ด่วนที่สุด! ผู้ว่าฯ พิจิตรสั่งอพยพ 3 อำเภอ ประกาศเขตภัยพิบัติหนีมวลน้ำเหนือลูกใหญ่

ข่าวล่าสุด

ในภาวะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมทวีความตึงเครียดถึงขีดสุด เมื่อเวลา 1500 น. ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวฉุกเฉิน ประกาศให้พื้นที่ 3 อำเภอริมแม่น้ำยมเป็น “เขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน” พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระดับสีแดงเป็นการเร่งด่วน การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นขณะที่มวลน้ำเหนือระลอกใหญ่ที่สุดของปีกำลังเคลื่อนตัวผ่านจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก และคาดว่าจะเดินทางมาถึงจังหวัดพิจิตรในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า นี่คือ “ข่าวล่าสุด” ที่เป็นการเริ่มต้นการต่อสู้ครั้งสำคัญของชาวพิจิตรในการแข่งขันกับเวลาและสายน้ำ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากวิกฤตอุทกภัยที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี

มวลน้ำกำลังมา! ประตูระบายน้ำ ยังไม่พร้อม ถูกขโมยสายไฟนานเป็นปี ยังไม่ซ่อม |  คมชัดลึก

“มวลน้ำกำลังมา” – เปิดแถลงการณ์ฉุกเฉินผู้ว่าฯ พิจิตร

ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพิจิตร นาย [ชื่อสมมติผู้ว่าฯ] ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร (ปภ.) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

สาระสำคัญจากการแถลงข่าว

  • ประกาศเขตภัยพิบัติ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สามง่าม, อ.โพธิ์ประทับช้าง และ อ.เมืองพิจิตร (ในตำบลที่ติดริมแม่น้ำยม)
  • สั่งเตรียมอพยพเร่งด่วน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อปท. ในพื้นที่เสี่ยงสูงสุด แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง, เคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงและผู้ป่วยติดเตียงไปยังพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมพร้อมอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดเตรียมไว้หากได้รับสัญญาณ
  • คาดการณ์สถานการณ์ มวลน้ำก้อนใหญ่จากแม่น้ำยม ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการไหลผ่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าจะเดินทางมาถึงเขต อ.สามง่าม ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) และจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 1.5 – 2.0 เมตร ซึ่งจะส่งผลให้ล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนริมน้ำและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง
  • การเตรียมพร้อมของภาครัฐ ได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดพิจิตร (อุทกภัย) ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 36, ตำรวจ, อส. และอาสาสมัครกู้ภัย เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

“นี่คือการต่อสู้กับเวลา ผมขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่าประมาท ขอให้เชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เราอาจจะหยุดยั้งสายน้ำไม่ได้ แต่เราสามารถลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนได้หากเราร่วมมือกัน” – ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ทำไม “พิจิตร” ถึงเป็นพื้นที่รับน้ำสุดท้าย?

ข่าวล่าสุด ที่น่ากังวลนี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ของลุ่มน้ำยม ซึ่งเป็นลุ่มน้ำเดียวที่ไม่มีเขื่อนขนาดใหญ่คอยควบคุมปริมาณน้ำตอนบน เมื่อมีฝนตกหนักในจังหวัดแพร่และสุโขทัย มวลน้ำทั้งหมดจึงไหลลงมาอย่างอิสระ เมื่อผ่านพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำและเป็นแก้มลิงธรรมชาติ มวลน้ำจะแผ่ขยายออก ก่อนจะไหลมารวมกันอีกครั้งและพุ่งตรงมายังจังหวัดพิจิตรซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ ทำให้พิจิตรต้องรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงซ้ำซาก

สชป.11 ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม  บริเวณประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองพระอุดม  และประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำบางบัวทอง สำนักชลประทานที่ 11

แผนเผชิญเหตุ ภาครัฐพร้อมแค่ไหนใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า?

การประกาศเขตภัยพิบัติคือการเปิดทางให้กลไกของรัฐทำงานได้อย่างเต็มที่

การอพยพและศูนย์พักพิง

ปภ.พิจิตร ได้ประสานงานกับ อปท. จัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวไว้ตามโรงเรียนและวัดที่อยู่ในพื้นที่สูง พร้อมทั้งเตรียมกำลังพลและยานพาหนะ เช่น เรือท้องแบน และรถยกสูงของทหาร เพื่อเข้าไปรับประชาชนที่ติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน

การป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่สำคัญ

เทศบาลเมืองพิจิตรและหน่วยงานชลประทานได้เร่งนำกระสอบทรายเข้าเสริมแนวป้องกันริมแม่น้ำยมในเขตตัวเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมตลาดและสถานที่ราชการสำคัญ ขณะที่โรงพยาบาลพิจิตรได้เริ่มแผนขนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และผู้ป่วยบางส่วนขึ้นไปยังชั้นบนของอาคาร

เสียงจากพื้นที่เสี่ยง “รู้ว่าน้ำจะมา แต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้”

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่คุยกับชาวบ้านใน ต.รังนก อ.สามง่าม ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด นางประไพ ศรีสวัสดิ์ ชาวบ้านวัย 62 ปี เล่าขณะกำลังเร่งเก็บข้าวของขึ้นบนบ้านชั้นสองว่า “ทุกปีก็ท่วมแบบนี้จนชินแล้ว แต่ปีนี้ทางการเขาประกาศเสียงตามสายตลอดว่าน้ำจะมาเยอะกว่าทุกปี ก็ใจไม่ดีเหมือนกัน ของอะไรที่เอาขึ้นได้ก็เอาขึ้นก่อน ที่นา 20 ไร่คงไม่ต้องพูดถึง จมหมดแน่นอน ตอนนี้ห่วงแต่คนแก่กับวัวที่เลี้ยงไว้ว่าจะเอาไปไว้ที่ไหน”

INDEX INTERNATIONAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED › Portfolio

บทเรียนซ้ำซาก จากวิกฤตสู่วาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไข

ข่าวล่าสุด เรื่อง น้ำท่วมพิจิตร 68 นี้ เป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในการบริหารจัดการลุ่มน้ำยมที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน แม้จะมีโครงการขนาดเล็กเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถรับมือกับมวลน้ำขนาดใหญ่ได้ ทำให้ทุกๆ ปี รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณมหาศาลไปกับ เงินเยียวยาน้ำท่วม และการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

วิกฤตครั้งนี้จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่านอกจากการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าแล้ว จะมีความกล้าหาญทางการเมืองในการผลักดันโครงการ การจัดการน้ำ ขนาดใหญ่ที่เป็นรูปธรรม เพื่อตัดวงจรแห่งความทุกข์ยากนี้ให้กับประชาชนในลุ่มน้ำยมได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศกำลังจับตามอง

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *