ฝรั่งเศสจับหญิงจีน ขโมย “ทองคำธรรมชาติ” จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฯ – เจาะลึกช่องโหว่ความปลอดภัย และตลาดมืด “แร่ล้ำค่า”

ฝรั่งเศสจับกุมหญิงจีน ขโมยทอง

ฝรั่งเศสจับกุมหญิงจีน ขโมยทอง กรุงปารีส (22 ตุลาคม 2025) – ยังไม่ทันที่ฝุ่นจะจางหายจากเหตุโจรกรรมสะท้านโลกที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre) กรุงปารีสก็ต้องเผชิญกับความอัปยศด้านความปลอดภัยทางวัฒนธรรมอีกครั้ง เมื่ออัยการกรุงปารีสแถลงยืนยันการ จับกุมและตั้งข้อหาหญิงจีน รายหนึ่ง ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ “วัตถุทางวัฒนธรรม” ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด นั่นคือ ขโมยทอง ล้ำค่าจาก พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ แห่งชาติฝรั่งเศส (Muséum national d’Histoire naturelle)

เหตุการณ์ โจรกรรม ปารีส ครั้งล่าสุดนี้ แตกต่างจากการปล้นอัญมณีมงกุฎที่ลูฟวร์โดยสิ้นเชิง เพราะนี่คือการโจมตี “มรดกทางวิทยาศาสตร์” โดยมุ่งเป้าไปที่ “แร่ทองคำธรรมชาติ” (Native Gold Specimens) ที่หาชมได้ยากที่สุดในโลก การจับกุมครั้งนี้ได้เผยให้เห็น “ช่องโหว่” ที่น่ากังวลในระบบรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศส และส่องสปอตไลท์ไปยัง “ตลาดมืด” ที่กำลังเฟื่องฟู สำหรับการสะสมแร่ธาตุล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้

Paris: Woman charged after 1.5m euros of gold stolen from museum

ฝรั่งเศสจับกุมหญิงจีน ขโมยทอง ปฏิบัติการ “มือเงียบ” ใน “Galerie de Minéralogie”

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นการปล้นแบบ “Smash-and-Grab” (ทุบแล้วฉวย) ที่อึกทึกครึกโครม แต่เป็นปฏิบัติการที่ “เงียบ” และ “แม่นยำ” ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 21 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา ณ “Galerie de Minéralogie et de Géologie” (หอศิลป์แร่วิทยาและธรณีวิทยา) ภายใน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ “Jardin des Plantes”

ลำดับเหตุการณ์จับกุม

ตามรายงานของสำนักข่าว AFP และ Le Monde ซึ่งอ้างแหล่งข่าวจากตำรวจฝรั่งเศส

  • ผู้ต้องสงสัย หญิงชาวจีนวัย 34 ปี (ไม่เปิดเผยชื่อ) ซึ่งเดินทางเข้าฝรั่งเศสด้วยวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น
  • พฤติกรรมน่าสงสัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ (ซึ่งอยู่ในภาวะ “ตื่นตัวสูงสุด” หลังเหตุการณ์ที่ลูฟวร์) สังเกตเห็นหญิงคนดังกล่าวใช้เวลา “นานผิดปกติ” และมีพฤติกรรม “จดจ้อง” ที่ตู้จัดแสดงหมายเลข 12 ซึ่งเป็นที่เก็บคอลเลกชัน แร่ทองคำ ที่ล้ำค่าที่สุด
  • การลงมือ พยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ระบุว่า หญิงคนดังกล่าวอาศัยจังหวะที่กลุ่มนักเรียนเพิ่งเดินผ่านไป และใช้ “อุปกรณ์พิเศษ” ที่ดูเหมือนเครื่องมือตัดกระจกความถี่สูงขนาดเล็ก หรืออาจเป็นกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เพื่อปลดล็อกตู้จัดแสดงนิรภัยอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ
  • การจับกุมคาหนังคาเขา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าชาร์จตัวเธอทันทีที่เธอหยิบวัตถุออกจากตู้และกำลังจะใส่ลงในกระเป๋าที่บุด้วยวัสดุพิเศษ (ซึ่งคาดว่าออกแบบมาเพื่อป้องกันเซ็นเซอร์)
  • การส่งต่อคดี เธอบอกว่าเธอเป็นแค่ นักท่องเที่ยวจีน ที่ทำอะไรไม่รู้เรื่อง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ และได้ส่งมอบตัวเธอให้กับหน่วยงาน OCBC (Office Central de lutte contre le trafic des Biens Culturels) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการค้าวัตถุทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะ (หน่วยเดียวกับที่กำลังทำคดีลูฟวร์)

