ควรหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังเมืองชายฝั่งทะเลใน มณฑลกวางตุ้ง และ มณฑลฝูเจี้ยน เช่น ซัวเถา, เซินเจิ้น, เซียะเหมิน

• พื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ เมืองที่อยู่ลึกเข้ามาในแผ่นดินใหญ่ เช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เฉิงตู หรือซีอาน ไม่ได้รับผลกระทบจาก ไต้ฝุ่นคาจิกิ และยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ

ผู้ใช้โซเชียลมีเดียในเมืองกวางโจวรายหนึ่งโพสต์ว่า “ตอนนี้ฝนเริ่มตกหนักสลับกับลมแรงแล้ว ซูเปอร์มาร์เก็ตคนเยอะเป็นพิเศษ ทุกคนมาซื้อของตุนไว้ ทางการเตือนตลอดว่าคืนนี้จะหนักที่สุด”

(Conclusion – บทสรุป)

ไต้ฝุ่นคาจิกิ กำลังเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับระบบการจัดการภัยพิบัติของจีนอีกครั้งหนึ่ง ด้วยมาตรการที่เข้มข้นและเป็นระบบ คาดว่าจะสามารถจำกัดความเสียหายได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ มณฑลกวางตุ้ง และ มณฑลฝูเจี้ยน นี่คือช่วงเวลา 24-48 ชั่วโมงข้างหน้าที่ต้องเฝ้าระวังอย่างสูงสุด สำหรับประเทศไทย แม้จะโชคดีที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ สถานการณ์ไต้ฝุ่นล่าสุด นี้ก็เป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศในยุคปัจจุบัน และความสำคัญของการติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและรวดเร็วจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แหล่งที่มาจาก : am2con