‘อังกฤษจับคนร้ายคดีล่วงละเมิด’ ที่ถูกปล่อยผิดพลาด สู่ความล้มเหลวของระบบยุติธรรมที่สั่นคลอนความเชื่อมั่น

ปฏิบัติการไล่ล่าอันตึงเครียดตลอด 48 ชั่วโมงในกรุงลอนดอนได้ปิดฉากลงแล้ว สำนักงานตำรวจนครบาล (Metropolitan Police) ยืนยันในเช้าวันนี้ (29 ตุลาคม 2025) ว่าสามารถ อังกฤษจับคนร้ายคดีล่วงละเมิด ที่เป็นที่ต้องการตัวได้สำเร็จ หลังจากที่เขาถูก “ปล่อยตัวโดยความผิดพลาด” จากเรือนจำความมั่นคงสูง HMP Belmarsh เมื่อสองวันก่อน ท่ามกลางเสียงถอนหายใจแห่งความโล่งอกของประชาชน เสียงที่ดังกว่าคือเสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวและคำถามที่ว่า “มันเกิดขึ้นได้อย่างไร…อีกแล้ว?” โศกนาฏกรรมที่เกือบจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดทางธุรการ (Administrative Error) ที่เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่มันคือสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุดที่ชี้ไปยัง “วิกฤตที่กำลังเน่าเฟะ” ใจกลางกระบวนการยุติธรรมของสหราชอาณาจักร: ระบบเรือนจำที่กำลังพังทลายภายใต้น้ำหนักของตัวเอง, ภาวะขาดแคลนบุคลากรเรื้อรัง, และความล้มเหลวทางการเมืองที่กำลังคุกคามความปลอดภัยของคนทั้งชาติ

ปฏิบัติการไล่ล่า 48 ชั่วโมง ปิดฉากการจับกุมที่ปลายเหตุ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม “เจมส์ ฮอว์กินส์” (James Hawkins – นามสมมติ) วัย 42 ปี ผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหลายกระทงและมีกำหนดพ้นโทษในปี 2035 กลับได้รับอนุญาตให้เดินออกจากประตูหน้าของ HMP Belmarsh ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือนจำความมั่นคงสูงที่สุดในประเทศ ราวกับเป็นผู้มาติดต่อทั่วไป

5W1H ลำดับเหตุการณ์ความโกลาหล

• Who เจมส์ ฮอว์กินส์ นักโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงสูงต่อสาธารณะ”
• What ถูกปล่อยตัวโดยความผิดพลาด รายงานเบื้องต้นระบุว่าเกิดจาก “ความสับสนในเอกสาร” กับนักโทษอีกคนที่มีนามสกุลคล้ายกันซึ่งมีกำหนดปล่อยตัวในวันเดียวกัน
• When ปล่อยตัวเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม แต่ระบบแจ้งเตือนและตระหนักถึงความผิดพลาดในอีก 6 ชั่วโมงต่อมาในเย็นวันนั้น
• Where หลบหนีจาก HMP Belmarsh ในลอนดอนตะวันออกเฉียงใต้ และถูกจับกุมได้ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านสแตรทฟอร์ด (Stratford) ลอนดอนตะวันออก เมื่อเช้ามืดวันนี้
• How (The Manhunt) สำนักงานตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการไล่ล่าครั้งใหญ่ทันที มีการเผยแพร่ภาพถ่ายของฮอว์กินส์สู่สาธารณะ ประกาศเตือนภัยทั่วประเทศ และใช้ทรัพยากรติดตามตัวมหาศาล ทำให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วกรุงลอนดอน

การจับกุมตัวได้ถือเป็นความสำเร็จของตำรวจ แต่ก็เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้น “ปลายเหตุ” หลังจากที่ระบบได้ล้มเหลวในการ “ป้องกัน” ภัยคุกคามไม่ให้ออกไปสู่สังคมตั้งแต่แรก

“ความผิดพลาดทางธุรการ” หรือ “อาการของระบบที่พังทลาย”?

อเล็กซ์ ชอล์ค (Alex Chalk) รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของอังกฤษ ออกแถลงการณ์ต่อสภาอย่างเร่งด่วน ประณามเหตุการณ์นี้ว่า “เป็นความล้มเหลวที่ยอมรับไม่ได้” และประกาศ “การสอบสวนอิสระโดยทันที” เพื่อหาสาเหตุ

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ทำงานในระบบเรือนจำ นี่ไม่ใช่ “อุบัติเหตุ” แต่เป็น “สิ่งที่คาดเดาได้ว่าจะต้องเกิด”

เสียงสะท้อนจาก HMP Belmarsh ไม่ใช่ครั้งแรก HMP Belmarsh แม้จะเป็นเรือนจำ Category A (ความมั่นคงสูงสุด) แต่ก็กำลังเผชิญปัญหาร่วมเช่นเดียวกับเรือนจำอื่นทั่วประเทศ สมาคมเจ้าหน้าที่เรือนจำ (Prison Officers Association – POA) ได้ออกมาให้ข้อมูลที่น่าตกใจ

“เราตะโกนเตือนเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว” โฆษกของ POA กล่าวกับ BBC “เมื่อคุณมีเจ้าหน้าที่ธุรการเรือนจำเพียงคนเดียวที่ต้องจัดการเอกสารปล่อยตัวนักโทษหลายสิบคนในหนึ่งวัน ท่ามกลางแรงกดดันและระบบคอมพิวเตอร์ที่ล้าสมัย ความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) ก็ย่อมเกิดขึ้น แต่รากของปัญหามันลึกกว่านั้น มันคือการขาดแคลนบุคลากรในทุกระดับ”

รายงานเบื้องต้นชี้ว่า ระบบดิจิทัลที่ใช้ตรวจสอบประวัตินักโทษ (เช่น ระบบ NOMIS) อาจไม่ได้ถูกเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์กับระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ที่ประตูทางออก ทำให้การตรวจสอบขั้นสุดท้ายล้มเหลว

เงาสะท้อนจาก “แดเนียล คาลิฟ” ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยที่ไม่มีใครเรียนรู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 2 ปี หลังจากการหลบหนีอันน่าอับอายของ แดเนียล คาลิฟ (Daniel Khalife) อดีตทหารผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ที่หลบหนีจาก HMP Wandsworth โดยการเกาะอยู่ใต้ท้องรถส่งอาหารในเดือนกันยายน 2023

การหลบหนีของคาลิฟ ได้เผยให้เห็นความจริงอันน่าตกใจของ HMP Wandsworth

• ภาวะขาดแคลนบุคลากรอย่างหนักในวันเกิดเหตุ
• ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางกายภาพที่ล้าสมัย
• ความหละหลวมในการตรวจสอบยานพาหนะขาออก

แม้ว่าสองเหตุการณ์จะมีรายละเอียดต่างกัน (คาลิฟ “หลบหนี” (Escape) / ฮอว์กินส์ “ถูกปล่อยผิด” (Erroneous Release)) แต่รากเหง้าของปัญหามาจากที่เดียวกัน นั่นคือ ระบบเรือนจำที่ขาดการลงทุน ขาดคน และขาดความเอาใจใส่ จนล้มเหลวในการทำหน้าที่พื้นฐานที่สุด คือการกักกันผู้ที่เป็นอันตรายต่อสังคม

วิกฤตเรือนจำอังกฤษ “ระเบิดเวลา” ที่กำลังนับถอยหลัง

ความผิดพลาดที่ HMP Belmarsh คือยอดภูเขาน้ำแข็งของวิกฤตที่ใหญ่กว่ามาก ซึ่งกำลังกัดกินระบบยุติธรรมของอังกฤษมานานกว่าทศวรรษ นี่คือสถานการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้นหลังกำแพงเรือนจำ

ภาวะ “นักโทษล้นคุก” (A System Bursting at the Seams) นี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงยุติธรรม (Ministry of Justice – MoJ) ณ เดือนตุลาคม 2025 ชี้ว่า

• จำนวนนักโทษในอังกฤษและเวลส์พุ่งสูงถึง 88,500 คน
• ในขณะที่ความจุของเรือนจำทั้งหมดที่ใช้งานได้จริง (Usable Operational Capacity) อยู่ที่ประมาณ 89,000 คน
• นี่หมายความว่าระบบเรือนจำกำลังทำงานอยู่ที่ 99.5% ของความจุ ซึ่งเป็นภาวะ “ล้น” ในทางปฏิบัติ

ภาวะล้นคุกนี้นำไปสู่การที่รัฐบาลต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน เช่น การปล่อยตัวนักโทษบางประเภทก่อนกำหนด และแม้กระทั่งการขอให้ศาลชะลอการส่งตัวนักโทษใหม่เข้าเรือนจำ เพราะ “ไม่มีที่ขัง”

วิกฤต “สมองไหล” ของผู้คุม (The Staffing Crisis) การทำงานในเรือนจำกลายเป็นอาชีพที่อันตรายและได้ผลตอบแทนต่ำ อัตราการลาออกของผู้คุมเรือนจำที่มีประสบการณ์พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ พวกเขาถูกแทนที่ด้วยเจ้าหน้าที่ใหม่ที่ขาดประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมไม่เพียงพอ

• ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ภาวะล้นคุกและความตึงเครียด นำไปสู่สถิติการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และนักโทษด้วยกันเองที่สูงเป็นประวัติการณ์
• ยาเสพติด การขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ทำให้การลักลอบนำยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ (มักใช้โดรน) กลายเป็นเรื่องง่าย
• ผลกระทบต่อธุรการ เมื่อเจ้าหน้าที่ “หน้างาน” ไม่พอ เจ้าหน้าที่ส่วน “ธุรการ” (เช่น ผู้ดำเนินการปล่อยตัว) ก็ต้องทำงานหนักขึ้นด้วยความเครียด ซึ่งนำไปสู่ความผิดพลาดดังที่เกิดขึ้น

โครงสร้างพื้นฐานยุควิกตอเรีย (Crumbling Infrastructure) เรือนจำหลายแห่งในอังกฤษ เช่น HMP Wandsworth หรือ HMP Pentonville ถูกสร้างขึ้นในยุควิกตอเรีย (ศตวรรษที่ 19) โครงสร้างเหล่านี้กำลังผุพัง, สกปรก, และไม่เหมาะกับการควบคุมอาชญากรในยุคศตวรรษที่ 21 สร้างช่องโหว่ด้านความปลอดภัยมหาศาล

การเมืองเรื่อง “ความยุติธรรม” เมื่อคำสัญญาชนกับความจริง

เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็น “อาวุธ” ทางการเมืองในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปกำลังใกล้เข้ามา

ชาบานา มาห์มูด (Shabana Mahmood) รัฐมนตรีเงากระทรวงยุติธรรมจากพรรคแรงงาน (ฝ่ายค้าน) กล่าวโจมตีรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมอย่างรุนแรง

“นี่ไม่ใช่ความผิดพลาด นี่คือผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากความล้มเหลว 15 ปีของพรรคอนุรักษ์นิยม” เธอกล่าวในสภา “พวกเขาล้มเหลวในการสร้างเรือนจำที่เพียงพอ ล้มเหลวในการรักษาเจ้าหน้าที่ไว้ และตอนนี้ พวกเขาล้มเหลวในการปกป้องประชาชนชาวอังกฤษจากอาชญากรอันตราย”

ในขณะที่รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมพยายามเน้นย้ำนโยบาย “ปราบปรามอาชญากรรมอย่างหนัก” (Tough on Crime) และการเพิ่มโทษจำคุก แต่พวกเขากลับล้มเหลวในการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอเพื่อรองรับนโยบายเหล่านั้น ผลลัพธ์คือ “คอขวด” ที่ระบบเรือนจำรับไม่ไหว

การสอบสวนเหตุการณ์ของคาลิฟ (Khalife Inquiry) ได้ให้คำแนะนำหลายสิบข้อเกี่ยวกับการยกระดับความปลอดภัย แต่รายงานล่าสุดจาก HM Inspectorate of Prisons (หน่วยงานตรวจสอบเรือนจำ) พบว่าคำแนะนำหลายข้อยังคงไม่ถูกนำไปปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากขาดงบประมาณ

บทสรุป มากกว่าความปลอดภัย คือ “วิกฤตศรัทธา” ที่กำลังลุกลาม

การที่ อังกฤษจับคนร้ายคดีล่วงละเมิด ที่ถูกปล่อยตัวผิดพลาดกลับมาได้ ไม่ใช่บทสรุปที่สวยงาม มันเป็นเพียงการปิดจ๊อบของตำรวจที่ต้องมาตามแก้ปัญหาที่เกิดจากความล้มเหลวของระบบอื่น

ต้นทุนที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายในการไล่ล่า 48 ชั่วโมง แต่คือ “ความเชื่อมั่นของสาธารณชน” ที่ถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง ถ้าหากรัฐไม่สามารถรับประกันได้ว่าอาชญากรอันตรายที่ถูกตัดสินโทษแล้ว จะถูกกักขังไว้ตามคำสั่งศาล ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดก็ย่อมถูกตั้งคำถาม

วิกฤตใน HMP Belmarsh และ HMP Wandsworth คือภาพสะท้อนของประเทศที่กำลังดิ้นรนกับระบบบริการสาธารณะที่เปราะบาง รัฐบาลอังกฤษชุดต่อไป ไม่ว่าจะมาจากพรรคใด จะไม่สามารถหลีกเลี่ยง “การผ่าตัดใหญ่” ระบบเรือนจำได้อีกต่อไป เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของนักโทษ แต่คือเรื่องความปลอดภัยของคนทุกคนบนท้องถนน

แหล่งที่มาจาก : am2con