กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับล่าสุด จับตาสถานการณ์ “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” ทั่วไทย หลังพบ “ร่องมรสุม” กำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและอีสานตอนบน ประกอบกับ “มรสุมตะวันตกเฉียงใต้” ที่ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง บทความนี้จะพาไปวิเคราะห์เชิงลึกถึงภาพรวมสภาพอากาศวันนี้ (4 สิงหาคม 2568) เจาะจงพื้นที่เสี่ยงสูงสุด พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้
การตรวจสอบ สภาพอากาศวันนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของการพกร่มหรือเสื้อกันฝนอีกต่อไป แต่คือความจำเป็นในการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยแพร่ข้อมูลพยากรณ์อากาศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ โดยระบุว่าปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาที่สำคัญ 2 ประการกำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ปัจจัยแรกคือ ร่องมรสุม (Monsoon Trough) ที่ทวีกำลังแรงขึ้นและได้เคลื่อนตัวพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทย ปัจจัยที่สองคือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Monsoon) ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง การผนึกกำลังของสองปัจจัยนี้เปรียบเสมือนการเปิดประตูรับความชื้นมหาศาลจากทะเลเข้าสู่แผ่นดิน ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนและด้านตะวันตกของประเทศเข้าสู่ภาวะเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรงและ ฝนตกหนัก เป็นวงกว้าง
นี่ไม่ใช่แค่ พยากรณ์อากาศ ประจำวัน แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนจากภาครัฐถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้ยกระดับการเฝ้าระวังสูงสุด
ถอดรหัส “ร่องมรสุม” และ “มรสุมตะวันตกเฉียงใต้” สองพลังขับเคลื่อนฤดูฝนไทย
เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ สภาพอากาศวันนี้ อย่างถ่องแท้ เราจำเป็นต้องเข้าใจกลไกสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นวัฏจักรทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ความรุนแรงอาจแตกต่างกันไป
- ร่องมรสุม (Monsoon Trough) คือแนวความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภูมิภาค ทำให้บริเวณที่ร่องมรสุมพาดผ่านมีการยกตัวของอากาศอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดเมฆฝนขนาดใหญ่และฝนตกต่อเนื่องยาวนาน ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ร่องมรสุมมักจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ทำให้เป็นช่วงที่ทั้งสองภาคนี้มีปริมาณฝนสะสมสูงที่สุดในรอบปี
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Monsoon) คือลมที่พัดนำพาความชื้นสูงจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกโดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ระนอง, พังงา, ภูเก็ต) และภาคตะวันออก (จันทบุรี, ตราด) ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านรับลมโดยตรง
เมื่อทั้งสองปัจจัยนี้มีกำลังแรงพร้อมกัน จะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่แนวร่องมรสุมพาดผ่าน ซึ่งข้อมูลล่าสุดจาก กรมอุตุประกาศเตือนล่าสุด ชี้ชัดว่าคือบริเวณภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน
“การที่ร่องมรสุมมีกำลังแรงในช่วงที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังแอคทีฟ ถือเป็นสภาวะที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด เพราะปริมาณไอน้ำที่ถูกป้อนเข้าสู่ระบบมีมหาศาล ทำให้เมฆฝนสามารถพัฒนาตัวได้อย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดฝนตกเกิน 100 มิลลิเมตรต่อวันได้ในบางพื้นที่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม” ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยากล่าว
5W1H สรุปประกาศเตือนภัยล่าสุดจากกรมอุตุนิยมวิทยา
- Who (ใคร) กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- What (ทำอะไร) ออกประกาศเตือนภัย ฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมแรง
- When (เมื่อไหร่) มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป และคาดว่าจะต่อเนื่องไปอีก 2-3 วัน
- Where (ที่ไหน) พื้นที่เสี่ยงสูงสุดคือภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
- Why (ทำไม) เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง
- How (อย่างไร) ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรง, ฝนตกสะสม ซึ่งอาจนำไปสู่ เตือนภัยน้ำท่วม ฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น
เจาะลึกรายภาค ภาคไหนฝนตกหนักที่สุดวันนี้ และพื้นที่ใดต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
จากข้อมูล พยากรณ์อากาศ ล่าสุด สามารถจำแนกพื้นที่เสี่ยงตามรายภาคได้ดังนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนและเตรียมการได้อย่างตรงจุด
