(วันที่ 31 ตุลาคม 2025, แคนตัน, มิสซิสซิปปี) – ปฏิบัติการ ตามจับลิงทดลอง ที่หลบหนีจากอุบัติเหตุ รถบรรทุกพลิกคว่ำ มิสซิสซิปปี บนทางหลวงหมายเลข I-55 ได้ย่างเข้าสู่ชั่วโมงที่ 24 ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดและหวาดผวาไปทั่วทั้งเมดิสันเคาน์ตี้ (Madison County)
ณ เวลา 1300 น. วันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) สำนักงานนายอำเภอเมดิสันเคาน์ตี้ ยืนยันว่า จากจำนวนลิงแสม (Cynomolgus Macaques) ทั้งหมด 20 ตัว ที่หลบหนีออกจากกรงที่แตกกระจายเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่สามารถ “จับกุม” คืนมาได้แล้ว 17 ตัว แต่ยังคงมี ลิงทดลอง ลอยนวล อีก 3 ตัว ที่หายเข้าไปในป่าทึบข้างทางหลวง
สิ่งที่เริ่มต้นจาก “อุบัติเหตุประหลาด” ได้บานปลายกลายเป็น “วิกฤตสาธารณสุข” เต็มรูปแบบอย่างรวดเร็ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์และเตือนภัยประชาชนถึงอันตรายจาก “ไวรัส Herpes B” ที่อาจติดมากับลิง ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตในมนุษย์สูงถึง 70-80% หากไม่ได้รับการรักษาทันที
ขณะที่โดรนตรวจจับความร้อนบินวนอยู่เหนือท้องฟ้า และโรงเรียนในพื้นที่สั่งปิดทำการชั่วคราว เหตุการณ์นี้ได้ฉายสปอตไลท์ดวงใหญ่ที่สุดไปยัง “โลกสีเทา” ของอุตสาหกรรมการค้าไพรเมตเพื่อการวิจัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่ซึ่งองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ประณามว่าเป็น “การค้าความตายที่โหดร้าย”
24 ชั่วโมงแห่งความกลัว ปฏิบัติการไล่ล่า 3 ตัวสุดท้าย
ปฏิบัติการค้นหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับความมืด, อากาศที่เย็นลง, และพื้นที่ป่าทึบที่ลิงสามารถซ่อนตัวได้อย่างง่ายดาย
“นี่ไม่ใช่การตามจับสัตว์เลี้ยง” นายอำเภอแห่งเมดิสันเคาน์ตี้ กล่าวในการแถลงข่าวเช้าวันนี้ “นี่คือการตามจับสัตว์ป่าที่ตื่นกลัว, บาดเจ็บ, หิวโหย และอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เรากำลังใช้ทุกทรัพยากรที่มี ทั้งทีมควบคุมสัตว์, เจ้าหน้าที่จาก CDC, และโดรนตรวจจับความร้อน”
สถานการณ์ล่าสุด (ณ วันที่ 31 ต.ค.)
- จับแล้ว 17 ตัว ลิงที่จับได้ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอ่อนเพลียและตื่นกลัว เจ้าหน้าที่ต้องใช้ปืนยิงยาสลบ (Tranquilizer guns) และกับดักขนาดใหญ่เพื่อจับกุม
- ยังเหลือ 3 ตัว ลิง 3 ตัวสุดท้ายยังคงลอยนวล และคาดว่าอาจเคลื่อนที่ไปได้ไกลจากจุดเกิดเหตุหลายไมล์
- ชุมชนล็อกดาวน์ สำนักงานเขตการศึกษาเมดิสันเคาน์ตี้ ได้สั่งปิดโรงเรียนอย่างน้อย 5 แห่ง ที่อยู่ในรัศมี 10 ไมล์จากจุดที่รถคว่ำ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน
- คำเตือนสูงสุด เจ้าหน้าที่ยังคงคำเตือน “ห้ามเข้าใกล้” (Do Not Approach) ในระดับสูงสุด “หากคุณพบเห็นลิง กรุณาอย่าพยายามถ่ายรูป, อย่าพยายามให้อาหาร, อย่าพยายามจับ” นายอำเภอย้ำ “ให้โทร 911 ทันที และอยู่ให้ห่างที่สุด”
“ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเป็นนักโทษในบ้านตัวเอง” ซาราห์ เบธ คอลลินส์ ผู้อยู่อาศัยในเมืองแคนตัน กล่าวกับสื่อท้องถิ่น “ฉันไม่กล้าให้ลูกๆ ออกไปเล่นที่สวนหลังบ้าน เราไม่รู้ว่าลิง 3 ตัวนั้นอยู่ที่ไหน”
“ภัยคุกคาม Herpes B” ทำไม CDC ถึงต้องลงพื้นที่เอง?
