เครื่องบินทหารตุรกีตกในจอร์เจีย พร้อมลูกเรืออย่างน้อย 20 นาย สั่นสะเทือนเสถียรภาพคอเคซัส

เครื่องบินทหารตุรกีตกในจอร์เจีย

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2025 | อังการา / ทบิลิซี – เครื่องบินลำเลียงทางทหารของตุรกี พร้อมลูกเรือและบุคลากรทางทหารอย่างน้อย 20 นาย ประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ภูเขาสูงทางตอนเหนือของประเทศจอร์เจียในเช้าวันนี้ (14 พ.ย.) ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความตื่นตระหนกไม่เพียงต่อตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของ NATO แต่ยังส่งแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงต่อสมดุลทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เปราะบางในภูมิภาคคอเคซัส

กระทรวงกลาโหมตุรกีได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการสูญเสียการติดต่อกับเครื่องบินลำเลียงแบบ Airbus A400M ขณะปฏิบัติภารกิจบินข้ามพรมแดนไปยังฐานทัพทหารในจอร์เจีย โดยทางการจอร์เจียได้ระบุในเวลาต่อมาว่า พบซากเครื่องบินในบริเวณเทือกเขาคอเคซัส ใกล้กับเมืองคาซเบกี ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและมีความท้าทายในการเข้าถึง

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ความตึงเครียดในภูมิภาคกำลังคุกรุ่น และทำให้เกิดคำถามสำคัญถึงอนาคตของความร่วมมือทางทหารระหว่างอังการาและทบิลิซี ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการคานอำนาจของรัสเซียในทะเลดำ

All 20 soldiers and crew members of a Turkish military cargo plane that  crashed in Georgia died

ยืนยันโศกนาฏกรรม แถลงการณ์แรกจากอังการาและทบิลิซี

ความโกลาหลเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เมื่อศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของจอร์เจียรายงานการสูญเสียการติดต่อกับเครื่องบินของกองทัพอากาศตุรกี หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาท่ามกลางพายุหิมะและหมอกหนา ความหวังก็ดับสลาย

กระทรวงกลาโหมตุรกีในกรุงอังการา ได้ยืนยันในแถลงการณ์ฉบับแรกว่า

“เราได้สูญเสียการติดต่อกับเครื่องบิน A400M ของเรา ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจลำเลียงตามกำหนดการไปยังจอร์เจีย พร้อมด้วยบุคลากร 20 นาย ขณะนี้ ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทางการจอร์เจีย นี่คือวันที่มืดมนสำหรับกองทัพและประเทศชาติของเรา”

ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจอร์เจีย ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเน้นย้ำถึงความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้น

“ในนามของรัฐบาลจอร์เจีย เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพันธมิตรและมิตรสหายชาวตุรกีของเรา สำหรับการสูญเสียที่น่าเศร้านี้” แถลงการณ์ระบุ “เรากำลังให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่คาซเบกี และขอยืนยันว่าในเบื้องต้น ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ถึงการกระทำอันเป็นปรปักษ์ (Foul Play)”

การยืนยันว่ามี “ลูกเรือ 20 นาย” บนเครื่อง ได้สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก โดยคาดว่าบุคลากรเหล่านี้ประกอบไปด้วยนักบิน, เจ้าหน้าที่เทคนิค และอาจรวมถึงหน่วยรบพิเศษที่กำลังจะเข้าร่วมการฝึกซ้อมรบตามปกติ

ภารกิจในม่านหมอก เป้าหมายของ A400M

แม้ว่ารายละเอียดของภารกิจจะยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงกลาโหม (ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม) ได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ระหว่างการเดินทางไปยังฐานทัพทหารวาซิอานี (Vaziani Military Base) ใกล้กรุงทบิลิซี เพื่อเตรียมการสำหรับการซ้อมรบร่วมประจำปีภายใต้รหัส “Agile Spirit 2025” ซึ่งเป็นการซ้อมรบที่นำโดยจอร์เจียและได้รับการสนับสนุนจาก NATO

  • เครื่องบิน Airbus A400M ถูกขนานนามว่าเป็น “ม้างาน” ของกองทัพอากาศตุรกี เป็นเครื่องบินลำเลียงทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่ทันสมัยที่สุดลำหนึ่งของโลก สามารถบรรทุกยุทโธปกรณ์หนักและกำลังพลจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่ที่มีข้อจำกัดได้ การสูญเสียเครื่องบินรุ่นนี้ถือเป็นความเสียหายร้ายแรงต่อศักยภาพของกองทัพตุรกี
  • การซ้อมรบ “Agile Spirit” เป็นสัญลักษณ์สำคัญของความพยายามของจอร์เจียในการเข้าใกล้มาตรฐานของ NATO และแสดงถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของตุรกีต่อความปรารถนาของจอร์เจียในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทางทหารตะวันตก

การที่เครื่องบินตกขณะปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับ NATO นี้เอง ที่ยกระดับอุบัติเหตุครั้งนี้ให้กลายเป็นประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศในทันที

Turkish military plane crashes in Georgia with at least 20 on board, World  News - AsiaOne

จุดเกิดเหตุ ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปราะบางของเทือกเขาคอเคซัส

สถานที่ที่เครื่องบินตกมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์และยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง

เขตเทศบาลคาซเบกี (Kazbegi Municipality) ตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงสายการทหารจอร์เจีย (Georgian Military Highway) ซึ่งเป็นเส้นทางโบราณที่เชื่อมต่อภูมิภาคคอเคซัสใต้เข้ากับคอเคซัสเหนือ ที่สำคัญกว่านั้น คือพื้นที่นี้อยู่ห่างจากพรมแดนที่ติดกับสหพันธรัฐรัสเซีย (สาธารณรัฐนอร์ทออสซีเชีย-อลาเนีย) เพียงไม่กี่สิบกิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังอยู่ไม่ไกลจากเขตเซาท์ออสซีเชีย (South Ossetia) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองภูมิภาคของจอร์เจียที่รัสเซียให้การสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระและได้ส่งกองกำลังเข้าไปยึดครองนับตั้งแต่สงครามปี 2008

การที่เครื่องบินทหารของ NATO ตกใน “สวนหลังบ้าน” ของรัสเซียเช่นนี้ ย่อมสร้างความกังวลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

  1. ความท้าทายในการสอบสวน การเข้าถึงพื้นที่เป็นไปได้ยากลำบากเนื่องจากเป็นเทือกเขาสูงชันและสภาพอากาศ
  2. ความอ่อนไหวทางทหาร การที่ยุทโธปกรณ์ทางทหารของตุรกี (และ NATO) ตกใกล้กับพื้นที่อิทธิพลของรัสเซีย ทำให้เกิดความเสี่ยงที่เทคโนโลยีหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม
  3. การเฝ้าระวังของรัสเซีย กองกำลังรัสเซียที่ประจำการในเซาท์ออสซีเชียและนอร์ทออสซีเชีย ย่อมเฝ้าติดตามปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

“สภาพอากาศ” หรือ “มากกว่านั้น”? การคาดเดาและการสอบสวนเบื้องต้น

ในขณะที่แถลงการณ์อย่างเป็นทางการทั้งจากตุรกีและจอร์เจียชี้ไปที่ “สภาพอากาศเลวร้าย” และ “ทัศนวิสัยต่ำ” ในพื้นที่ภูเขา ว่าเป็น สาเหตุเครื่องบินทหารตุรกีตกในจอร์เจีย ที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่ในโลกออนไลน์และในหมู่ผู้สังเกตการณ์ด้านความมั่นคง ก็เริ่มมีการตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินทหารได้ออกมาเตือนให้ระมัดระวังการสรุปที่เร็วเกินไป

“การบินในเทือกเขาคอเคซัสในเดือนพฤศจิกายนมีความเสี่ยงสูงโดยธรรมชาติ” พลอากาศโท (นอกราชการ) ฮาลุค เดเมียร์ จากสถาบันศึกษาความมั่นคงในอิสตันบูล ให้ความเห็น “กระแสลมแปรปรวน (Wind Shear) และสภาวะน้ำแข็งเกาะ (Icing) เป็นอันตรายที่เครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่อย่าง A400M ต้องเผชิญ แม้ว่ามันจะถูกออกแบบมาให้รับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วก็ตาม”

ขณะนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการค้นหา “กล่องดำ” หรือเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (Flight Data Recorder) และเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (Cockpit Voice Recorder) ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นในเสี้ยววินาทีสุดท้าย

ทางการตุรกีและจอร์เจียได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วม (Joint Investigation Committee) ขึ้นทันที โดยคาดว่าตุรกีจะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่ง พร้อมด้วยทีมจากบริษัท Airbus Defence and Space ผู้ผลิตเครื่องบิน เข้าร่วมโดยเร็วที่สุด

Turkey says 20 soldiers killed in military cargo plane crash in Georgia

บททดสอบความเป็นพันธมิตร สะเทือนความสัมพันธ์ตุรกี-จอร์เจีย

โศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นบททดสอบที่หนักหน่วงที่สุดต่อ “ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” (Strategic Partnership) ระหว่างตุรกีและจอร์เจีย ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ

นับตั้งแต่จอร์เจียได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียต ตุรกีได้วางตัวเป็นผู้สนับสนุนหลักของจอร์เจียในทุกมิติ

