นิวเดลีจม “หมอกพิษ” ดัชนี AQI ทะลุ 440 – เมื่อ “เทศกาลดิวาลี” ซ้ำเติมวิกฤตเผาตอซัง สู่หายนะสาธารณสุข

นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ อันตราย

นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ อันตราย กรุงนิวเดลี (22 ตุลาคม 2025) – “เทศกาลแห่งแสงสว่าง” (Festival of Lights) ได้แปรเปลี่ยนเป็น “เทศกาลแห่งหมอกพิษ” (Festival of Smog) อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อชาว นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ “อันตราย” (Hazardous) อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนักในรอบปีนี้ หลังจากการเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี (Diwali) เมื่อคืนที่ผ่านมา ข้อมูลจาก SAFAR (System of Air Quality and Weather Forecasting And Research) ของอินเดีย ยืนยันว่า ค่าฝุ่นพุ่งเกิน 440 ในดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) โดยเฉลี่ยทั่วทั้งเมือง และพุ่งสูงถึง 700-900 ในหลายพื้นที่ หายนะที่เกิดขึ้นซ้ำซากนี้ คือผลลัพธ์อันเลวร้ายจากการที่ประชาชนเมินเฉยต่อ “คำสั่งห้าม” ของ ศาลฎีกาอินเดีย และจุด ควันพลุเทศกาล “ดิวาลี” อย่างมโหฬาร ซึ่งเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วจากควันพิษของ การเผาตอซัง ที่ลอยมาจากรัฐข้างเคียง ก่อให้เกิดวิกฤตสาธารณสุขฉุกเฉินที่บีบให้ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนและหยุดการก่อสร้างทันที

North India pollution Highlights: Delhi air quality improves to 'very  poor'; stubble burning remained marginal | India News - The Indian Express

นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ อันตราย “ห้องรมแก๊สพิษ” ประมวลข้อมูล AQI และ PM2.5 หลังคืนดิวาลี

เช้าวันนี้ (22 ต.ค.) ชาวเมืองหลวงกว่า 20 ล้านคนของอินเดีย ตื่นขึ้นมาพบกับท้องฟ้าสีเหลืองขุ่นและทัศนวิสัยที่ลดลงเหลือเพียงไม่กี่ร้อยเมตร กลิ่นกำมะถันและควันไฟอบอวลไปทั่วทั้งเมือง

ตัวเลขที่น่าสะพรึงกลัว

ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ซึ่งวัดมลพิษหลัก 6 ชนิด รวมถึง PM2.5 อินเดีย (ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อันตรายที่สุด) ได้พุ่งทะลุขีดจำกัดความปลอดภัยไปไกล

  • ค่าเฉลี่ยทั่วเมือง (AQI) ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการควบคุมมลพิษกลาง (CPCB) ณ เวลา 0800 น. อยู่ที่ 442 ซึ่งจัดอยู่ในระดับ “อันตราย” (Hazardous) หรือ “รุนแรงบวก” (Severe+) (หมายเหตุ ค่า AQI เกิน 301 ถือว่าอันตราย)
  • พื้นที่วิกฤต หลายพื้นที่กลายเป็น “นรก” บนดิน เช่น
    • อานันด์ วิหาร (Anand Vihar) AQI พุ่งไปเกือบ 999 (ซึ่งเป็นค่าสูงสุดที่เครื่องวัดจำนวนมากจะแสดงได้)
    • อาร์เค ปุรัม (RK Puram) AQI อยู่ที่ 750
  • ค่า PM2.5 ที่แท้จริง สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือค่า PM2.5 ที่วัดได้โดยตรง ในหลายพื้นที่ ค่าฝุ่นพุ่งเกิน 440 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย 24 ชั่วโมงขององค์การอนามัยโลก (WHO) (ซึ่งอยู่ที่ 15 µg/m³) มากกว่า 30 เท่า

“การหายใจในนิวเดลีเช้านี้ เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 25-30 มวนในวันเดียว” ดร. อาร์วินด์ กุมาร ศัลยแพทย์ทรวงอกอาวุโสจากโรงพยาบาล Sir Ganga Ram กล่าวกับสำนักข่าว AP “นี่ไม่ใช่แค่หมอกพิษ นี่คือห้องรมแก๊สพิษสาธารณะ โรงพยาบาลของเราเตรียมพร้อมรับผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่จะทะลักเข้ามาในห้องฉุกเฉินในอีก 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า”

“การเมินเฉยครั้งใหญ่” เมื่อคำสั่งศาลฎีกาล้มเหลวต่อหน้าประเพณี

นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ อันตราย มุมมองที่น่าสนใจที่สุดในระดับสากลสำหรับวิกฤตนี้ คือ “ความล้มเหลวเชิงสถาบัน” ที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก

เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเทศกาล ศาลฎีกาอินเดีย (Supreme Court of India) ได้ออก “คำสั่งเด็ดขาด” (Blanket Ban) ห้ามการผลิต, การจำหน่าย, และการจุดพลุและดอกไม้ไฟทุกชนิดในเขตนครหลวงแห่งชาติ (NCR) โดยสิ้นเชิง โดยย้ำว่า “สิทธิในการมีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากมลพิษ สำคัญกว่าสิทธิในการเฉลิมฉลอง”

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ คือ “การเมินเฉยครั้งใหญ่” (Mass Defiance)

ทำไมคำสั่งศาลจึงล้มเหลว?

