ชอนัน, เกาหลีใต้ — เปลวเพลิงมหึมาที่โหมกระหน่ำนานกว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง ได้เผาผลาญศูนย์โลจิสติกส์แฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ให้เหลือเพียงโครงเหล็กที่ไหม้เกรียมและเถ้าถ่าน โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2025 ณ คลังสินค้าของ E-Land Group (อี-แลนด์ กรุ๊ป) ยักษ์ใหญ่ด้านแฟชั่นและค้าปลีก ในเมืองชอนัน จังหวัดชุงชองใต้
แม้ว่าเหตุการณ์ ไฟไหม้ศูนย์โลจิสติกส์เกาหลีใต้ ครั้งนี้ จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ แต่ผลกระทบที่ตามมานั้นรุนแรงมหาศาล สินค้าเสียหาย 11 ล้านชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและรองเท้าจากแบรนด์ดังในเครือ เช่น SpaO และ New Balance ถูกทำลายทั้งหมด
นี่ไม่ใช่แค่เหตุเพลิงไหม้คลังสินค้าธรรมดา แต่นี่คือ “ภาวะหัวใจวาย” ของห่วงโซ่อุปทาน K-Fashion ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด คือก่อนฤดูการขายปลายปีและ Black Friday เพียงไม่กี่สัปดาห์ เหตุการณ์ E-Land ไฟไหม้ ครั้งนี้ ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนโดยตรงไปยังแกนกลางทางการเงินของ E-Land Group และกำลังจุดชนวนคำถามสำคัญถึงความปลอดภัยของคลังสินค้า “อัจฉริยะ” ที่ถูกเร่งให้เร็วขึ้นในยุคอีคอมเมิร์ซ

ล่าสุด (18 พ.ย.) ปฏิบัติการดับเพลิงยืดเยื้อ เผชิญซากอาคารถล่ม
ณ วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025 หรือสามวันหลังเกิดเหตุ แม้เปลวเพลิงหลักจะถูกควบคุมไว้ได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายร้อยนายยังคงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงในพื้นที่ เนื่องจากยังมีกลุ่มควันและเปลวไฟขนาดเล็กปะทุขึ้นมาจากกองเสื้อผ้าและรองเท้าจำนวนมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ภายใน
สำนักข่าว Yonhap และ The Korea Herald รายงานตรงกันว่า อุปสรรคใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือความปลอดภัยของตัวอาคาร
- โครงสร้างอาคารซึ่งมีพื้นที่รวม 193,210 ตารางเมตร (เทียบเท่าสนามฟุตบอล 27 สนาม) ได้รับความเสียหายรุนแรงจากความร้อนที่สูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส
- หลังคาและผนังบางส่วนได้พังถล่มลงมาเรียบร้อยแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในได้
- “ขณะนี้การเข้าถึงจุดต้นตอของเพลิงไหม้ภายในอาคารเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากความเสี่ยงที่โครงสร้างจะถล่มลงมาทับ” โฆษกหน่วยดับเพลิงชุงชองใต้กล่าว “เราต้องใช้วิธีฉีดน้ำจากภายนอกและรอให้อาคารเย็นลง ซึ่งอาจใช้เวลาอีกหลายวัน”
การสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ สาเหตุไฟไหม้คลังสินค้า E-Land จึงยังไม่สามารถเริ่มต้นได้อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกนาที
ลำดับเหตุการณ์ “9 ชั่วโมงครึ่ง” แห่งการต่อสู้กับเพลิงนรก
เหตุการณ์ ชอนัน ไฟไหม้ เริ่มต้นขึ้นในเวลาที่เงียบสงบที่สุดของวัน
- 0608 น. (15 พ.ย.) ศูนย์บัญชาการดับเพลิง 119 ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ครั้งแรกที่อาคาร 4 ชั้น ของศูนย์โลจิสติกส์ E-Land Fashion ในเขตพุงเซ-มยอน เมืองชอนัน
