โรงพยาบาลในคาสิโนมาเก๊า ในดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยขับเคลื่อนด้วยเสียงของวงล้อรูเล็ตและโต๊ะบาคาร่า วันนี้ มาเก๊าได้เปิดตัวการเดิมพันครั้งใหม่ที่อาจมีความสำคัญต่ออนาคตของตนเองมากที่สุด นั่นคือการเปิดตัว “EverLife International Hospital” โรงพยาบาลหรูครบวงจรที่ตั้งอยู่ใจกลาง Galaxy Macau หนึ่งในรีสอร์ตคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดของเมือง โครงการที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนในโลกนี้ ไม่ใช่แค่การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่เป็น “การเดิมพันเชิงยุทธศาสตร์” ครั้งใหญ่ที่สุดของมาเก๊า ในการพลิกโฉมหน้าตัวเองจาก “เมืองหลวงแห่งการพนันของโลก” สู่ “ศูนย์กลาง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาเก๊า” ระดับไฮเอนด์ ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากรัฐบาล ปักกิ่ง นี่คือสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของ นโยบายกระจายความเสี่ยงมาเก๊า ที่จะชี้ชะตาอนาคตของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ในทศวรรษหน้า ว่าจะสามารถสลัดภาพลักษณ์เก่าและสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จหรือไม่
โรงพยาบาลในคาสิโนมาเก๊า จาก “บาคาร่า” สู่ “การบำบัด” ข้างในโรงพยาบาลสุดหรูที่ไม่เหมือนใคร
ลืมภาพโรงพยาบาลแบบเดิมๆ ไปได้เลย “EverLife International Hospital” ซึ่งร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ถูกออกแบบมาเพื่อลบเส้นแบ่งระหว่างการรักษาพยาบาลและการพักผ่อนระดับห้าดาว โรงพยาบาลในคาสิโนมาเก๊าให้บริการอะไรบ้าง? คำตอบคือบริการที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง โดยเน้นการแพทย์เชิงป้องกันและเสริมความงาม มากกว่าการรักษาโรคฉุกเฉิน
- โปรแกรมตรวจสุขภาพผู้บริหาร (Executive Health Screenings) แพ็กเกจตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมและใช้เทคโนโลยีล่าสุด พร้อมการให้คำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Wellness) การบำบัดด้วยเซลล์, การให้วิตามินทางหลอดเลือด, และโปรแกรมเวลเนสที่ออกแบบเฉพาะบุคคล
- ศัลยกรรมความงามและผิวหนัง (Cosmetic Surgery and Dermatology) บริการด้านความงามครบวงจรโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งชื่อดัง
- เวชศาสตร์การกีฬาและการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Sports Medicine and Rehabilitation) สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายในสภาพแวดล้อมที่หรูหรา
โมเดลธุรกิจนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับธุรกิจรีสอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ ลูกค้าสามารถเดินทางมาพักในห้องสวีทสุดหรู, เข้ารับการตรวจสุขภาพหรือทำทรีตเมนต์ในช่วงเช้า, พักผ่อนที่สปาหรือรับประทานอาหารระดับมิชลินสตาร์ในช่วงบ่าย และเพลิดเพลินกับความบันเทิงในยามค่ำคืน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในอาณาจักรเดียวกัน
“คำสั่งจากปักกิ่ง” เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังการพลิกโฉมครั้งประวัติศาสตร์
ทำไมมาเก๊าถึงสร้างโรงพยาบาลในคาสิโน? คำตอบไม่ได้อยู่ที่ความต้องการทางการแพทย์ แต่เป็นความจำเป็นทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ถูกบีบโดยตรงจากรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง
- การพึ่งพิงที่อันตราย ก่อนการระบาดของโควิด-19 รายได้จาก อุตสาหกรรมคาสิโน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้ทั้งหมดของรัฐบาลมาเก๊า และประมาณ 50% ของ GDP ทั้งหมด การพึ่งพิงธุรกิจเพียงอย่างเดียวนี้สร้างความเสี่ยงมหาศาล
- การปราบปรามของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นโยบายต่อต้านการทุจริตและการปราบปรามการไหลออกของเงินทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ทุบทำลายธุรกิจ “VIP Junket” ซึ่งเคยเป็นเส้นเลือดหลักของคาสิโนมาเก๊าอย่างรุนแรง
- ใบอนุญาตประกอบกิจการฉบับใหม่ เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดในการต่อใบอนุญาตประกอบกิจการคาสิโนเป็นเวลา 10 ปี ให้กับผู้ประกอบการ 6 รายใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ คือการที่ทุกบริษัทต้อง “ลงทุน” หลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการ “ที่ไม่ใช่การพนัน” (Non-Gaming) เช่น การจัดประชุมและนิทรรศการ (MICE), ความบันเทิง, กีฬา, และที่สำคัญคือ “สุขภาพและเวลเนส”
การสร้างโรงพยาบาลในรีสอร์ตจึงไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่เป็น “ภารกิจ” ที่ผู้ประกอบการคาสิโนต้องทำเพื่อรักษาใบอนุญาตและแสดงให้ปักกิ่งเห็นว่าพวกเขากำลังปฏิบัติตามนโยบายกระจายความเสี่ยงอย่างจริงจัง
สนามรบใหม่แห่งเอเชีย มาเก๊าจะโค่นแชมป์ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” อย่างไทยและสิงคโปร์ได้หรือ?
การประกาศตัวเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทำให้มาเก๊าต้องลงมาแข่งขันในสนามที่มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงมายาวนานอย่างประเทศไทย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ มาเก๊าจะแข่งขันในตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้อย่างไร?
จุดแข็ง (Strengths)
- โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก มาเก๊ามีโรงแรมหรู, ระบบคมนาคมที่ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการบริการที่พร้อมรองรับลูกค้าระดับบน
- ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ การเป็นประตูสู่ Greater Bay Area ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีประชากรร่ำรวยมหาศาล ทำให้มาเก๊ามีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่เดินทางมาถึงได้สะดวก
- การสนับสนุนจากรัฐบาล นโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทั้งรัฐบาลมาเก๊าและรัฐบาลกลาง
จุดอ่อน (Weaknesses)
- ขาดชื่อเสียงทางการแพทย์ มาเก๊าไม่มีชื่อเสียงหรือประวัติศาสตร์ด้านการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ การสร้าง “ความไว้วางใจ” คือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด
- ต้นทุนที่สูงกว่า ค่าครองชีพและค่าบริการในมาเก๊าสูงกว่าคู่แข่งอย่างประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ
- ภาพลักษณ์ที่ขัดแย้ง การนำเสนอเรื่อง “สุขภาพ” ท่ามกลางบรรยากาศของ “การพนัน” อาจสร้างความรู้สึกที่ขัดแย้งและไม่น่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภคบางกลุ่ม
ยุทธศาสตร์ของมาเก๊าจึงชัดเจนว่าไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การแข่งขันด้านราคา แต่เป็นการเจาะตลาด “Niche” ระดับบนสุด โดยนำเสนอ “ประสบการณ์แบบบูรณาการ” ที่ไม่มีใครสามารถมอบให้ได้
เสียงจากวงการ “การเดิมพันที่ชาญฉลาด” หรือ “ความเสี่ยงครั้งใหญ่”?
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของมาเก๊าได้รับปฏิกิริยาที่หลากหลายจากนักวิเคราะห์
“นี่คือทิศทางที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับมาเก๊า ยุคทองของรายได้จาก VIP Junket ได้จบลงแล้ว อนาคตของเมืองนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย การลงทุนในโครงการที่ไม่ใช่การพนันขนาดใหญ่เช่นนี้ คือการส่งสัญญาณว่าพวกเขาจริงจังกับการเปลี่ยนแปลง” นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าว
ในทางกลับกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบางคนยังคงตั้งข้อสงสัย
“การสร้างโรงพยาบาลที่สวยงามและมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การสร้าง ‘แบรนด์’ ที่ได้รับความไว้วางใจทางการแพทย์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี” ดร. เดวิด วิกเกอร์แมน, ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ให้ความเห็น “คำถามคือ แพทย์และศัลยแพทย์ระดับโลกจะยอมย้ายมาทำงานในสภาพแวดล้อมของคาสิโนหรือไม่ และผู้ป่วยจะรู้สึกไว้วางใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ในสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความบันเทิงยามค่ำคืนได้จริงหรือ? มันเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูงมาก”
บทสรุป อนาคตของมาเก๊าที่ไม่ได้วัดกันด้วยมูลค่าของชิปอีกต่อไป
การเปิด โรงพยาบาลในคาสิโนมาเก๊า เป็นมากกว่าแค่ข่าวธุรกิจที่น่าสนใจ แต่มันคือจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์และสัญลักษณ์ของการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของเมืองที่เคยร่ำรวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง มันคือการยอมรับความจริงว่าโมเดลเศรษฐกิจที่พึ่งพาการพนันเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ยั่งยืนอีกต่อไปในยุคที่การเมืองโลกเปลี่ยนแปลงไป
ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของ “การเดิมพัน” ครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของมาเก๊าในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า หากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จ มันจะกลายเป็นพิมพ์เขียวให้กับการพัฒนาโครงการที่ไม่ใช่การพนันอื่นๆ และเปลี่ยนโฉมหน้าของมาเก๊าไปตลอดกาล แต่หากล้มเหลว มันจะเป็นอนุสรณ์ราคาแพงที่ย้ำเตือนว่า การเปลี่ยน DNA ทางเศรษฐกิจของทั้งเมืองนั้น คือการพนันที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดและไม่มีใครรับประกันผลตอบแทนได้
แหล่งที่มาจาก : am2con