“ซานาเอะ ทาคาอิจิ” นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก – ก้าวประวัติศาสตร์… หรือการหวนคืนสู่ยุค “ชาตินิยม” เต็มรูปแบบ?

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก กรุงโตเกียว (22 ตุลาคม 2025) – ประวัติศาสตร์การเมืองญี่ปุ่นได้พลิกโฉมหน้าไปตลอดกาลในวันนี้ เมื่อ พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่เป็นพรรครัฐบาล ได้เลือก “ซานาเอะ ทาคาอิจิ” (Sanae Takaichi) นักการเมืองหญิงสายเหยี่ยววัย 64 ปี เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งนำไปสู่การลงมติอย่างเป็นทางการในรัฐสภา (The Diet) ให้เธอดำรงตำแหน่ง นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก อย่างเป็นทางการในรอบ 141 ปีนับตั้งแต่มีตำแหน่งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางความคาดหมายที่ตึงเครียด เธอมีกำหนดจะประกาศรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ญี่ปุ่น ในช่วงค่ำของ “คืนนี้” ทันที

อย่างไรก็ตาม การเฉลิมฉลอง “การทลายเพดานเหล็ก” (Iron Ceiling) ในสังคมปิตาธิปไตยที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกแทนที่ด้วยการวิเคราะห์อย่างเข้มข้นในระดับสากลทันที เพราะการขึ้นสู่อำนาจของทาคาอิจิ ไม่ใช่ชัยชนะของฝ่ายเสรีนิยม แต่คือการกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบของ “ลัทธิอาเบะ” (Abenomics) และแนวคิด “ชาตินิยม” ที่แข็งกร้าวที่สุด ซึ่งส่งสัญญาณว่า ญี่ปุ่นกำลังจะเปลี่ยนทิศทางนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงอย่างมีนัยสำคัญ

Who is Japan's first female prime minister? Sanae Takaichi in her own words  | The Independent

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก ทลาย “เพดานเหล็ก” ประวัติศาสตร์ที่ต้องใช้เวลา 141 ปี

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก การที่ญี่ปุ่นมี นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก ถือเป็นเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนสังคมอย่างลึกซึ้ง ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก (หรือ 4, ขึ้นอยู่กับการจัดอันดับ) กลับอยู่ในอันดับที่ 125 จาก 146 ประเทศ ในรายงาน Global Gender Gap Index 2024 ของ World Economic Forum ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศ G7 อย่างน่าใจหาย

การเมืองญี่ปุ่นถูกครอบงำโดยผู้ชายมาโดยตลอด และมักถูกเรียกว่าเป็น “สโมสรชายล้วน” (Old Boys’ Club) การที่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ สามารถฝ่าฟันการต่อสู้ภายใน พรรค LDP ที่เต็มไปด้วยการเมืองแบบ “แฟคชั่น” (Factions) หรือ “มุ้ง” ต่างๆ และเอาชนะคู่แข่งชายคนสำคัญอย่าง ชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) และ ทาโร โคโนะ (Taro Kono) มาได้ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

เบื้องหลังชัยชนะ การล่มสลายของคิชิดะ และ “เงา” ของอาเบะ

ชัยชนะของทาคาอิจิเกิดขึ้นหลังจากการลาออกอย่างกะทันหันของนายกรัฐมนตรีคนก่อน ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) ซึ่งคะแนนนิยมดิ่งลงเหวจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการจัดหาทุนของพรรค LDP และความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

ทาคาอิจิ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็น “ม้านอกสายตา” สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะจาก “เซวะไค” (Seiwa-kai) หรือ “แฟคชั่นอาเบะ” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและทรงอิทธิพลที่สุดในพรรค แม้ว่า ชินโซ อาเบะ จะล่วงลับไปแล้ว แต่ “มรดก” และ “อุดมการณ์” ของเขายังคงเป็นศูนย์กลางอำนาจที่แท้จริงใน LDP และทาคาอิจิคือ “ทายาท” ที่ชัดเจนที่สุดของอุดมการณ์นั้น

“นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะของฉัน” ทาคาอิจิกล่าวในสุนทรพจน์รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP “แต่นี่คือชัยชนะของเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะปกป้องเกียรติภูมิ, อธิปไตย และความเจริญรุ่งเรืองของชาติญี่ปุ่น”

“ซานาเอะ ทาคาอิจิ” คือใคร?  “เหยี่ยว” ในชุดสตรีผู้ภักดีต่ออาเบะ

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก สำหรับผู้สังเกตการณ์การเมืองระหว่างประเทศ การเรียกทาคาอิจิว่าเป็น “นายกฯ หญิง” เพียงอย่างเดียว ถือเป็นการสรุปที่ผิวเผินเกินไป ตัวตนทางการเมืองของเธอซับซ้อนและ “แข็งกร้าว” กว่านายกรัฐมนตรีชายหลายคนที่ผ่านมา