- 0610 น. พนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ 3 คน (รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย) สามารถอพยพออกมาได้อย่างปลอดภัยหลังจากสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้น
- 0615 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงชุดแรกไปถึงที่เกิดเหตุและประกาศ “การตอบสนองระดับ 1” (Response Level 1) แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว
- 0701 น. เปลวเพลิงได้ลุกลามอย่างหนักจนไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าหน้าที่ยกระดับการเตือนภัยเป็น “การตอบสนองระดับ 2” (Response Level 2) ซึ่งหมายถึงการระดมกำลังและอุปกรณ์จากสถานีดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด
- การระดมกำลังครั้งใหญ่ ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรวมกว่า 430 นาย, รถดับเพลิงและอุปกรณ์สนับสนุน 150 คัน และเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง 11 ลำ ถูกส่งมาทิ้งน้ำจากอากาศ
- 1530 น. หลังจากผ่านไป 9 ชั่วโมง 28 นาที เจ้าหน้าที่จึงสามารถ “ควบคุมเปลวเพลิงหลัก” (Contain the main blaze) ไว้ได้สำเร็จ
แม้จะควบคุมเพลิงหลักได้ แต่ภารกิจยังไม่จบสิ้น กองทัพสินค้าแฟชั่น 11 ล้านชิ้นที่อยู่ภายใน ได้กลายเป็น “เชื้อเพลิงชั้นดี” ที่ทำให้ไฟปะทุขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา

ทำไมจึงดับยาก? บทวิเคราะห์ความท้าทายของ “คลังเสื้อผ้า”
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในที่เกิดเหตุอธิบายว่า นี่คือหนึ่งในเหตุเพลิงไหม้คลังสินค้าที่ท้าทายที่สุด ปัจจัยหลักที่ทำให้การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก คือ
- เชื้อเพลิงอัดแน่น (Dense Fuel Load) อาคาร 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับ ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ (เช่น โพลีเอสเตอร์, ไนลอน) และบรรจุในกล่องกระดาษ วัสดุเหล่านี้ติดไฟง่ายอย่างยิ่งและให้ความร้อนสูง
- การออกแบบคลังสินค้าสมัยใหม่ คลังสินค้าโลจิสติกส์สมัยใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อ “การจัดเก็บ” มากกว่า “การระบายอากาศ” เพดานที่สูงและชั้นวางที่หนาแน่นทำให้ความร้อนและควันพิษสะสมอยู่ภายใน
- การเข้าถึงที่เป็นไปไม่ได้ (Inaccessibility) เมื่อเปลวเพลิงลุกลาม เสื้อผ้าที่เผาไหม้ได้พังทลายลงมาปิดกั้นทางเดิน และความร้อนมหาศาลทำให้โครงสร้างอาคารเริ่มบิดเบี้ยวและถล่ม การส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในจึงเป็นการฆ่าตัวตาย
- ขนาดมหึมาของอาคาร ด้วยพื้นที่เกือบ 2 แสนตารางเมตร การฉีดน้ำจากภายนอกจึงเหมือนการ “พยายามดับไฟป่าด้วยสายยาง” เฮลิคอปเตอร์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสกัดเพลิงจากด้านบน
บทวิเคราะห์เชิงลึก E-Land ล้มทั้งยืน ตะลึงงันก่อนฤดู “Black Friday”
ความเสียหายจาก ไฟไหม้ศูนย์โลจิสติกส์เกาหลีใต้ ครั้งนี้ ไม่ได้วัดกันที่มูลค่าอาคารที่พังทลาย แต่วัดกันที่ “โอกาสทางธุรกิจ” ที่สูญหายไปในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของปี
“หัวใจ” ของ E-Land Fashion หยุดเต้น
คลังสินค้าชอนันที่ถูกไฟไหม้ ไม่ใช่แค่คลังเก็บของ แต่คือ “หัวใจ” ของการดำเนินงานด้านแฟชั่นของ E-Land Group
- ศูนย์กลางหนึ่งเดียว นี่คือศูนย์โลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของ E-Land Fashion ทำหน้าที่เป็นฮับหลักในการกระจายสินค้าให้กับแบรนด์ในเครือทั้ง 10 แบรนด์
- รองรับ E-Commerce ทั้งหมด คำสั่งซื้อออนไลน์ทั้งหมดสำหรับแบรนด์หลักอย่าง SpaO (แบรนด์ Fast Fashion ที่แข่งกับ Uniqlo) และแบรนด์อื่นๆ จะถูกจัดการและจัดส่งจากที่นี่
- ปริมาณมหาศาล ศูนย์แห่งนี้รองรับการขนส่ง 4-5 ล้านกล่องต่อปี หรือเฉลี่ย 50,000 กล่องต่อวัน
- สินค้า 11 ล้านชิ้นที่หายไป สินค้าที่ถูกเผาไหม้คือสต็อกหลักสำหรับคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว (FW) และสินค้าที่เตรียมไว้สำหรับแคมเปญลดราคา Black Friday และเทศกาลคริสต์มาส
K-Fashion สะเทือน SpaO, New Balance และ 8 แบรนด์ดังอัมพาต
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีคือ “วิกฤตการจัดส่ง” แบรนด์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและต้องหยุดชะงักการดำเนินงานทันที ได้แก่
- SpaO
- New Balance (E-Land เป็นผู้ถือสิทธิ์จัดจำหน่ายในเกาหลีใต้)
- Who.A.U
- MISSO
- Clavis
- ROEM
- Evelyn
- Schpen (แบรนด์รองเท้า)
E-Land ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น (16 พ.ย.) ผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์เหล่านี้ ระบุว่า
“เนื่องจากการหยุดชะงักที่ไม่คาดคิดในการดำเนินงานของศูนย์กระจายสินค้า… การจัดส่งสินค้าบางรายการอาจล่าช้า หรือคำสั่งซื้ออาจถูกยกเลิกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้… เรากำลังตรวจสอบความปลอดภัยและดำเนินการฟื้นฟู และจะแจ้งให้ทราบทันทีที่กลับสู่ภาวะปกติ”
นี่คือฝันร้ายของผู้บริโภคที่กำลังรอการสั่งซื้อ และเป็นฝันร้ายยิ่งกว่าของบริษัทที่กำลังจะสูญเสียรายได้มหาศาลในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นไตรมาสที่สำคัญที่สุด

ตัวเลขที่น่าตกใจ เมื่อแฟชั่นคือเส้นเลือดใหญ่ของ E-Land
เพื่อทำความเข้าใจความรุนแรงของผลกระทบ เราต้องดูโครงสร้างรายได้ของ E-Land World (บริษัทโฮลดิ้ง)
- ข้อมูลจากสื่อธุรกิจในเกาหลีใต้ (เช่น Maeil Business Newspaper) ระบุว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2025 ธุรกิจแฟชั่นสร้างรายได้ให้ E-Land World มากถึง 2.531 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- ธุรกิจแฟชั่นคิดเป็น 51.2% ของยอดขายทั้งหมด ของบริษัท
- ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า E-Land World จะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมากในไตรมาสที่ 4 จากความต้องการสินค้าฤดูหนาว
การที่สต็อกสินค้าหลักหายไปในพริบตา หมายความว่า E-Land จะไม่มีสินค้าเพียงพอที่จะขายในช่องทางออนไลน์ (ซึ่งเติบโตที่สุด) และอาจรวมถึงหน้าร้านบางส่วนด้วย นี่คือการสูญเสียที่อาจฉุดให้ผลประกอบการทั้งปี 2025 พังทลายลง
บทเรียนราคาแพง ตอกย้ำวิกฤตความปลอดภัยคลังสินค้าเกาหลีใต้
สิ่งที่น่าตกใจและทำให้สังคมเกาหลีใต้ตั้งคำถามอย่างหนัก คือ โศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
- ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหตุการณ์นี้หวนให้นึกถึงโศกนาฏกรรมไฟไหม้ศูนย์โลจิสติกส์ของ Coupang (ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซเกาหลี) ที่เมืองอีชอน ในเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งรุนแรงถึงขั้นมีนักดับเพลิงเสียชีวิต 1 นาย และสร้างความเสียหายหลายพันล้านวอน
- การแข่งกับเวลา อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะหลังยุคโควิด-19 คลังสินค้าขนาดใหญ่ยักษ์ (Mega-fulfillment centers) ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นที่ “ความเร็ว” ในการจัดส่ง (ที่เรียกว่า “Rocket Delivery” หรือการจัดส่งในวันถัดไป)
- ความปลอดภัยที่ถูกมองข้าม? นักวิจารณ์ชี้ว่า การมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพและความเร็ว อาจทำให้การออกแบบด้านความปลอดภัย (เช่น ระบบสปริงเกลอร์ที่เพียงพอ, ผนังกันไฟที่มีประสิทธิภาพ, และทางหนีไฟที่ชัดเจน) ถูกประนีประนอม โดยเฉพาะในอาคารที่เต็มไปด้วยเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่ายอย่างเสื้อผ้าหรือกล่องกระดาษ
ประเด็นน่าสงสัย “ไฟไหม้เล็กน้อย” 9 วันก่อนเกิดเหตุ
ข้อมูลที่น่าตกใจซึ่ง The Korea Herald รายงานโดยอ้างอิงจาก E-Land Group เอง คือ ศูนย์โลจิสติกส์แห่งนี้ “เคยเกิดเหตุไฟไหม้เล็กน้อยมาแล้วเมื่อ 9 วันก่อน”
แม้ E-Land จะยืนยันในเบื้องต้นว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ “ไม่เกี่ยวข้อง” และได้รับการจัดการแล้ว แต่ข้อเท็จจริงนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของข้อสงสัยของสาธารณชนและทีมสืบสวน
- ระบบป้องกันอัคคีภัยทำงานได้อย่างถูกต้องหรือไม่ในครั้งก่อน?
- การตรวจสอบความปลอดภัยหลังเหตุการณ์ครั้งแรกนั้น รัดกุมเพียงพอหรือไม่?
- หรือนี่คือสัญญาณเตือนที่ถูกเพิกเฉย?
คำถามเหล่านี้จะเป็นประเด็นหลักที่ตำรวจและหน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์จะต้องค้นหาคำตอบ หลังจากที่พวกเขาสามารถเข้าพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย
บทสรุป อนาคตที่แขวนบนเส้นด้ายของ E-Land และ K-Fashion
ไฟไหม้ศูนย์โลจิสติกส์เกาหลีใต้ ที่เมืองชอนันในครั้งนี้ เป็นมากกว่าอุบัติเหตุ แต่คือวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ มันได้เผยให้เห็นความเปราะบางของ ห่วงโซ่อุปทาน K-Fashion ที่พึ่งพาศูนย์กลางโลจิสติกส์ขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงต่อสู้กับกลุ่มควันที่เหลืออยู่ E-Land Group ก็กำลังเริ่มต้นการต่อสู้ที่ยากเย็นไม่แพ้กัน นั่นคือการกอบกู้ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน, การจัดการคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่ของลูกค้าหลายล้านคน, และการหาทางฟื้นฟูสต็อกสินค้าที่หายไปในกองเพลิงให้ทันท่วงที
สาเหตุไฟไหม้คลังสินค้า E-Land อาจต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ในการค้นหา แต่ผลกระทบจากความเสียหายของ สินค้า 11 ล้านชิ้น ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และมันจะเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลก ที่ต้องสร้างสมดุลระหว่าง “ความเร็ว” และ “ความปลอดภัย” ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
แหล่งที่มาจาก : am2con