ความตื่นตระหนกของประชาชน ไม่ได้เกิดจากความกลัว “ลิง” แต่เกิดจากสิ่งที่ “มองไม่เห็น” ที่อาจมากับลิง นั่นคือ ไวรัส Herpes B
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้ยกระดับเหตุการณ์นี้เป็น “ภัยคุกคามทางชีวภาพ” (Biohazard) ในระดับท้องถิ่น นี่คือเหตุผลว่าทำไม ลิงทดลอง มิสซิสซิปปี อันตรายไหม คำตอบคือ “ใช่ และอันตรายถึงชีวิต”
Herpes B คืออะไร และอันตรายแค่ไหน?
ผู้เชี่ยวชาญจาก CDC อธิบายว่า ไวรัส Cercopithecine herpesvirus 1 (Herpes B) เป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไปในลิงแสม (Macaques) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หลบหนีในครั้งนี้
- ในลิง (The Host) ไวรัสนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงในลิง ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ หรืออาจมีแผลพุพองเล็กน้อยในปาก คล้าย “เริม” ในมนุษย์
- ในมนุษย์ (The Accident) หากมนุษย์ติดเชื้อ (ผ่านการกัด, ข่วน, หรือสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย, ปัสสาวะ เข้าทางบาดแผลหรือเยื่อบุตา/จมูก) ไวรัสนี้จะกลายเป็น “นักฆ่า” ที่ดุร้าย
- อาการ ในช่วงแรกอาจมีไข้ ปวดเมื่อย แต่เชื้อจะเดินทางเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางอย่างรวดเร็ว
- ผลลัพธ์ ก่อให้เกิด “โรคสมองและไขสันหลังอักเสบ” (Encephalomyelitis) ที่รุนแรง
- อัตราการเสียชีวิต CDC ยืนยันว่า หากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทันที (ซึ่งต้องทำภายในไม่กี่ชั่วโมง) อัตราการเสียชีวิต (Fatality Rate) สูงถึง 70-80%
“การที่ลิงเหล่านี้ตื่นตระหนกและอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อป้องกันตัว คือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด” ดร. แอนเจลา ราสมุสเซน นักไวรัสวิทยาชื่อดัง ให้ความเห็น “การกัดเพียงครั้งเดียว คือการส่งต่อเชื้อที่อาจถึงตายได้ นี่คือเหตุผลที่ CDC ไม่ประนีประนอมในเรื่องนี้”
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แจ้งเตือนโรงพยาบาลทุกแห่งในรัฐมิสซิสซิปปีและรัฐใกล้เคียง ให้เตรียมพร้อมรับมือผู้ที่อาจสัมผัสเชื้อ และเตรียมสต็อกยาต้านไวรัสไว้ให้พร้อม

“เดจาวูเพนซิลเวเนีย 2022” บทเรียนที่อุตสาหกรรมไม่เคยจำ
โศกนาฏกรรมที่กำลังเกิดขึ้นบนทางหลวง I-55 ในมิสซิสซิปปี คือภาพฉายซ้ำที่น่าขนลุกของเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อเดือนมกราคม 2022
ในครั้งนั้น รถบรรทุกที่ขนลิงแสม 100 ตัว (กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องปฏิบัติการของ CDC) ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ลิงหลบหนีไป 4 ตัว
เหตุการณ์ที่เพนซิลเวเนีย ควรจะเป็น “สัญญาณเตือน” ครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมนี้