  • ด้านเศรษฐกิจ ตุรกีเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย และเป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญของท่อส่งพลังงาน (เช่น ท่อส่งน้ำมันบากู-ทบิลิซี-เจย์ฮาน) ที่ส่งพลังงานจากทะเลแคสเปียนไปยังยุโรป โดยเลี่ยงผ่านรัสเซีย
  • ด้านการเมือง ตุรกีเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งขันที่สุดในการผลักดันให้จอร์เจียเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO และสหภาพยุโรป
  • ด้านการทหาร กองทัพอากาศตุรกีและกองทัพจอร์เจียมีความร่วมมือที่ใกล้ชิด มีการฝึกซ้อมรบร่วมกันเป็นประจำ และตุรกีได้ให้ความช่วยเหลือในการปรับปรุงกองทัพจอร์เจียให้ทันสมัยตามมาตรฐาน NATO

การที่ตุรกีส่งเครื่องบินทหารไปจอร์เจียทำไม? คำตอบคือเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในความเป็นพันธมิตรนี้ แต่การตกของเครื่องบินครั้งนี้อาจสร้างรอยร้าวที่คาดไม่ถึง

“ความโปร่งใสในการสอบสวนคือกุญแจสำคัญ” ดร. นีโน บูร์จานาดเซ อดีตประธานรัฐสภาจอร์เจียและนักวิเคราะห์การเมือง กล่าว “รัฐบาลจอร์เจียต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความเต็มใจที่จะอำนวยความสะดวกในการสอบสวนอย่างเต็มที่ หากมีความล่าช้าหรือข้อครหาใดๆ เกิดขึ้น มันอาจบ่อนทำลายความไว้วางใจที่สร้างสมกันมานาน”

“ตาที่สาม” ที่จับจ้อง ปฏิกิริยาจากรัสเซีย

ในขณะที่อังการาและทบิลิซีกำลังจัดการกับวิกฤต มอสโกย่อมกำลังจับตามองสถานการณ์นี้อย่างไม่กะพริบตา

รัสเซียมองว่าการขยายอิทธิพลของ NATO เข้ามาในภูมิภาคคอเคซัส (ซึ่งรัสเซียถือเป็น “เขตอิทธิพลพิเศษ” หรือ Sphere of Influence) เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของตน การซ้อมรบร่วมระหว่างจอร์เจียและตุรกี (สมาชิก NATO) จึงเป็นสิ่งที่รัสเซียต่อต้านมาโดยตลอด

แม้ว่าปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการจากเครมลินในขณะนี้ (14 พ.ย.) จะยังคงเงียบเชียบ หรืออาจเป็นการแสดงความเสียใจตามมารยาททางการทูต แต่สื่อที่ควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย (State-controlled Media) ได้เริ่มรายงานข่าวนี้ในเชิงชี้นำแล้ว

สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซีย พาดหัวข่าวโดยเน้นย้ำว่า “เครื่องบิน NATO ตกใกล้พรมแดนรัสเซีย” ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญที่สนับสนุนเครมลินในรายการทอล์คโชว์เริ่มตั้งทฤษฎีว่านี่คือ “การยั่วยุที่ล้มเหลว” หรือ “บทเรียนสำหรับจอร์เจียที่เข้าใกล้ตะวันตกมากเกินไป”

ดร. อเล็กซานเดอร์ คูลีย์ ผู้อำนวยการสถาบันแฮร์ริแมน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ให้ทัศนะว่า

“ไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม รัสเซียจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน เครมลินจะใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อเพื่อตอกย้ำว่า การปรากฏตัวของ NATO ในคอเคซัสนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพและโศกนาฏกรรม ไม่ใช่ความมั่นคง”

เสียงสะท้อนจากบรัสเซลส์ NATO ประเมินสถานการณ์

ณ สำนักงานใหญ่ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป็นข่าวร้ายแรง การสูญเสียบุคลากรและยุทโธปกรณ์ของประเทศสมาชิกในระหว่างปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตร ย่อมได้รับการตอบสนองในระดับสูงสุด

นายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับตุรกี

“เรากำลังติดตามสถานการณ์การตกของเครื่องบินทหารตุรกีในจอร์เจียอย่างใกล้ชิด” สโตลเตนเบิร์กระบุ “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต รัฐบาลตุรกี และกองทัพตุรกี NATO ขอยืนหยัดในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับตุรกี พันธมิตรผู้มีค่าของเรา ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ใช่การโจมตีโดยตรงที่จะนำไปสู่การบังคับใช้มาตรา 5 (การป้องกันร่วมกัน) แต่ก็เป็นการตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นใน “ปีกตะวันออก” (Eastern Flank) ของ NATO โดยเฉพาะในภูมิภาคทะเลดำและคอเคซัส ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับรัสเซียที่แข็งกร้าวมากขึ้น

โศกนาฏกรรม A400M ประวัติและความปลอดภัยของ “แอตลาส”