ภาคเหนือ
- พื้นที่เสี่ยงสูงสุด แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, ตาก, สุโขทัย, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- สถานการณ์ เป็นพื้นที่ที่ร่องมรสุมพาดผ่านโดยตรง เสี่ยงต่อฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขา โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- พื้นที่เสี่ยงสูงสุด เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร, ชัยภูมิ, ขอนแก่น
- สถานการณ์ ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมเช่นกัน เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มและเขตเมืองที่การระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ
ภาคกลาง (รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล)
- พื้นที่เสี่ยง แม้จะไม่อยู่ในเขตอิทธิพลโดยตรง แต่จะได้รับผลกระทบจากฝนฟ้าคะนองที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงบ่ายถึงค่ำ สำหรับ สภาพอากาศวันนี้ กรุงเทพ จะมีเมฆมากและมีโอกาสเกิดฝนตกหนักบางแห่ง คิดเป็น 70% ของพื้นที่
- ประเด็นน่ากังวล ปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายในพื้นที่ลุ่มต่ำ และอาจส่งผลกระทบต่อการจราจร
ภาคตะวันออก
- พื้นที่เสี่ยงสูงสุด นครนายก, ปราจีนบุรี, จันทบุรี และตราด
- สถานการณ์ เป็นพื้นที่รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้โดยตรง ทำให้มีฝนตกชุกและเสี่ยงน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขา
ภาคใต้
- ฝั่งตะวันตก (อันดามัน) ระนอง, พังงา, ภูเก็ต และกระบี่ เป็นพื้นที่เสี่ยง ฝนตกหนัก สูงสุด คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
- ฝั่งตะวันออก (อ่าวไทย) มีฝนน้อยกว่า แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางส่วน คลื่นลมมีกำลังปานกลาง
คำแนะนำในการเตรียมพร้อม ประชาชนและหน่วยงานควรทำอะไรบ้าง?
เมื่อ กรมอุตุประกาศเตือนล่าสุด การเตรียมความพร้อมคือสิ่งสำคัญที่สุดในการลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับประชาชนทั่วไป
- ติดตามข่าวสาร รับฟังข้อมูล สภาพอากาศวันนี้ จาก กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด
- ตรวจสอบบ้านเรือน ตรวจสอบความแข็งแรงของบ้านเรือน ตัดแต่งกิ่งไม้ที่อาจหักโค่น และทำความสะอาดท่อระบายน้ำ
- ขนของขึ้นที่สูง ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ควรเตรียมขนย้ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูง
- เตรียมชุดยังชีพฉุกเฉิน จัดเตรียมน้ำดื่ม, อาหารแห้ง, ยารักษาโรค, ไฟฉาย และอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง งดการเดินทางเข้าใกล้ทางน้ำไหล, น้ำตก หรือพื้นที่ลาดเชิงเขาที่เสี่ยงต่อดินถล่ม
สำหรับเกษตรกร
- ป้องกันผลผลิต หาแนวทางป้องกันความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรที่อาจจมน้ำหรือถูกลมพัดแรง
- เฝ้าระวังสัตว์เลี้ยง จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์
สำหรับชาวเรือและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล
- ปฏิบัติตามคำเตือน งดการเดินเรือเล็กออกจากฝั่งในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน และตรวจสอบ พยากรณ์อากาศ อย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง
มองไปข้างหน้า แนวโน้มสถานการณ์และคำถามที่พบบ่อย “พายุลูกใหม่จะเข้าไทยเมื่อไหร่ 2568”
สถานการณ์ฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องมรสุมนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน และหลังจากนี้ ประเทศไทยจะยังคงอยู่ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่จะเกิด พายุเข้าไทย ยังคงมีอยู่
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุด ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงในระยะ 7 วันนี้ แต่ประชาชนยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ในทะเลจีนใต้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
ประเด็นเพิ่มเติมที่ต้องเฝ้าระวังคือ เมื่อฝนลดลงในบางพื้นที่ อาจเกิดสภาวะอากาศปิด ซึ่งอาจทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นได้ในเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
บทสรุป เตรียมพร้อมรับมือ คือทางออกที่ดีที่สุด
โดยสรุป สภาพอากาศวันนี้ และในช่วง 2-3 วันข้างหน้า ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะเผชิญกับสภาวะฝนตกชุกและ ฝนตกหนัก จากการทำงานร่วมกันของร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ การตระหนักรู้ถึงความเสี่ยง การติดตามข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด และการเตรียมความพร้อมในระดับครัวเรือนและชุมชน คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราทุกคนสามารถผ่านช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
แหล่งที่มาจาก : am2con