- การปฏิบัติการที่โหดร้าย ลิงที่หลบหนีทั้ง 4 ตัว ถูกตามล่าและ “การุณยฆาต” (Euthanized) ทั้งหมด ซึ่งจุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ประชาชน
- ความเสี่ยงต่อสาธารณะ นางมิเชล ฟอลลอน (Michelle Fallon) หญิงที่พยายามช่วยเหลือลิงโดยไม่ทราบถึงอันตราย ได้สัมผัสกับสารคัดหลั่ง และต้องเข้ารับการกักตัวและเฝ้าระวังเชื้อ Herpes B เธอกล่าวในภายหลังว่า “มันคือฝันร้าย ฉันไม่รู้เลยว่าฉันกำลังสัมผัสกับอะไร”
- การเปิดโปงความลับ เหตุการณ์นั้นได้เปิดโปง “โลกสีเทา” ของการขนส่งไพรเมตให้สาธารณชนได้รับรู้เป็นครั้งแรก
การที่เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้งใน มิสซิสซิปปี (และครั้งนี้รุนแรงกว่า คือ 20 ตัวหลบหนี และยังจับไม่หมด) แสดงให้เห็นว่ากฎระเบียบด้านการขนส่งอาจยังไม่รัดกุมเพียงพอ
“เราล้มเหลวในการเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เพนซิลเวเนีย” ดร. จอห์น กลัค (Dr. John Gluch) ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมสัตว์ มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก กล่าว “กฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare Act) และกฎระเบียบของ DOT มีช่องโหว่ชัดเจนในการกำกับดูแลการขนส่งสัตว์ที่อาจเป็นอันตรายเหล่านี้ เรากำลังเล่นเกมรูเล็ตรัสเซียบนทางหลวงของเรา”
“ค้าไพรเมตพันล้าน” PETA จี้เปิดโปง “ต้นทาง-ปลายทาง”
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังต่อสู้กับภัยคุกคามทางกายภาพ องค์กรพิทักษ์สัตว์ก็ได้เปิดฉาก “สงคราม” ทางจริยธรรมทันที
กลุ่มประชาชนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (PETA) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) และกระทรวงคมนาคม (DOT) เรียกร้องให้มีการสอบสวนบริษัทขนส่งและห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มรูปแบบ
“โศกนาฏกรรมบน I-55 คือหายนะที่รอวันเกิดขึ้น” ลิซา โจนส์ (Lisa Jones) รองประธาน PETA แถลง “ลิงที่ตื่นตระหนกและบาดเจ็บเหล่านี้ ไม่ควรอยู่บนรถบรรทุกตั้งแต่แรก พวกเขาคือเหยื่อของอุตสาหกรรมการทดลองในสัตว์ที่โหดร้ายและเต็มไปด้วยความลับ”
PETA และกลุ่มพิทักษ์สัตว์อื่นๆ ได้ตั้งคำถามสำคัญที่สังคมต้องร่วมกันตอบ
- มาจากไหน? ลิงเหล่านี้ถูกนำเข้ามาจากที่ใด? สหรัฐฯ นำเข้าไพรเมตหลายหมื่นตัวต่อปี (ส่วนใหญ่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กัมพูชา, มอริเชียส) เพื่อใช้ในการวิจัยยาและวัคซีน
- จะไปที่ไหน? ปลายทางของรถบรรทุกคันนี้คือที่ใด? เป็นศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัย หรือห้องปฏิบัติการของบริษัทเอกชน (Contract Research Organization – CRO)?
- ทำไมต้องลับ? ทำไมการขนส่ง สัตว์ทดลอง เหล่านี้จึงต้องทำอย่างลับๆ โดยใช้รถบรรทุกที่ไม่ติดป้ายบอกอันตรายทางชีวภาพที่ชัดเจน?
“ประชาชนในมิสซิสซิปปีต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากเชื้อ Herpes B เพียงเพราะอุตสาหกรรมที่เห็นแก่กำไร พยายามขนย้ายสัตว์ที่รู้สึกเจ็บปวดเป็นเหมือน ‘สินค้า’ บนท้องถนน” แถลงการณ์ PETA ระบุ “เราเรียกร้องให้ยุติการขนส่งไพรเมต และหันไปใช้วิธีการวิจัยสมัยใหม่ที่ไม่ต้องใช้สัตว์”
“เราถูกขังในบ้านตัวเอง” เสียงสะท้อนจากชุมชนแคนตันที่หวาดผวา
ในขณะที่การถกเถียงระดับชาติดำเนินไป ชีวิตของผู้คนในเมืองแคนตัน รัฐมิสซิสซิปปี ได้หยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง
สำนักงานเขตการศึกษาเมดิสันเคาน์ตี้ ได้ประกาศ “ปิดโรงเรียน” (Lockdown) ในพื้นที่ 5 แห่งที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ โดยเปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนออนไลน์ชั่วคราว
“ลูกๆ ของฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปเล่นนอกบ้าน” ซาราห์ เบธ คอลลินส์ คุณแม่ลูกสองในเมืองแคนตัน กล่าว “มันน่ากลัวมาก เรารู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในบ้านของตัวเอง… เราไม่รู้ว่าลิง 3 ตัวนั้นอยู่ที่ไหน หรือมันจะโผล่มาที่สวนหลังบ้านเราเมื่อไหร่”
ปฏิบัติการไล่ล่าเข้มข้นขึ้นในวันนี้ โดยมีการใช้ทั้งโดรน, กับดักขนาดใหญ่ที่บรรจุอาหารล่อ, และทีมสัตวแพทย์ที่ถือปืนยิงยาสลบ แต่ความท้าทายคือพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่ และความมืดที่กำลังจะมาถึง
สำหรับลิง 3 ตัวที่เหลือ ชะตากรรมของพวกมันยังไม่แน่นอน หากพวกมันถูกจับได้ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะถูก “การุณยฆาต” เพื่อตรวจสอบเชื้อโรค ซึ่งเป็นมาตรฐานปฏิบัติการของ CDC เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
บทสรุป วิกฤตที่ยังไม่จบสิ้น และคำถามที่ยังไร้คำตอบ
ลิงทดลอง หนี จากอุบัติเหตุในมิสซิสซิปปีครั้งนี้ เป็นมากกว่าแค่ข่าวพาดหัวที่แปลกประหลาด มันคือจุดตัดที่อันตรายระหว่าง “ความปลอดภัยสาธารณะ” กับ “จริยธรรมทางวิทยาศาสตร์”
ในขณะที่การไล่ล่าลิง 3 ตัวสุดท้ายยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางความหวาดกลัวของชุมชนต่อ พฤติกรรมก้าวร้าว และเชื้อไวรัส Herpes B ที่มองไม่เห็น…
…คำถามที่ใหญ่กว่านั้นกำลังดังก้องไปถึงวอชิงตันและศูนย์วิจัยทั่วโลก อุบัติเหตุครั้งนี้คือ “ราคา” ที่สังคมต้องยอมจ่ายเพื่อความก้าวหน้าทางการแพทย์หรือไม่? และจะมี “ลิงทดลอง” อีกกี่คันรถที่กำลังวิ่งอยู่บนทางหลวงของเราในค่ำคืนนี้ โดยที่เราไม่เคยรับรู้ จนกว่าโศกนาฏกรรมครั้งต่อไปจะเกิดขึ้น
แหล่งที่มาจาก : am2con
 
		 
		 
		