  1. การบังคับใช้ที่หละหลวม แม้จะมีคำสั่งห้าม แต่พลุและดอกไม้ไฟผิดกฎหมายยังคงถูกลักลอบนำมาขายในตลาดมืดอย่างเปิดเผย ตำรวจนิวเดลีจับกุมผู้ค้าได้หลายสิบราย แต่ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของเครือข่ายทั้งหมด
  2. ประเพณีที่ฝังรากลึก สำหรับชาวฮินดูจำนวนมาก เทศกาลดิวาลี คือการเฉลิมฉลองชัยชนะของแสงสว่างเหนือความมืด และ “เสียง” กับ “ควัน” ของพลุคือส่วนหนึ่งของการขับไล่สิ่งชั่วร้าย การห้ามจึงถูกมองว่าเป็นการ “แทรกแซง” ประเพณีทางศาสนา
  3. การเมืองเรื่องศาสนา นักการเมืองบางกลุ่ม (โดยเฉพาะฝ่ายขวาจัด) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งศาลอย่างลับๆ ว่าเป็นการ “โจมตี” เทศกาลของชาวฮินดู ซึ่งสร้างความสับสนและให้ “ความชอบธรรม” ทางอ้อมแก่ผู้ที่ต้องการฝ่าฝืน

ผลลัพธ์คือ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนถึงหลังเที่ยงคืน เสียงระเบิดของพลุดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งเมือง ปล่อยสารพิษ (เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์, แบเรียม, แคดเมียม) หลายพันตันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศที่นิ่งสงบ

“มันคือการแข่งขันกันจุด” ชาวเมืองคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ Reuters “ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งศาลบอกว่าห้าม คนก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องจุดเพื่อแสดงออกถึงเสรีภาพทางศาสนาของตน โดยไม่สนใจว่ากำลังวางยาพิษลูกหลานตัวเอง”

Delhi, NCR Air Pollution: Odd-Even scheme from next week; schools shut |  Today News

“พายุที่สมบูรณ์แบบ” เมื่อควันพลุปะทะควันเผาตอซัง

แม้ว่า ควันพลุเทศกาล “ดิวาลี” จะเป็น “ตัวจุดฉนวน” ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด แต่ วิกฤตมลพิษ นิวเดลี ไม่ได้เกิดจากพลุเพียงอย่างเดียว เมืองนี้ตกอยู่ในสภาพ “ย่ำแย่” (Very Poor) มาหลายสัปดาห์แล้ว

สาเหตุหลักที่รออยู่ก่อนแล้ว คือ การเผาตอซัง (Stubble burning)

วงจรหายนะทางการเกษตร

นิวเดลีถูก “ขนาบข้าง” ด้วยรัฐเกษตรกรรมสำคัญอย่าง ปัญจาบ (Punjab) และ ฮาร์ยานา (Haryana)

  • การเผาคืออะไร? ในช่วงเวลานี้ของทุกปี เกษตรกรหลายล้านคนจะจุดไฟเผาตอซังข้าวที่เหลืออยู่หลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในรอบต่อไปอย่างรวดเร็ว
  • ทำไมต้องเผา? นี่คือวิธีที่ “ถูกและเร็วที่สุด” การไถกลบหรือใช้เครื่องจักรย่อยสลายตอซังมีค่าใช้จ่ายสูงที่เกษตรกรรายย่อยแบกรับไม่ไหว
  • ผลกระทบ ควันพิษมหาศาล (ซึ่งเต็มไปด้วย PM2.5) จากการเผาไหม้หลายแสนจุด จะถูกกระแสลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดพาเข้าสู่ “แอ่งกระทะ” ของนิวเดลี
  • สถิติจาก SAFAR ข้อมูลจากดาวเทียมชี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนดิวาลี ควันจาก การเผาตอซัง มีส่วนทำให้เกิดมลพิษในนิวเดลีสูงถึง 25-30%

ดังนั้น เมื่อควันพิษจากพลุ (ซึ่งมีความเข้มข้นสูงในระยะสั้น) มารวมกับควันพิษจากการเผาตอซัง (ซึ่งสะสมมานาน) และถูก “กด” ไว้ด้วยสภาพอากาศฤดูหนาวที่เย็นและลมนิ่ง มันจึงสร้าง “โดมหมอกพิษ” (Smog Dome) ที่สมบูรณ์แบบ ทำให้นิวเดลีกลายเป็นหนึ่งใน เมืองที่อันตรายที่สุดในโลก ในชั่วข้ามคืน

มาตรการ “GRAP Stage IV” การเยียวยาที่ปลายเหตุ?

นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ อันตราย เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน “ระดับรุนแรงบวก” (Severe+) คณะกรรมการจัดการคุณภาพอากาศ (CAQM) ได้สั่งการบังคับใช้มาตรการขั้นสูงสุด GRAP (Graded Response Action Plan) Stage IV ทันทีในเช้าวันนี้

มาตรการ “ล็อกดาวน์มลพิษ” นี้ รวมถึง

  • ห้ามรถบรรทุก ห้ามรถบรรทุกดีเซล (ยกเว้นที่ขนส่งสินค้าจำเป็น) เข้าสู่กรุงนิวเดลี
  • หยุดก่อสร้าง ระงับกิจกรรมการก่อสร้างและรื้อถอนที่ “ไม่จำเป็น” ทั้งหมด
  • ปิดโรงเรียน รัฐบาลท้องถิ่นนิวเดลี ประกาศปิดโรงเรียนทุกแห่งเป็นเวลาอย่างน้อย 3-5 วัน และแนะนำให้บริษัทต่างๆ ใช้มาตรการ Work From Home
  • มาตรการอื่นๆ อาจรวมถึงการจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล (Odd-Even Scheme) หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

North India pollution Highlights: Delhi air quality improves to 'very  poor'; stubble burning remained marginal | India News - The Indian Express

“เกมกล่าวโทษ” (The Blame Game)

ในขณะที่ประชาชนกำลังหายใจไม่ออก “เกมกล่าวโทษ” ทางการเมืองก็ได้เริ่มต้นขึ้น

  • รัฐบาลนิวเดลี (พรรค AAP) โทษรัฐบาลกลาง (พรรค BJP) และรัฐปัญจาบ/ฮาร์ยานา ที่ล้มเหลวในการหยุดยั้งการเผาตอซัง
  • รัฐบาลกลาง (พรรค BJP) โทษรัฐบาลนิวเดลี ที่ล้มเหลวในการบังคับใช้คำสั่งห้ามจุดพลุอย่างจริงจัง
  • ศาลฎีกา ตำหนิ “ทุกฝ่าย” ทั้งรัฐบาลและประชาชน ที่ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

“ในขณะที่นักการเมืองกำลังโทษกันไปมา” นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมจาก Greenpeace India กล่าว “ประชาชนคือผู้ที่ต้องจ่ายราคาด้วยปอดของพวกเขา นิวเดลีอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ใช่คำเปรียบเปรย แต่คือความจริง”

บทสรุป เมื่อประเพณีอยู่เหนือสุขภาพ และนโยบายที่ล้มเหลว

นิวเดลี เผชิญมลพิษระดับ อันตราย วิกฤตมลพิษ นิวเดลี หลังเทศกาลดิวาลี 2025 คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของความล้มเหลวที่ซับซ้อนและซ้ำซาก มันคือความล้มเหลวของกฎหมาย ที่พ่ายแพ้ต่อประเพณีทางวัฒนธรรมที่ฝังรากลึก มันคือความล้มเหลวของนโยบายการเกษตร ที่ไม่สามารถจูงใจให้เกษตรกรเลิกเผาตอซัง และมันคือความล้มเหลวของจิตสำนึกสาธารณะ ที่เลือกความบันเทิงชั่วข้ามคืน แลกกับสุขภาพที่ย่ำแย่ในระยะยาว

ในขณะที่ค่า PM2.5 อินเดีย ยังคงสูงจนน่าสะพรึงกลัว และชาวนิวเดลีต้องต่อสู้เพื่ออากาศบริสุทธิ์ คำถามใหญ่ที่ยังไม่มีคำตอบคือ เมื่อใดที่ “สิทธิในการหายใจ” จะมีความสำคัญเหนือ “สิทธิในการเฉลิมฉลอง” อย่างแท้จริง เพราะหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน ทั้งในระดับนโยบายและจิตสำนึก “เทศกาลแห่งแสงสว่าง” ก็จะยังคงเป็น “คำสาปแห่งควันพิษ” สำหรับเมืองหลวงของอินเดียต่อไปอีกนานเท่านาน (ความยาวบทความ ประมาณ 2,450 คำ)

แหล่งที่มาจาก : am2con