แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ 7.4 ยกเลิกเตือนสึนามิ แต่ฝันร้ายบนดินเพิ่งเริ่ม ท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกไม่สิ้นสุด

แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์

แม้สัญญาณเตือนภัยสึนามิจะเงียบลง และหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่สำหรับประชาชนหลายแสนคนบนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ฝันร้ายจากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ขนาด 7.4 แมกนิจูด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น การ ยกเลิกเตือนสึนามิ ได้เปลี่ยนโฟกัสจากภัยทางทะเลมาสู่โศกนาฏกรรมบนบกที่ปรากฏชัดขึ้นทุกขณะ ทั้งรายงาน ผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหว อย่างน้อย 2 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบราย และที่น่าหวาดหวั่นที่สุดคือคลื่น อาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) รุนแรงนับร้อยครั้งที่สั่นสะเทือนซ้ำเติมความเสียหายและความหวาดกลัว นี่คือบททดสอบครั้งใหญ่หลวงต่อขีดความสามารถในการรับมือภัยพิบัติของประเทศที่ตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire)” ที่อันตรายที่สุดในโลก

At least two dead after massive 7.4 magnitude earthquake strikes off  Philippines coast sparking tsunami warning

วินาทีระทึกและคลื่นอาฟเตอร์ช็อกที่ไม่สิ้นสุด

เหตุการณ์แผ่นดินไหวหลัก (Mainshock) เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 2237 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางในทะเลนอกชายฝั่ง จังหวัดซูรีเกาเดลซูร์ บนเกาะมินดาเนา ที่ความลึกเพียง 25 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้นที่ส่งพลังงานขึ้นสู่พื้นผิวได้อย่างมหาศาล แรงสั่นสะเทือนที่กินเวลานานเกือบหนึ่งนาทีทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อาคารสั่นไหวอย่างรุนแรง และปลุกผู้คนให้ตื่นขึ้นมาพบกับความโกลาหล

แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่าคือสิ่งที่ตามมา สถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์ (PHIVOLCS) รายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาแล้วมากกว่า 1,000 ครั้ง โดยมีอาฟเตอร์ช็อกขนาดเกิน 6.0 แมกนิจูดอย่างน้อย 6 ครั้ง ซึ่งรุนแรงพอที่จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง

“เรานอนไม่หลับเลยทั้งคืน ทุก 10-20 นาที บ้านจะสั่นอีกครั้ง” ลิซ่า เรเยส คุณครูในเมืองฮินาตวนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่น “เรากลัวว่าบ้านจะถล่มลงมาทับ เราทำได้แค่ออกมานอนกันนอกบ้าน ท่ามกลางความมืดและความกลัว”

  • ความเสียหายเบื้องต้น รายงานจากสภาการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติ (NDRRMC) ระบุว่ามีบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 2,600 หลัง โรงพยาบาลและโรงเรียนหลายแห่งมีรอยร้าว และสะพานบางแห่งถูกปิดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย
  • ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ มีรายงานยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รายหนึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตจากกำแพงถล่มในเมืองตากุม และอีกรายในจังหวัดดาเวาเดอโอโร นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 67 คน

จากภัยทางทะเลสู่โศกนาฏกรรมบนบก

ทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิก (PTWC) ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิสำหรับฟิลิปปินส์และประเทศใกล้เคียง ทำให้เกิดการอพยพอย่างโกลาหลตลอดแนวชายฝั่งภาคตะวันออกของ แผ่นดินไหวมินดาเนา ประชาชนหลายหมื่นคนต้องทิ้งบ้านเรือนเพื่อหนีขึ้นที่สูงท่ามกลางความมืดและอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

โชคดีที่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง PHIVOLCS ได้ประกาศยกเลิกคำเตือนภัยสึนามิทั้งหมด หลังตรวจพบคลื่นขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซนติเมตรซัดเข้าชายฝั่ง แต่ความโล่งใจนั้นอยู่ได้ไม่นาน เมื่อแสงแรกของวันใหม่เผยให้เห็นความเสียหายที่แท้จริงจากแรงสั่นสะเทือนโดยตรง

สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร? ขณะนี้ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยกำลังดำเนินไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ขณะที่ทีมประเมินความเสียหายกำลังเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งถูกตัดขาดจากถนนที่เสียหายและไฟฟ้าที่ยังไม่กลับมาใช้งานได้ปกติ

Powerful earthquake strikes the Philippines, triggers tsunami warning

เจาะลึกสาเหตุ ทำไมฟิลิปปินส์จึงเป็นเป้าหมายของภัยพิบัติ

สาเหตุแผ่นดินไหวที่มินดาเนาคืออะไร? คำตอบนั้นอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ฟิลิปปินส์ตั้งอยู่บน “วงแหวนแห่งไฟ” ซึ่งเป็นแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่ล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดมากถึง 90% ของโลก

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของร่องลึกฟิลิปปินส์ (Philippine Trench) ซึ่งเป็นเขตมุดตัวของเปลือกโลกที่แผ่นเปลือกโลกทะเลฟิลิปปินส์กำลังเคลื่อนตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกซุนดา การสะสมพลังงานมาเป็นเวลานานได้ปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง และด้วยศูนย์กลางที่ตื้น ทำให้ผลกระทบยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์มีผลกระทบต่อไทยไหม?

สำหรับคำถามที่หลายคนในประเทศไทยสงสัย กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยได้ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์ แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย เนื่องจากมีศูนย์กลางอยู่ห่างไกลและมีแนวแผ่นดินของประเทศอื่น ๆ ขวางกั้นอยู่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกประเทศในภูมิภาคตระหนักถึงความจำเป็นในการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอยู่เสมอ

บททดสอบระบบรับมือภัยพิบัติและความท้าทายเบื้องหน้า

รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศภาวะภัยพิบัติในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และระดมกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายพันนายเข้าช่วยเหลือประชาชน “ภารกิจเร่งด่วนที่สุดของเราคือการดูแลผู้ประสบภัย” ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ กล่าว “เรากำลังส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ทั้งอาหาร น้ำดื่ม และที่พักพิงชั่วคราว ไปยังพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด”

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่มหาศาล

  • การเข้าถึงพื้นที่ ถนนและสะพานที่เสียหายเป็นอุปสรรคสำคัญในการส่งมอบ ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฟิลิปปินส์
  • ความต้องการที่พักพิง ประชาชนจำนวนมากยังคงหวาดกลัวอาฟเตอร์ช็อกและไม่กล้ากลับเข้าบ้าน ทำให้มีความต้องการศูนย์พักพิงชั่วคราวจำนวนมาก
  • การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ความเครียดและความหวาดกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการดูแล

Philippines Hit by Twin Quakes; Seven Dead, Tsunami Warning Issued |  Republic World

บทสรุป ตื่นตัวเสมอในดินแดนแห่งวงแหวนแห่งไฟ

เหตุการณ์ แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ธรรมชาติได้ย้ำเตือนถึงพลังอำนาจอันน่าเกรงขาม และความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนแนวรอยเลื่อนที่ยังมีพลัง แม้ภัยสึนามิจะไม่เกิดขึ้น แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นบนดินนั้นสาหัสและต้องการการฟื้นฟูในระยะยาว

สำหรับชาวมินดาเนา การต่อสู้เพื่อกลับสู่ภาวะปกติเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าแผ่นดินจะหยุดสั่นไหวอย่างแท้จริงเมื่อใด และสำหรับประชาคมโลก นี่คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนถึงความจำเป็นในการสนับสนุนและลงทุนในระบบการเตือนภัย การให้ความรู้ และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อภัยพิบัติ เพื่อลดความสูญเสียในอนาคตที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้บน “วงแหวนแห่งไฟ” แห่งนี้

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *