“แร่หายากคืออะไร?” เจาะลึกชนวนเหตุ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีน 100% เมื่อเทคโนโลยีคือความมั่นคง

แร่หายากคืออะไร

ในสมรภูมิ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง คำว่า “แร่หายาก” (Rare Earth Elements) ได้กลับมาอยู่ใจกลางพายุอีกครั้ง หลังอดีตประธานาธิบดีและผู้ท้าชิงตำแหน่งคนสำคัญอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่าอาจตั้ง กำแพงภาษีจีน สูงถึง 100% สำหรับแร่ธาตุเหล่านี้ หากจีนพยายามใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง คำขู่ที่รุนแรงนี้ได้จุดประกายคำถามสำคัญขึ้นมาอีกครั้งว่า แร่หายากคืออะไร? และทำไมแร่ธาตุที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อ จึงมีความสำคัญถึงขั้นกลายเป็นจุดเปราะบางทางยุทธศาสตร์ที่อาจชี้ชะตาความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของชาติมหาอำนาจได้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงความสำคัญของแร่ธาตุที่มองไม่เห็นเหล่านี้ และวิเคราะห์ว่าทำไมเหมืองแร่ในจีนจึงกลายเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ที่เดิมพันด้วยอนาคตของโลก

Trump Imposes 100% Tariff, Tightens Tech Rules

แร่หายากคืออะไร “แร่หายาก” ไม่ได้ “หายาก” แต่ทำไมถึง “สำคัญ”?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า ชื่อ “แร่หายาก” นั้นค่อนข้างทำให้เข้าใจผิด ในความเป็นจริง แร่ธาตุในกลุ่มนี้ซึ่งประกอบด้วยธาตุ 17 ชนิดในตารางธาตุ (กลุ่มแลนทาไนด์บวกกับสแกนเดียมและอิตเทรียม) นั้นไม่ได้หายากไปกว่าทองแดงหรือตะกั่ว แต่สิ่งที่ “หายาก” คือการค้นพบแหล่งแร่ที่มีความเข้มข้นสูงพอที่จะขุดขึ้นมาได้อย่างคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ กระบวนการสกัดและแปรรูปที่ซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายสูง และสร้างมลพิษมหาศาล

ทำไมแร่หายากถึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ? คำตอบคือคุณสมบัติทางแม่เหล็กและไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้มันกลายเป็นส่วนประกอบที่ “ไม่สามารถทดแทนได้” ในเทคโนโลยีสมัยใหม่แทบทุกแขนง

  • เทคโนโลยีสีเขียว มอเตอร์ของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ ต้องใช้แม่เหล็กถาวรประสิทธิภาพสูงที่ทำจาก นีโอไดเมียม (Neodymium), แพรซีโอดิเมียม, และ ดิสโพรเซียม (Dysprosium)
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทุกสิ่งตั้งแต่สมาร์ทโฟน, ฮาร์ดไดรฟ์, หูฟัง, ไปจนถึงจอโทรทัศน์ ต่างต้องพึ่งพาแร่หายากเพื่อทำให้ชิ้นส่วนมีขนาดเล็กลง เบาขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นี่คือจุดที่กลายเป็นประเด็นด้านความมั่นคงโดยตรง อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยที่สุดของสหรัฐฯ ล้วนต้องพึ่งพาแร่หายาก เช่น
    • เครื่องบินขับไล่ F-35 ต้องการแร่หายากประมาณ 427 กิโลกรัม สำหรับระบบเรดาร์, ระบบนำทาง, และชิ้นส่วนเครื่องยนต์
    • ขีปนาวุธนำวิถี Tomahawk ใช้แม่เหล็กแร่หายากในระบบครีบและหางเสือ
    • เรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke ใช้แร่หายากในระบบโซนาร์และเรดาร์ SPY-1

“มังกรกุมบังเหียน” จีนครองตลาดแร่หายากได้อย่างไร?

ในช่วงทศวรรษ 1980 สหรัฐฯ เคยเป็นผู้นำในการผลิตแร่หายากของโลกจากเหมือง Mountain Pass ในแคลิฟอร์เนีย แต่สถานการณ์พลิกกลับอย่างสิ้นเชิงเมื่อจีนเริ่มเข้าสู่ตลาดด้วยกลยุทธ์ที่เฉียบขาด จีนควบคุมตลาดแร่หายากอย่างไร?

  1. ต้นทุนที่ต่ำกว่า ด้วยค่าแรงที่ถูกกว่าและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่หละหลวมกว่าในขณะนั้น ทำให้จีนสามารถผลิตแร่หายากได้ในราคาที่ต่ำจนคู่แข่งทั่วโลกไม่สามารถสู้ได้
  2. การผูกขาดกระบวนการแปรรูป จีนไม่ได้หยุดแค่การขุด แต่ได้ทุ่มเทลงทุนในการสร้างโรงสกัดและแปรรูปที่ซับซ้อน จนปัจจุบัน จีนควบคุมห่วงโซ่อุปทานในขั้นตอนนี้ถึงเกือบ 90% ของโลก หมายความว่าแม้ประเทศอื่นจะขุดแร่ของตัวเองได้ ก็ยังต้องส่งไปให้จีนแปรรูปอยู่ดี
  3. การใช้เป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ ในปี 2010 จีนเคยระงับการส่งออกแร่หายากไปยังญี่ปุ่นชั่วคราว ท่ามกลางข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะ ซึ่งเป็นการแสดงให้โลกเห็นเป็นครั้งแรกว่าจีนพร้อมที่จะใช้แร่ธาตุเหล่านี้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง

ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) ระบุว่า ระหว่างปี 2019-2022 สหรัฐฯ ต้องนำเข้าแร่หายากที่ผ่านการแปรรูปแล้วกว่า 78% จากจีน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับกระทรวงกลาโหม

Trump's New Trade Threats Set Off Global Scramble to Avoid Tariffs - The  New York Times

คำขู่ของทรัมป์ เดิมพันครั้งใหญ่ในสงครามเทคโนโลยี

การที่ โดนัลด์ ทรัมป์ หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาและขู่ตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 100% คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ มองว่าการพึ่งพาจีนในเรื่องนี้เป็น “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” ที่ไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป “เราไม่สามารถปล่อยให้ประเทศของเราต้องพึ่งพาจีนเพื่อสร้างกองทัพและเทคโนโลยีของเราได้” ทรัมป์กล่าวในการปราศรัย “ถ้าพวกเขาคิดจะเล่นแง่กับเราเรื่องแร่หายาก เราจะขึ้นภาษี 100% ในวันรุ่งขึ้นเลย”

ผลกระทบของกำแพงภาษีต่อแร่หายากคืออะไร?

  • ระยะสั้น จะเป็นการ “ยิงปืนนัดเดียวเจ็บทั้งสองฝ่าย” ต้นทุนการผลิตสินค้าไฮเทคและอาวุธในสหรัฐฯ จะพุ่งสูงขึ้นมหาศาล บริษัทอย่าง Tesla, General Motors, Apple, และผู้รับเหมาด้านกลาโหมอย่าง Lockheed Martin จะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้าแพงขึ้นและกระทบต่อผู้บริโภค
  • ระยะยาว ทรัมป์และที่ปรึกษาของเขาเดิมพันว่า “ความเจ็บปวด” ในระยะสั้นนี้ จะเป็นแรงบีบให้บริษัทอเมริกันต้องเร่งหาแหล่งซัพพลายใหม่และลงทุนในการสร้างห่วงโซ่อุปทานของตัวเองให้ได้โดยเร็วที่สุด

ปฏิกิริยาจากฝั่งจีนผ่านสื่อของรัฐบาลเป็นไปอย่างคาดการณ์ได้ โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวจะทำลายเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก และสหรัฐฯ เองที่จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ทางเลือกของสหรัฐฯ “การประกาศอิสรภาพ” จากแร่หายากของจีน

สหรัฐฯ มีแหล่งแร่หายากของตัวเองหรือไม่? คำตอบคือมี แต่ยังไม่เพียงพอและขาดศักยภาพในการแปรรูป อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในสมัยรัฐบาลทรัมป์และไบเดน ได้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการพึ่งพาจีน

  • ฟื้นฟูเหมืองในประเทศ เหมือง Mountain Pass ได้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง และรัฐบาลได้ให้เงินอุดหนุนหลายโครงการเพื่อสำรวจและพัฒนาแหล่งแร่แห่งใหม่
  • สร้างโรงแปรรูป เพนตากอนได้ให้ทุนสนับสนุนบริษัทอย่าง Lynas Rare Earths (ออสเตรเลีย) และ MP Materials (สหรัฐฯ) ในการสร้างโรงงานสกัดและแปรรูปแร่หายากบนแผ่นดินอเมริกา
  • จับมือพันธมิตร สหรัฐฯ กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรที่มีแหล่งแร่หายาก เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา และแม้แต่เวียดนาม เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานทางเลือกที่ไม่ต้องผ่านจีน
  • วิจัยและพัฒนา มีการลงทุนมหาศาลในการวิจัยเพื่อรีไซเคิลแร่หายากจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ และพัฒนาวัสดุใหม่ที่สามารถใช้ทดแทนได้

Trump's 100% China tariff threat sparks market jitters as exporters rush  shipments | South China Morning Post

บทสรุป เมื่อเหมืองแร่กลายเป็นสมรภูมิแห่งใหม่

คำขู่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจดูเหมือนเป็นเพียงวาทะที่ร้อนแรงในช่วงหาเสียง แต่เบื้องหลังของมันคือความจริงที่น่าอึดอัดที่ว่าสหรัฐฯ และโลกตะวันตกได้ปล่อยให้จีนกุมความได้เปรียบในทรัพยากรที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 21 ไปโดยไม่รู้ตัว

สถานการณ์นี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของภูมิรัฐศาสตร์โลกไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เคยมองว่าน้ำมันคือทรัพยากรที่กำหนดทิศทางความขัดแย้ง ตอนนี้ “แร่หายาก” ได้กลายเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ที่การต่อสู้ไม่ได้วัดกันด้วยกำลังทหาร แต่ด้วยอำนาจในการควบคุมห่วงโซ่อุปทานที่ขับเคลื่อนโลกดิจิทัลและเทคโนโลยีแห่งอนาคต การตัดสินใจที่เกิดขึ้นในวอชิงตันและปักกิ่งต่อจากนี้ จะเป็นตัวกำหนดว่าใครจะเป็นผู้กุมชะตาของโลกในทศวรรษต่อไป

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *