แสงไฟนีออนที่สว่างไสวตลอด 24 ชั่วโมงและเสียงของชิปที่กระทบกันบนโต๊ะพนัน คือภาพจำของ “กาสิโนกัมพูชา” ในเมืองชายแดนอย่างปอยเปตที่คนไทยคุ้นเคย แต่เบื้องหลังฉากหน้าของความบันเทิงและการเสี่ยงโชคที่ถูกกฎหมายของประเทศเพื่อนบ้าน คือการกลายพันธุ์ทางธุรกิจที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งกำลังกัดกินสังคมไทยอย่างเงียบเชียบ บทความนี้จะเจาะลึกถึงความจริงที่ซ่อนอยู่บนชั้นบนของอาคารกาสิโนเหล่านี้ ที่ซึ่งผลกำไรที่แท้จริงไม่ได้มาจากโต๊ะบาคาร่าอีกต่อไป แต่มาจากห้องเซิร์ฟเวอร์ของ “เว็บพนันออนไลน์” และห้องทำงานของ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่ปฏิบัติการอย่างโจ๋งครึ่ม นี่คือรายงานเชิงสืบสวนถึงวิวัฒนาการของกาสิโนชายแดน สู่การเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์และเครื่องจักรฟอกเงินที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค
จาก “บ่อนปอยเปต” สู่ “ศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ”
ในอดีต โมเดลธุรกิจของ กาสิโนกัมพูชา ที่ ปอยเปต นั้นเรียบง่าย คือการดึงดูดนักพนันชาวไทยที่ไม่สามารถเล่นการพนันอย่างถูกกฎหมายในประเทศของตนเองได้ให้ข้ามมาใช้บริการ แต่การมาถึงของเทคโนโลยีดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน ได้เปิดช่องทางทำเงินที่มหาศาลกว่าและซับซ้อนกว่ามาก
ผู้ประกอบการในพื้นที่สีเทาเหล่านี้ตระหนักว่า “ทำเลที่ตั้ง” ที่อยู่นอกเขตอำนาจกฎหมายไทย แต่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตที่พร้อม และสามารถเข้าถึงแรงงานได้ง่าย คือ “สวรรค์” สำหรับการทำธุรกิจผิดกฎหมายที่พุ่งเป้ามายังประเทศไทยโดยเฉพาะ
กายวิภาคของธุรกิจสีเทา ชั้นล่างคือบ่อน ชั้นบนคือขุมนรกไซเบอร์
อาคารคอมเพล็กซ์ของ กาสิโนกัมพูชา หลายแห่งในปัจจุบันมีลักษณะการทำงานแบบ “สองระดับ” ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- ชั้นล่าง (The Facade) ยังคงเปิดให้บริการเป็นกาสิโนตามปกติ มีโต๊ะพนัน ตู้สล็อต และร้านอาหาร เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ถูกกฎหมายและเป็นฉากหน้าในการบังหน้ากิจกรรมอื่นๆ
- ชั้นบน (The Core Business) พื้นที่ชั้นบนมักถูกกั้นเป็นเขตหวงห้ามที่บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยจะถูกแบ่งให้เช่าสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจสีเทาต่างๆ
เว็บพนันออนไลน์ อาณาจักรที่เติบโตในเงามืด
ชั้นบนของอาคารคือที่ตั้งของห้องเซิร์ฟเวอร์และทีมงานแอดมินของ เว็บพนันออนไลน์ นับร้อยนับพันเว็บ ที่เปิดรับแทงพนันจากลูกค้าในประเทศไทยตลอด 24 ชั่วโมง การตั้งฐานที่นี่ทำให้พวกเขาปลอดภัยจากการจับกุมของตำรวจไทย
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พันธมิตรที่แยกไม่ออก
พื้นที่อีกส่วนหนึ่งถูกจัดเป็น “ออฟฟิศ” ขนาดใหญ่สำหรับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีพนักงานหลายร้อยคนนั่งโทรศัพท์หลอกลวงคนไทยอย่างเป็นระบบ กาสิโนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้เช่าพื้นที่ แต่ยังอำนวยความสะดวกด้านที่พัก, อาหาร และที่สำคัญคือเป็นช่องทางในการ ฟอกเงิน ที่ได้มาจากการหลอกลวง
“การฟอกเงินผ่านชิป” กลไกเปลี่ยนเงินสกปรกให้เป็นเงินสะอาด
ความเชื่อมโยงที่อันตรายที่สุดระหว่างธุรกิจเหล่านี้ คือการใช้กาสิโนเป็นเครื่องมือในการ ฟอกเงิน (Money Laundering) กระบวนการนี้เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
- นำเงินสกปรกเข้าระบบ เงินที่ได้จากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือรายได้จากเว็บพนันออนไลน์ จะถูกนำไปแลกเป็น “ชิป” ของกาสิโนในมูลค่าสูง
- สร้างธุรกรรมปลอม นำชิปเหล่านั้นไปเล่นการพนันบนโต๊ะ VIP เพียงเล็กน้อย เพื่อสร้าง “เส้นทาง” ว่าเงินได้ผ่านการเล่นพนันแล้ว
- แลกเป็นเงินสะอาด นำชิปส่วนใหญ่ที่เหลือไปแลกกลับเป็นเงินสดหรือเช็คจากกาสิโน เงินที่ได้ออกมาในขั้นตอนนี้จะกลายเป็น “เงินที่ถูกกฎหมาย” ที่มีที่มาจากการชนะพนัน ทำให้ยากต่อการตรวจสอบจากหน่วยงานปราบปรามการฟอกเงินของไทย
กลไกนี้ทำให้ กาสิโนกัมพูชา กลายเป็นปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับเงินที่ได้จาก อาชญากรรมข้ามชาติ ทุกรูปแบบ
ความท้าทายของทางการไทย เมื่อกฎหมายไล่ตามเทคโนโลยีไม่ทัน
สำหรับทางการไทย โดยเฉพาะ ตำรวจไซเบอร์ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) การต่อสู้กับอาณาจักรอาชญากรรมเหล่านี้เต็มไปด้วยความท้าทาย
- ปัญหาเขตอำนาจศาล ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการจับกุมหรือยึดเซิร์ฟเวอร์ในประเทศเพื่อนบ้านได้โดยตรง
- ความซับซ้อนในการประสานงาน การขอความร่วมมือจากทางการกัมพูชามีขั้นตอนที่ยุ่งยากและบางครั้งก็ล่าช้า จนผู้กระทำผิดไหวตัวทัน
- เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ อาชญากรใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและการโอนเงินที่ซับซ้อน ทำให้การติดตามเส้นทางการเงินทำได้ยากลำบาก
- กฎหมายการพนันของไทย การที่บ่อนการพนันยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย ทำให้คนไทยจำนวนมากยังคงเป็น “ลูกค้า” ของธุรกิจสีเทาเหล่านี้ต่อไปไม่สิ้นสุด
“เรากำลังต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมที่มีเงินทุนมหาศาล มีเทคโนโลยีที่ดี และที่สำคัญคือมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กฎหมายของเราเอื้อมไม่ถึง นี่คือสงครามที่ไม่สมมาตรอย่างแท้จริง” – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ บช.สอท. (ตำรวจไซเบอร์)
บทวิเคราะห์ อนาคตของเมืองชายแดนบนเส้นทางสีเทา
การกลายพันธุ์ของ กาสิโนกัมพูชา สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของโลกอาชญากรรมที่ปรับตัวตามเทคโนโลยีและช่องว่างของกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว แม้มันจะสร้างรายได้และเม็ดเงินหมุนเวียนในเมืองชายแดนของกัมพูชา แต่ก็ต้องแลกมากับภาพลักษณ์ของการเป็นแหล่งซ่องสุมอาชญากรรม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการลงทุนในระยะยาว
สำหรับประเทศไทย ปรากฏการณ์นี้คือภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ที่สร้างความเสียหายปีละหลายแสนล้านบาท การแก้ปัญหาจึงไม่สามารถหวังพึ่งแค่การปราบปรามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจัง, การทบทวน กฎหมายการพนัน ภายในประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้กับประชาชน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาณาจักรอาชญากรรมที่เติบโตอยู่แค่ปลายจมูกของเรานี่เอง
แหล่งที่มาจาก : am2con