เครื่องบิน Airbus A400M (หรือที่รู้จักในชื่อ “Atlas” ในบางกองทัพ) ถือเป็นโครงการความร่วมมือด้านกลาโหมที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งของยุโรป ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนเครื่องบินลำเลียงรุ่นเก่าอย่าง C-130 Hercules และ C-160 Transall กองทัพอากาศตุรกีเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานหลักของเครื่องบินรุ่นนี้

อย่างไรก็ตาม A400M ก็เคยประสบปัญหาระหว่างการพัฒนาและการปฏิบัติงาน

  • ปี 2015 (โศกนาฏกรรมที่เซบียา) เหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นที่เมืองเซบียา ประเทศสเปน เมื่อเครื่อง A400M ที่กำลังทดสอบการบินตกหลังทะยานขึ้นไม่นาน ส่งผลให้ลูกเรือ 4 คนเสียชีวิต สาเหตุเกิดจากปัญหาซอฟต์แวร์ควบคุมเครื่องยนต์
  • ปัญหาทางเทคนิค ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โครงการนี้เผชิญกับปัญหาความล่าช้า, ค่าใช้จ่ายบานปลาย และปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับชุดเกียร์ของเครื่องยนต์ (Propeller Gearbox)

แม้ว่าปัญหาเหล่านั้นส่วนใหญ่จะได้รับการแก้ไขแล้ว และ A400M ได้พิสูจน์ตัวเองในปฏิบัติการสำคัญๆ (เช่น การอพยพที่คาบูล ปี 2021) แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ย่อมนำไปสู่การตรวจสอบประวัติด้านความปลอดภัยของเครื่องบินรุ่นนี้อย่างละเอียดอีกครั้งจากทุกประเทศผู้ใช้งาน

ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย แข่งกับเวลาและสภาพอากาศ

ขณะนี้ (เวลา 1900 น. ตามเวลาท้องถิ่น) ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) ในเขตคาซเบกี กำลังเผชิญกับอุปสรรคใหญ่หลวง

  • ภูมิประเทศ จุดที่พบซากเครื่องบินอยู่บนไหล่เขาที่สูงชัน ปกคลุมด้วยหิมะหนา และยากต่อการเข้าถึงด้วยยานพาหนะภาคพื้นดิน
  • สภาพอากาศ พายุหิมะยังคงดำเนินต่อไป ทำให้ทัศนวิสัยเป็นศูนย์ และเป็นอันตรายต่อเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย
  • ความมืด เมื่อเข้าสู่ช่วงค่ำ อุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว (ต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียส) ทำให้โอกาสในการพบผู้รอดชีวิต (หากมี) ลดน้อยลงทุกนาที

ทางการจอร์เจียได้ระดมทีมกู้ภัยภูเขา (Mountain Rescue Teams) ที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ ขณะที่ตุรกีได้ส่งหน่วยคอมมานโดค้นหาและกู้ภัยทางทหาร (CSAR) ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk เพื่อพยายามเข้าถึงจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด

เป้าหมายหลักในตอนนี้คือการค้นหาผู้รอดชีวิต (แม้จะริบหรี่) และการเก็บกู้กล่องดำ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่สุด

บทสรุปและแนวโน้ม คอเคซัสบนเส้นด้าย

โศกนาฏกรรมของเครื่องบิน A400M ของตุรกีในจอร์เจีย ไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุทางการบิน แต่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่จะส่งแรงกระเพื่อมไปอีกหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้า

ในระยะสั้น โฟกัสจะอยู่ที่ปฏิบัติการกู้ภัยที่แสนยากลำบาก และการเริ่มต้นกระบวนการสอบสวนที่ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสและรวดเร็ว เพื่อยุติการคาดเดาและการสร้างทฤษฎีสมคบคิด

ในระยะกลาง ความสัมพันธ์ตุรกี-จอร์เจียจะถูกทดสอบอย่างหนัก ความร่วมมือในการสอบสวนจะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของพันธมิตรคู่นี้

ในระยะยาว นี่คือเครื่องเตือนใจถึงความเปราะบางของเสถียรภาพในภูมิภาคคอเคซัส การสูญเสียครั้งนี้จะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยรัสเซีย เพื่อพยายามลดทอนอิทธิพลของ NATO และสร้างความแตกแยกระหว่างอังการาและทบิลิซี

โลกกำลังจับตามองว่าตุรกีและจอร์เจีย สองพันธมิตรสำคัญในจุดยุทธศาสตร์ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จะประคับประคองความสัมพันธ์และก้าวข้ามผ่านวิกฤตที่เกิดจากซากปรักหักพังบนยอดเขาที่หนาวเหน็บนี้ไปได้อย่างไร

แหล่งที่มาจาก : am2con