สำหรับคนไทยเรือนแสน การสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ “สอบ กพ 68” คือประตูบานสำคัญสู่ความมั่นคงและเกียรติภูมิในอาชีพข้าราชการ แต่ในปีนี้ สมรภูมิสอบได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่สั่นสะเทือนระบบราชการทั่วโลก และกำลังบีบให้สำนักงาน ก.พ. ต้องปฏิวัติแนวทางการคัดเลือกบุคลากรครั้งสำคัญ บทความนี้คือคู่มือเชิงลึกที่จะพาไปเจาะทุกมิติของการเปลี่ยนแปลงในข้อสอบ กพ 68 จากบททดสอบความจำ สู่การวัด “ทักษะแห่งอนาคต” และเป็นแนวทางให้ผู้สมัครทุกคนได้เตรียมตัวรับมือกับความท้าทาย เพื่อก้าวสู่การเป็น “ข้าราชการยุคใหม่” ที่พร้อมทำงานเคียงข้าง AI ไม่ใช่ถูกแทนที่ด้วย AI
“สอบ กพ” ในวันที่โลกไม่เหมือนเดิม เมื่อ AI เคาะประตูทำเนียบ
ในอดีต ภาพจำของข้าราชการอาจผูกติดอยู่กับงานเอกสาร, การทำงานตามลำดับขั้น และความเชี่ยวชาญในระเบียบแบบแผน แต่การมาถึงของ AI กำลังเปลี่ยนแปลงภาพเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง
- AI กับงานอัตโนมัติ งานรูทีนที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น การคีย์ข้อมูล, การจัดเก็บเอกสาร, การตอบคำถามพื้นฐาน กำลังจะถูก AI เข้ามาทำหน้าที่แทนทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าตำแหน่งงานราชการบางประเภทอาจลดความสำคัญลงหรือหายไปในที่สุด
- AI ในฐานะผู้ช่วยอัจฉริยะ ในทางกลับกัน AI จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับข้าราชการยุคใหม่ ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย, ช่วยร่างเอกสารและคำสั่งต่างๆ, และช่วยคาดการณ์แนวโน้มทางเศรษฐกิจและสังคม
ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน ก.พ. จึงไม่สามารถใช้ไม้บรรทัดเดิมในการวัดคุณสมบัติของคนที่จะเข้ารับราชการได้อีกต่อไป แต่ต้องมองหาคนที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และมีทักษะที่ AI ไม่สามารถทำแทนได้
ถอดรหัสข้อสอบ กพ 68 มีอะไรใหม่? เปลี่ยนแปลงตรงไหน?
จากแนวโน้มการปฏิรูประบบราชการทั่วโลกและทิศทางของสำนักงาน ก.พ. ในช่วงที่ผ่านมา คาดการณ์ได้ว่า แนวข้อสอบ กพ ภาค ก ในปี 2568 จะมีการปรับเปลี่ยนโดยเน้นหนักในประเด็นต่อไปนี้
วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มากกว่าการคำนวณและภาษาไทย
วิชานี้จะยังคงเป็นหัวใจของการสอบ แต่จะยกระดับความซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ (คำนวณ) จะลดสัดส่วนของโจทย์คณิตศาสตร์พื้นฐาน แต่จะเพิ่มโจทย์ที่ต้องอาศัย การตีความข้อมูลจากตารางและกราฟ มากขึ้น เพื่อวัดความสามารถในการนำข้อมูล (Data) มาใช้ในการตัดสินใจ
- การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม (อุปมาอุปไมย) จะยังคงมีอยู่เพื่อวัดตรรกะพื้นฐาน
- การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา (ภาษาไทย) จะเปลี่ยนจากการถามหลักไวยากรณ์หรือคำราชาศัพท์แบบท่องจำ ไปสู่ การอ่านจับใจความบทความยาวๆ ที่ซับซ้อน แล้ววิเคราะห์หาข้อเท็จจริง, ข้อคิดเห็น, จุดประสงค์ของผู้เขียน และการสรุปความ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำงานกับเอกสารราชการจำนวนมาก
วิชาภาษาอังกฤษ เน้นการใช้งานจริง (Practical English)
จะลดความสำคัญของข้อสอบไวยากรณ์ที่ซับซ้อนและไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตจริง แต่จะหันไปเน้น
- การอ่านเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) บทความที่นำมาออกสอบจะมีลักษณะใกล้เคียงกับอีเมลราชการ, รายงาน, ประกาศ หรือข่าวสารภาษาอังกฤษ เพื่อวัดความสามารถในการทำความเข้าใจข้อมูลที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน
- คำศัพท์ (Vocabulary) จะเน้นคำศัพท์ที่พบบ่อยในบริบทการทำงานและข่าวสารทั่วไป
วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี โจทย์ใหม่ “Digital Literacy & Ethics”
นี่คือส่วนที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด
- Digital Literacy (การรู้เท่าทันดิจิทัล) จะมีการเพิ่มคำถามที่วัดความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล, ความปลอดภัยไซเบอร์, การใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างเหมาะสม และความเข้าใจใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
- กฎหมายและระเบียบราชการ จะยังคงเป็นส่วนสำคัญ แต่คำถามจะมีลักษณะเป็น “กรณีศึกษา (Case Study)” มากขึ้น ให้ผู้สอบวิเคราะห์สถานการณ์แล้วเลือกว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักจริยธรรมและระเบียบวินัย
ทักษะแห่งอนาคต ข้าราชการยุคใหม่ต้องมีอะไรบ้าง?
จากแนวโน้มข้อสอบ กพ 68 สะท้อนให้เห็นว่า ข้าราชการพลเรือน ยุคต่อไปต้องมีทักษะที่ AI ทดแทนไม่ได้ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
- การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, แยกแยะข้อเท็จจริงออกจากความคิดเห็น, และประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว
- การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving) ความสามารถในการมองเห็นปัญหาในภาพรวมและหาทางแก้ไขที่สร้างสรรค์
- ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การคิดริเริ่มนโยบายหรือโครงการใหม่ๆ ที่จะมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
- ความฉลาดทางอารมณ์และการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Emotional Intelligence & Collaboration) การประสานงานกับหน่วยงานอื่นและให้บริการประชาชนด้วยใจบริการ เป็นสิ่งที่ AI ทำไม่ได้
- ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Flexibility & Adaptability) ความพร้อมที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานอยู่เสมอ
“ในอดีต เราอาจต้องการข้าราชการที่ ‘รู้ระเบียบ’ แต่ในอนาคต เราต้องการข้าราชการที่ ‘รู้คิด’ และ ‘รู้ปรับตัว’ คนที่สามารถสั่งการ AI ได้ ไม่ใช่รอรับคำสั่งจาก AI นี่คือหัวใจของการปฏิรูปการสอบ กพ. ในครั้งนี้” – นักวิชาการด้านรัฐประศาสนศาสตร์ (สมมติ)
เสียงจากวงใน มุมมองติวเตอร์และข้าราชการรุ่นใหม่
สถาบันกวดวิชาชั้นนำหลายแห่งได้เริ่มปรับหลักสูตรการติว สอบ กพ แล้ว โดยเพิ่มชั่วโมงการสอนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล, การตีความบทความยาวๆ และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายดิจิทัลมากขึ้น ขณะที่ข้าราชการรุ่นใหม่ที่เพิ่งผ่านการสอบในช่วงปีหลังๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การทำงานจริงในปัจจุบันต้องอาศัยทักษะด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารกับประชาชนมากกว่าความรู้ที่ท่องจำมาจากตำรา
บทสรุป การเตรียมตัวสำหรับ กพ 68 ไม่ใช่แค่การท่องจำ แต่คือการอัพเกรดตัวเอง
สนามสอบ กพ 68 คือภาพจำลองของโลกการทำงานราชการในอนาคตอันใกล้ ชัยชนะในสนามนี้ไม่ได้เป็นของผู้ที่ท่องจำได้เก่งที่สุดอีกต่อไป แต่จะเป็นของผู้ที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกและเตรียมพร้อมพัฒนา “ทักษะแห่งอนาคต” ให้กับตนเอง
ดังนั้น การเตรียมตัวที่ดีที่สุดจึงไม่ใช่แค่การตะลุยทำ แนวข้อสอบ กพ เก่าๆ แต่คือการฝึกฝนการคิดวิเคราะห์, การติดตามข่าวสารเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน, การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และที่สำคัญที่สุดคือ การเปิดใจเรียนรู้และยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงาน ไม่ว่าคุณจะต้องการเป็น ข้าราชการพลเรือน ในกระทรวงใดก็ตาม นี่คือทักษะพื้นฐานที่ทุกคนต้องมีเพื่อความอยู่รอดและเติบโตในสายอาชีพนี้ต่อไป
แหล่งที่มาจาก : am2con