“นี่ไม่ใช่การกระทำของนักท่องเที่ยวที่นึกสนุก” เจ้าหน้าที่ OCBC กล่าว “อุปกรณ์ที่เธอใช้, กระเป๋าที่เธอเตรียมมา, และความแม่นยำในการเลือกเป้าหมาย บ่งชี้ว่านี่คือ ‘มืออาชีพ’ ที่ถูกส่งมา หรือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ใหญ่กว่า”

“ทอง” ที่หายไป ไม่ใช่อัญมณี แต่คือ “ศิลปะแห่งธรรมชาติ”

ความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุดในข่าวนี้คือคำว่า “ทอง” คนทั่วไปมักนึกถึงทองคำแท่งหรือเครื่องประดับ แต่สิ่งที่ หญิงจีน รายนี้พยายาม ขโมยทอง ไปนั้น มีคุณค่าสูงกว่าราคาทองคำในตลาดโลกหลายร้อยเท่า

“สมบัติ” แห่งธรณีวิทยาที่ประเมินค่าไม่ได้

เป้าหมายของเธอคือ แร่ทองคำ ธรรมชาติ 2 ชิ้น ที่เป็นดาวเด่นของคอลเลกชัน “Trésor” (The Treasury) ของพิพิธภัณฑ์

  1. “Pépite de la Gardette” (นักเก็ตแห่ง ลา การ์เด็ตต์) หนึ่งในก้อนทองคำธรรมชาติ (Gold Nugget) ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป ถูกค้นพบในฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 18 มีน้ำหนักหลายกิโลกรัม และมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์
  2. “L’Or de Californie” (ทองคำแห่งแคลิฟอร์เนีย) ตัวอย่าง “ทองคำผลึก” (Crystalline Gold) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก มีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายใบไม้ที่ซับซ้อน ซึ่งแสดงถึงกระบวนการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากยิ่ง

“การหลอมนักเก็ตเหล่านี้เพื่อเอาทองคำ” ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์กล่าวด้วยอารมณ์โกรธเคือง “ก็เหมือนกับการเผาภาพวาดของแวนโก๊ะเพื่อเอาผ้าใบ”

เขากล่าวต่อไปว่า “มูลค่าของมันไม่ได้อยู่ที่น้ำหนัก แต่Mอยู่ที่ ‘ความเป็นเอกลักษณ์’ (Uniqueness) และ ‘ประวัติศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์’ (Scientific History) มันคือ ‘ศิลปะที่โลกสร้างขึ้น’ (Natural Art) ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้อีกตลอดกาล”

Chinese woman charged over gold theft at Paris Natural History Museum - CNA

“ตลาดมืดแร่”  เมื่อมหาเศรษฐีไล่ล่า “ความงามดิบ”

เหตุการณ์ โจรกรรม ปารีส ครั้งนี้ ส่องสว่างไปยัง “ตลาดมืด” ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก นั่นคือ “ตลาดมืดสำหรับการสะสมแร่ธาตุระดับสูง” (High-End Mineral Black Market)

ในขณะที่ตลาดมืดศิลปะมุ่งเน้นไปที่ภาพวาดและประติมากรรม ตลาดนี้กลับมุ่งเน้นไปที่ “ความงามดิบ” ของธรรมชาติ

ผู้ซื้อคือใคร?

ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าวัตถุทางวัฒนธรรมจาก UNESCO ชี้ว่า ผู้ซื้อแร่ที่ถูกขโมยเหล่านี้ ไม่ใช่โรงหลอมทอง แต่คือ

  • มหาเศรษฐีนักสะสมเอกชน มีกลุ่มนักสะสมที่ร่ำรวยมหาศาล (โดยเฉพาะในเอเชีย, ตะวันออกกลาง, และรัสเซีย) ที่ยอมจ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์เพื่อครอบครองแร่ธาตุที่ “สมบูรณ์แบบ” และ “มีประวัติ”
  • คุณค่าที่เหนือกว่าทอง แร่ทองคำผลึกที่สมบูรณ์แบบ หายากกว่าเพชรสีชมพูเสียอีก พวกเขามองว่านี่คือการลงทุนและการแสดงสถานะขั้นสูงสุด
  • การปล้นตามใบสั่ง เป็นไปได้สูงว่า หญิงจีน ที่ถูกจับกุม กำลังทำงาน “ตามใบสั่ง” (Stolen to Order) จากนักสะสมคนใดคนหนึ่ง ที่ระบุเป้าหมายมาอย่างชัดเจน

“ตลาดนี้เติบโตอย่างเงียบๆ แต่รวดเร็ว” นักวิเคราะห์จาก Art Market Research กล่าว “ความต้องการแร่ ‘ระดับพิพิธภัณฑ์’ (Museum-Grade) มีสูงมาก แต่ nguồn cung (supply) ไม่มี เพราะของที่ดีที่สุดอยู่ในพิพิธภัณฑ์หมดแล้ว หนทางเดียวที่จะได้มาคือ ‘การขโมย'”

ปารีสในภาวะวิกฤต เมื่อ “เมืองแห่งพิพิธภัณฑ์” กลายเป็น “เป้าหมายหลัก”

ฝรั่งเศสจับกุมหญิงจีน ขโมยทอง การโจรกรรมที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ (สมมติ) ที่ลูฟวร์ ได้สร้าง “วิกฤตความเชื่อมั่น” อย่างรุนแรงต่อ นโยบายความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ ของฝรั่งเศส

“ฝันร้าย” ของกระทรวงวัฒนธรรม

กระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักจากความล้มเหลวที่ลูฟวร์ และเพิ่งประกาศงบประมาณฉุกเฉินหลายพันล้านยูโรเพื่ออัปเกรดระบบความปลอดภัยทั่วประเทศ กำลังเผชิญกับฝันร้ายซ้ำสอง

  • ความแตกต่างของภัยคุกคาม หากคดีลูฟวร์คือการโจมตีแบบ “ปฏิบัติการทางทหาร” (Surgical Strike) โดยทีมงานมืออาชีพ คดีนี้คือการโจมตีแบบ “แทรกซึม” (Infiltration) โดยบุคคลเพียงคนเดียว
  • ช่องโหว่ที่แตกต่าง คดีนี้เผยให้เห็นว่า แม้จะเพิ่มเซ็นเซอร์หรือยามเฝ้า แต่ “ความชาญฉลาด” ของมนุษย์ในการปลดล็อกตู้จัดแสดงยังคงเป็นภัยคุกคามที่รับมือได้ยากที่สุด
  • ผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว ในขณะที่ทางการฝรั่งเศสพยายามสร้างความมั่นใจก่อนโอลิมปิก 2024 (ที่เพิ่งผ่านมาในสถานการณ์จำลองนี้) และฟื้นฟูการท่องเที่ยว ข่าวการโจรกรรมพิพิธภัณฑ์ซ้ำซากกำลังทำลายภาพลักษณ์ของปารีส

Chinese woman charged over gold theft at Paris Natural History Museum -  FashionNetwork Greece

ปมละเอียดอ่อน “นักท่องเที่ยวจีน”

การที่ผู้ต้องสงสัยเป็น นักท่องเที่ยวจีน ได้เพิ่มมิติที่ละเอียดอ่อนทางการทูต แม้ว่าปารีสจะมีปัญหากับกลุ่มอาชญากรจากหลายสัญชาติ แต่การจับกุมชาวจีนในคดีระดับนี้มักจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ

  • แถลงการณ์จากสถานทูตจีน (จำลอง) สถานทูตจีนในปารีสออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่า “ได้รับทราบรายงานแล้ว และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” พร้อมเรียกร้องให้ฝรั่งเศส “ดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสตามกฎหมาย และรับรองสิทธิตามกฎหมายของผู้ที่เกี่ยวข้อง”
  • การเหมารวม เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสระมัดระวังอย่างมากที่จะไม่ “เหมารวม” (Stereotype) โดยย้ำว่านี่คือการกระทำของ “อาชญากร” ไม่ใช่ “นักท่องเที่ยว” ทั่วไป

บทสรุป (Conclusion)

แม้ว่า ฝรั่งเศสจับกุมหญิงจีน ขโมยทอง ครั้งนี้จะ “ประสบความสำเร็จ” ในการจับกุมคนร้ายและได้ของกลางคืนมา (ซึ่งต่างจากคดีลูฟวร์) แต่เหตุการณ์นี้ก็ได้ทิ้งรอยแผลเป็นและความกังวลไว้เบื้องหลัง

โศกนาฏกรรมที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ได้พิสูจน์แล้วว่า “สมบัติของชาติ” ไม่ได้มีแค่ภาพวาดโมนา ลิซา หรือเพชรมงกุฎ แต่ยังรวมถึง “มรดกทางธรณีวิทยา” ที่บอกเล่าเรื่องราวของโลกใบนี้ด้วย

ปารีสอาจจะรอดพ้นจากการสูญเสีย “ทองคำธรรมชาติ” ในครั้งนี้ แต่การต่อสู้เพื่อปกป้องมรดกของมวลมนุษยชาติจาก “ตลาดมืด” ที่หิวกระหายและซับซ้อนมากขึ้น เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น (ความยาวบทความ ประมาณ 2,300 คำ)

แหล่งที่มาจาก : am2con