“ชาตินิยม” ผู้ไม่ประนีประนอม

หากเปรียบเทียบกับ “มาร์กาเร็ต แทตเชอร์” (Margaret Thatcher) ของอังกฤษในฐานะ “นางสิงห์เหล็ก” (Iron Lady) ทาคาอิจิ ก็คือ “นางสิงห์เหล็ก” ในเวอร์ชันชาตินิยมญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ

  • ประวัติ ซานาเอะ ทาคาอิจิ เธอเป็นนักการเมืองที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง รวมถึงรัฐมนตรีกิจการภายในและการสื่อสาร และรัฐมนตรีด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
  • ความภักดีต่ออาเบะ เธอคือ “ลูกศิษย์” และผู้ติดตามที่ภักดีที่สุดคนหนึ่งของอดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ เธอสนับสนุนแนวคิดของเขาในทุกมิติ ตั้งแต่เศรษฐกิจไปจนถึงการทหาร
  • ประเด็นอ่อนไหว ทาคาอิจิ ไม่เคยปิดบังแนวคิดชาตินิยมของเธอ
    • ศาลเจ้ายาสุคุนิ (Yasukuni Shrine) เธอเดินทางไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิอย่างเปิดเผยเป็นประจำ ซึ่งศาลแห่งนี้เป็นที่สถิตของดวงวิญญาณทหารญี่ปุ่น รวมถึง “อาชญากรสงคราม” (Class-A War Criminals) ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับจีนและเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง
    • ประวัติศาสตร์ เธอสนับสนุนการ “แก้ไข” ตำราประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประเด็น “สตรีเพื่อการปลอบขวัญ” (Comfort Women) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเธอมองว่าเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์เพื่อโจมตีญี่ปุ่น

Sanae Takaichi breaks glass ceiling as Japan's first female prime minister  - The Economic Times

ภารกิจเร่งด่วน 3 ประการ “ทาคาอิจิ-โนมิกส์”, รัฐธรรมนูญ และจีน

ในขณะที่ ครม.ชุดใหม่ ญี่ปุ่น กำลังจะถูกจัดตั้งใน “คืนนี้” ทุกสายตาจับจ้องไปที่ 3 วาระหลักที่ทาคาอิจิได้ประกาศไว้ ซึ่งจะกำหนดทิศทางของญี่ปุ่นในอีกหลายปีข้างหน้า

1. เศรษฐกิจ “ทาคาอิจิ-โนมิกส์” และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

ทาคาอิจิเรียกนโยบายเศรษฐกิจของเธอว่า “Sanae-nomics” หรือ “ทาคาอิจิ-โนมิกส์” ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคือการต่อยอด “อาเบะโนมิกส์” (Abenomics) แต่เน้นย้ำในมิติใหม่

  • การใช้จ่ายภาครัฐ เธอสนับสนุนการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างมหาศาลต่อไป โดยไม่กังวลเรื่องหนี้สาธารณะ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าเธอจะกดดันให้ BOJ คงนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบต่อไป เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของรัฐบาล แม้ว่า เงินเยนจะอ่อนค่า อย่างหนักก็ตาม
  • “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” (Economic Security) นี่คือหัวใจสำคัญ เธอคือผู้ผลักดันกฎหมายความมั่นคงทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ นโยบายของเธอจะมุ่งเน้นการ “ลดความเสี่ยง” (De-risking) จากจีน, การปกป้องเทคโนโลยีสำคัญของชาติ, และการสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่ไม่ขึ้นอยู่กับจีน

2. การทหาร “ความฝัน” ของอาเบะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 9

นี่คือวาระที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอและกลุ่มชาตินิยม ทาคาอิจิประกาศกร้าวว่าจะผลักดัน “ความฝัน” ของชินโซ อาเบะ ให้เป็นจริง นั่นคือการแก้ไข รัฐธรรมนูญมาตรา 9 (Article 9)

  • มาตรา 9 คืออะไร? เป็นรัฐธรรมนูญ “สันติภาพ” (Pacifist Constitution) ที่สหรัฐฯ ร่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่นมีกองทัพในทางเทคนิค (แม้จะมี “กองกำลังป้องกันตนเอง” หรือ JSDF) และห้ามใช้กำลังตัดสินข้อพิพาทระหว่างประเทศ
  • เป้าหมายของทาคาอิจิ เธอต้องการแก้ไขมาตรา 9 เพื่อ “ทำให้กองกำลังป้องกันตนเองเป็นกองทัพที่สมบูรณ์” (A full-fledged military) ซึ่งจะอนุญาตให้ญี่ปุ่นสามารถปฏิบัติการทางทหารในต่างแดน และมี “สิทธิ์ในการป้องกันตนเองร่วม” (Collective Self-Defense) ได้อย่างเต็มรูปแบบ นี่คือการ “ปฏิวัติ” นโยบายความมั่นคงของญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 70 ปี

3. ภูมิรัฐศาสตร์ จุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีนและเกาหลีใต้

การขึ้นสู่อำนาจของทาคาอิจิ คือ “ฝันร้าย” สำหรับปักกิ่งและโซล

  • ต่อจีน ทาคาอิจิไม่เคยปิดบังว่าเธอมองจีนเป็น “ภัยคุกคาม” เธอสนับสนุนการเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็นสองเท่า (แตะ 2% ของ GDP), การติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกล, และที่สำคัญที่สุดคือ เธอสนับสนุน “ไต้หวัน” อย่างเปิดเผยและแข็งขัน
  • ต่อเกาหลีใต้ ความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวในยุคคิชิดะ คาดว่าจะกลับไปสู่ “ยุคน้ำแข็ง” อีกครั้ง การที่เธอปฏิเสธที่จะยอมรับประเด็นทางประวัติศาสตร์และยืนยันที่จะไปสักการะ ศาลเจ้ายาสุคุนิ ถือเป็น “เส้นตาย” ที่รัฐบาลโซลยอมรับไม่ได้

Hardline conservative Sanae Takaichi elected Japan's first female PM |  Irish Independent

“ครม.ชุดใหม่ ญี่ปุ่น” คืนนี้ บททดสอบแรกแห่งการประนีประนอม

การเมืองญี่ปุ่นคือการเมืองแห่ง “มุ้ง” ภารกิจแรกที่ทาคาอิจิ ต้องทำใน “คืนนี้” คือการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ ญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าเธอจะปกครองประเทศอย่างไร

  • ตำแหน่งที่ต้องจับตา
    • รัฐมนตรีคลัง จะเป็นคนของแฟคชั่นอาเบะที่สนับสนุนการใช้จ่ายเต็มที่ หรือจะเป็นคนจากแฟคชั่นอื่นเพื่อสร้างสมดุล?
    • รัฐมนตรีต่างประเทศ จะเป็น “สายเหยี่ยว” ที่พร้อมปะทะกับจีน หรือเป็นนักการทูตสายกลางเพื่อลดแรงเสียดทาน?
    • รัฐมนตรีกลาโหม คาดว่าจะเป็นบุคคลที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 9 อย่างชัดเจน
  • การแบ่งเค้ก หากทาคาอิจิตั้งคณะรัฐมนตรีที่เต็มไปด้วย “พวกพ้อง” (Hardliners) จากกลุ่มของตนเอง นั่นคือสัญญาณว่าเธอพร้อม “แตกหัก” กับกลุ่มสายกลางในพรรค แต่หากเธอยอม “แบ่งเค้ก” ตำแหน่งสำคัญให้กับคู่แข่งที่พ่ายแพ้ (เช่น อิชิบะ หรือ โคโนะ) นั่นแสดงว่าเธอยังต้องการรักษาเอกภาพภายในพรรค LDP

บทสรุป (Conclusion) ปรากฏการณ์ “ทาคาอิจิ” – ก้าวที่ขัดแย้งแห่งประวัติศาสตร์

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก การที่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ ได้รับเลือกเป็น นายกฯ หญิงญี่ปุ่นคนแรก คือเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้ง (Paradox) ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่

ในด้านหนึ่ง นี่คือการทลายกำแพงปิตาธิปไตยที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงที่ทำลายกำแพงนั้น กลับเป็นนักการเมืองสาย “อนุรักษ์นิยมขวาจัด” ที่สุดคนหนึ่งของประเทศ

โลกไม่ได้กำลังจะได้เห็นผู้นำหญิงสายเสรีนิยมแบบ จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ หรือ อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี แต่โลกกำลังจะได้พบกับ “นางสิงห์เหล็ก” ผู้นิยมลัทธิชาตินิยม, ภักดีต่อมรดกของอาเบะ, และพร้อมที่จะรื้อสร้างนโยบายความมั่นคงของญี่ปุ่นใหม่ทั้งหมด

ในขณะที่ ครม.ชุดใหม่ ญี่ปุ่น กำลังจะถือกำเนิดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ เอเชียตะวันออกและโลกทั้งใบ ต่างกำลังกลั้นหายใจ เตรียมรับมือกับ “ญี่ปุ่นยุคใหม่” ที่แข็งกร้าว, มุ่งมั่น และไม่ยอมประนีประนอม ภายใต้การนำของสตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกของพวกเขา (ความยาวบทความ ประมาณ 2,450 คำ)

แหล่งที่มาจาก : am2con