โตเกียว, ญี่ปุ่น – กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ออกประกาศเตือนภัยฉุกเฉินระดับสีแดงในช่วงเช้าวันนี้ หลังตรวจพบมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่สุดในรอบทศวรรษสำหรับช่วงเดือนพฤศจิกายน กำลังเคลื่อนตัวปกคลุมภาคเหนือของประเทศ ส่งผลให้เกิด เตือนภัยหิมะถล่มญี่ปุ่น อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดฮอกไกโดและอาโอโมริ ที่คาดการณ์ว่าจะมีหิมะตกสะสมสูงกว่า 50 เซนติเมตรภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น แต่ยังสร้างความปั่นป่วนให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมหาศาลที่กำลังหลั่งไหลเข้าสู่ญี่ปุ่นเพื่อสัมผัสลมหนาวแรกของปี

1. ปรากฏการณ์ “นายพลฤดูหนาว” (Fuyu Shogun) มาเร็วกว่านัด
สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่หิมะโปรยปรายธรรมดา แต่มันคือการมาเยือนของสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ฟูยุ โชกุน” (Fuyu Shogun) หรือนายพลฤดูหนาว ซึ่งเปรียบเปรยถึงความโหดร้ายของอากาศหนาวจัด
กลไกทางอุตุนิยมวิทยา เจ้าหน้าที่อาวุโสจาก JMA อธิบายว่า ความกดอากาศกำลังปรับตัวเข้าสู่รูปแบบ “ตะวันตกสูง ตะวันออกต่ำ” (West-High, East-Low) อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแพทเทิร์นคลาสสิกของฤดูหนาว แต่ความผิดปกติอยู่ที่ความรุนแรงและช่วงเวลา
- มวลอากาศเย็น อากาศเย็นจัดระดับ -36 องศาเซลเซียส ที่ระดับความสูง 5,000 เมตร เหนือพื้นดิน ได้เคลื่อนตัวจากไซบีเรียข้ามทะเลญี่ปุ่นเข้ามาปะทะกับเทือกเขาในฮอกไกโดและโทโฮคุ
- JPCZ (Japan Sea Polar air mass Convergence Zone) แนวปะทะของมวลอากาศขั้วโลกเหนือทะเลญี่ปุ่นกำลังก่อตัว ทำให้เกิดเมฆหิมะหนาแน่นพัดถล่มชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง
“นี่คือสัญญาณเตือนว่าฤดูหนาวปี 2025 จะไม่ปรานีใคร เราพบการสะสมของหิมะที่รวดเร็วในระดับที่มักจะเห็นในเดือนมกราคม ไม่ใช่พฤศจิกายน” – ดร. เคนจิ นากามูระ ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศวิทยา จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ให้สัมภาษณ์
2. ฮอกไกโดและอาโอโมริ ศูนย์กลางพายุสีขาว
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการ เตือนภัยหิมะถล่มญี่ปุ่น ครั้งนี้ คือสองจังหวัดเหนือสุดของประเทศ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม
สถานการณ์ในฮอกไกโด
- ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด เผชิญกับทัศนวิสัยที่ลดลงเหลือไม่ถึง 50 เมตร ถนนหลายสายกลายเป็นลานน้ำแข็ง (Black Ice) รถยนต์เกิดอุบัติเหตุลื่นไถลหลายจุด
- สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ประตูสู่ฮอกไกโดต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศกว่า 60 เที่ยวบินในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากหิมะท่วมรันเวย์และการขจัดน้ำแข็งเกาะปีกเครื่องบิน (De-icing) ทำได้ไม่ทันต่อความต้องการ
- รถไฟ JR Hokkaido ประกาศระงับการเดินรถในสายท้องถิ่นหลายสาย และลดความเร็วของรถไฟด่วนพิเศษเพื่อความปลอดภัย
วิกฤตที่อาโอโมริ จังหวัดอาโอโมริ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีหิมะตกหนักที่สุดในโลก (ในเขตที่อยู่อาศัย) กำลังเผชิญกับ “กำแพงหิมะ” ที่ก่อตัวเร็วกว่ากำหนด
- ที่ย่านสุกะยุ ออนเซ็น (Sukayu Onsen) มีรายงานหิมะทับถมสูงกว่า 70 เซนติเมตรในคืนเดียว
- เส้นทางคมนาคมหลักที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดถูกตัดขาดบางช่วง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถกวาดหิมะออกปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง

3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เมื่อ High Season สะดุด
ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม เป็นช่วงเวลาทองของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเขตร้อนอย่างไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ต้องการมาสัมผัสหิมะแรก
ความโกลาหลของนักท่องเที่ยว รายงานจากสถานีโทรทัศน์ NHK เผยภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากตกค้างอยู่ที่สถานีรถไฟและสนามบิน
- ปัญหาด้านภาษา นักท่องเที่ยวจำนวนมากไม่เข้าใจประกาศเตือนภัยภาษาญี่ปุ่น ทำให้เกิดความสับสนในการวางแผนเดินทางต่อ
- อุปกรณ์ไม่พร้อม นักท่องเที่ยวหลายรายเตรียมตัวมาเพียงแค่ “หนาวเย็น” ไม่ใช่ “พายุหิมะ” ทำให้ขาดแคลนรองเท้ากันลื่นและเสื้อผ้าที่เหมาะสม เสี่ยงต่อภาวะตัวเย็นเกิน (Hypothermia)
มุมมองจากผู้ประกอบการ คุณฮิโรชิ ทานากะ เจ้าของบริษัททัวร์ในซัปโปโร กล่าวว่า “เราได้รับการยกเลิกทริปสกีและทัวร์ชมเมืองจำนวนมากในวันนี้ ความกังวลคือหากหิมะยังตกหนักต่อเนื่อง ระบบขนส่งจะอัมพาตยาวนาน ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลอย่างหนัก”
4. สัญญาณเตือนภัยโลกร้อน Extreme Weather ที่ถี่ขึ้น
แม้หิมะจะเป็นเรื่องปกติของญี่ปุ่น แต่ความแปรปรวนของสภาพอากาศ (Climate Variability) เป็นประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจับตามอง การที่ มวลอากาศเย็นกำลังแรง เคลื่อนตัวลงมาลึกและเร็วขนาดนี้ อาจสัมพันธ์กับความอ่อนกำลังของกระแสลมวนขั้วโลก (Polar Vortex) ซึ่งเป็นผลพวงทางอ้อมจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง
รายงานจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นชี้ว่า ความเสี่ยงของภัยพิบัติจากหิมะ (Snow Disaster) ไม่ได้ลดลงแม้โลกจะร้อนขึ้น แต่กลับมีความซับซ้อนขึ้น คือ “ตกน้อยวันลง แต่ตกหนักรุนแรงขึ้นในแต่ละครั้ง” (Less frequent, more intense) ซึ่งสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าเดิม
5. คำแนะนำเชิงลึกสำหรับการรับมือ (Survival Guide)
สำหรับผู้อ่านที่มีแผนเดินทางไปญี่ปุ่น หรือมีญาติมิตรอยู่ในพื้นที่เสี่ยง นี่คือคำแนะนำที่รวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
- การติดตามข่าวสาร
- โหลดแอปพลิเคชัน “Safety tips” ซึ่งเป็นแอปฯ ของทางการญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยว มีภาษาไทยรองรับ เพื่อรับแจ้งเตือนแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงพายุหิมะ
- ติดตามเว็บไซต์ของ Japan Meteorological Agency (JMA) ภาคภาษาอังกฤษเพื่อดูแผนที่อากาศล่าสุด
- การเดินทาง
- รถไฟ ตรวจสอบสถานะการเดินรถผ่านแอปพลิเคชัน Japan Travel by NAVITIME หากชินคันเซ็นหยุดวิ่ง ให้มองหาแผนสำรอง หรือรออยู่ในพื้นที่ปลอดภัย อย่าฝืนเดินทาง
- การขับรถ หลีกเลี่ยงเด็ดขาด หากไม่มีประสบการณ์ขับรถบนหิมะ ถนนที่มี “น้ำแข็งดำ” (Black Ice) มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่อันตรายถึงชีวิต
- อุปกรณ์ยังชีพ
- ร้านสะดวกซื้อ (Konbini) คือมิตรแท้ ตุนน้ำดื่ม อาหารที่ให้พลังงานสูง และแผ่นแปะความร้อน (Kairo) ติดตัวไว้เสมอ
- รองเท้าควรมีดอกยางลึก หรือซื้อ “แผ่นกันลื่น” (Snow grips) ที่สวมทับรองเท้าได้จากร้านสะดวกซื้อ

6. ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลกระทบทางอ้อม
แม้พายุหิมะจะอยู่ไกลถึงญี่ปุ่น แต่ผลกระทบสะท้อนกลับมาถึงไทยในมิติของ Supply Chain และ Logistics
- สินค้าเกษตร การขนส่งสินค้าพรีเมียมอย่าง อาหารทะเลจากฮอกไกโด (ปูขน, หอยเชลล์) หรือแอปเปิ้ลจากอาโอโมริ อาจเกิดความล่าช้าและราคาสูงขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากเที่ยวบินขนส่งสินค้า (Cargo) ได้รับผลกระทบ
- ประกันภัยการเดินทาง บริษัทประกันภัยในไทยเริ่มได้รับแจ้งเคลมเรื่องเที่ยวบินล่าช้าและการยกเลิกการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
บทสรุป ธรรมชาติที่ไม่อาจควบคุม
การประกาศ เตือนภัยหิมะถล่มญี่ปุ่น ในครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจว่า ท่ามกลางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของญี่ปุ่น ธรรมชาติยังคงเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิต การเตรียมพร้อมและการเคารพต่อคำเตือนของทางการคือหัวใจสำคัญของความปลอดภัย
สำหรับนักท่องเที่ยว ความสวยงามของหิมะแรกอาจมาพร้อมกับอันตรายที่คาดไม่ถึง หากท่านกำลังอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โปรดจำไว้ว่า “ความปลอดภัยต้องมาก่อนแผนเที่ยว” ญี่ปุ่นยังคงสวยงามเสมอรอให้ท่านเที่ยวชมเมื่อพายุผ่านพ้นไป แต่ชีวิตและสุขภาพคือสิ่งที่ไม่สามารถเรียกคืนได้
สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 72 ชั่วโมงข้างหน้า โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่มวลอากาศเย็นนี้จะแผ่ลงมายังภาคกลางและกรุงโตเกียวในลำดับต่อไป
แหล่งที่มาจาก : am2con