ไม่ใช่แค่การตรวจเรือรบ ถอดรหัสการปรากฏตัวของ “คิม จองอึน” กับความทะยานสู่ “กองทัพเรือนิวเคลียร์” และเงาของรัสเซียในคาบสมุทรเกาหลี

คิม จองอึน เยือนกองทัพ

คิม จองอึน เยือนกองทัพ สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ได้เผยแพร่ภาพล่าสุดของผู้นำสูงสุด คิม จองอึน เยือนกองทัพ โดยครั้งนี้เป็นการตรวจการณ์เรือคอร์เวต (Corvette) ชั้นตรวจการณ์ไกลฝั่งลำใหม่ล่าสุด ซึ่งโฆษณาชวนเชื่อของเปียงยางอ้างว่าเป็น “เรือพิฆาต” พร้อมกับคำประกาศกร้าวถึงความพร้อมในการตอบโต้ “ศัตรู” หากมีการยั่วยุแม้เพียงเล็กน้อย แต่สำหรับนักวิเคราะห์ความมั่นคงระหว่างประเทศแล้ว การปรากฏตัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่การตรวจสอบความพร้อมรบตามปกติ แต่มันคือการเปิดตัวสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์ชิ้นใหม่ และเป็นสัญญาณที่เปียงยางส่งถึงวอชิงตันและโซลอย่างจงใจ การพัฒนานี้สะท้อนถึงความทะเยอทะยานในการเร่งเครื่องพัฒนากองทัพเรือให้สามารถคุกคามฝ่ายตรงข้ามจากทะเลได้จริง ซึ่งเป็นความพยายามที่หลายฝ่ายเชื่อว่าอาจได้รับแรงหนุนและความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีอย่างมีนัยสำคัญจาก ความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-รัสเซีย ที่แน่นแฟ้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

North Korea's Kim visits destroyer built to 'punish provocations' | The Star

คิม จองอึน เยือนกองทัพ “เรือพิฆาต” ในนาม แต่ “เรือรบติดขีปนาวุธ” ในความเป็นจริง

ภาพที่เผยแพร่โดย KCNA แสดงให้เห็นคิม จองอึน กำลังตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ บนเรือรบลำใหม่ พร้อมแสดงความพึงพอใจในศักยภาพของเรือ แม้สื่อของรัฐจะเรียกว่า “เรือพิฆาต” (Destroyer) ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริงเพื่อประโยชน์ทางการโฆษณาชวนเชื่อ แต่นักวิเคราะห์จากภาพถ่ายดาวเทียมและผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธจากสถาบันต่างๆ เช่น 38 North และ NK News ได้ประเมินเบื้องต้นว่า

  • ประเภทของเรือรบ แท้จริงแล้วน่าจะเป็นเรือคอร์เวตชั้นตรวจการณ์ไกลฝั่ง (Offshore Patrol Corvette) ที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดเท่าที่เกาหลีเหนือเคยสร้างมา โดยมีระวางขับน้ำประมาณ 2,000 ตัน
  • หัวใจสำคัญคืออาวุธ สิ่งที่ทำให้เรือลำนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ไม่ใช่ขนาดของมัน แต่คือระบบอาวุธที่ติดตั้งอยู่บนเรือ นั่นคือ แท่นยิงขีปนาวุธร่อนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Cruise Missiles) จำนวน 8 ท่อยิง ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธตระกูล “ฮวาซัล” (Hwasal) หรือ “พุลฮวาซัล” (Pulhwasal)
  • ความอันตรายของขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธร่อนแตกต่างจากขีปนาวุธทิ้งตัว (Ballistic Missile) โดยมันสามารถบินในระดับต่ำ เรี่ยไปกับพื้นน้ำหรือพื้นดิน ทำให้ระบบเรดาร์ของศัตรูตรวจจับได้ยาก และสามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ การมีเรือรบที่สามารถเคลื่อนที่และยิงขีปนาวุธชนิดนี้ได้จากกลางทะเล จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัวและเพิ่มทางเลือกในการโจมตีให้กับเกาหลีเหนืออย่างมาก

จาก “กองทัพบกนำ” สู่ “ความทะเยอทะยานสีน้ำเงิน” ทำไมคิม จองอึนถึงทุ่มเทให้กับกองทัพเรือ?

ในอดีต กองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) ให้ความสำคัญกับกองทัพบกและหน่วยปืนใหญ่ที่มีขนาดมหึมาเป็นหลัก โดยที่ กองทัพเรือเกาหลีเหนือ มีบทบาทเป็นเพียงกองกำลังป้องกันชายฝั่งเท่านั้น แต่ทิศทางดังกล่าวได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในยุคของคิม จองอึน

การเยือนกองทัพของคิม จองอึนส่งสัญญาณอะไร? มันคือการตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่เขาประกาศไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2023 ที่ต้องการจะเปลี่ยนกองทัพเรือให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “กองกำลังนิวเคลียร์แห่งรัฐ” ซึ่งหมายถึงการมีศักยภาพในการยิงอาวุธนิวเคลียร์ได้จากทุกมิติ ทั้งทางบก, ใต้น้ำ และบนผิวน้ำ

เหตุผลเบื้องหลังความทะเยอทะยานนี้คือ

  1. การคานอำนาจทางทะเล เพื่อรับมือกับกองเรือที่ทรงแสนยานุภาพของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ การมีเรือรบและ เรือดำน้ำขีปนาวุธ ที่สามารถซ่อนตัวและเคลื่อนที่ได้ จะสร้างความซับซ้อนในการวางแผนทางทหารของฝ่ายตรงข้าม
  2. การสร้างศักยภาพการอยู่รอด (Survivability) สินทรัพย์ทางทหารที่เคลื่อนที่ได้ในทะเลนั้นยากต่อการถูกโจมตีเพื่อทำลายล้างในระลอกแรก (First Strike) ซึ่งจะทำให้เกาหลีเหนือยังคงมี “เขี้ยวเล็บ” ในการโจมตีตอบโต้ (Second Strike) อยู่เสมอ
  3. การเพิ่มอำนาจต่อรอง การมีเทคโนโลยีทางทหารที่หลากหลายและอันตรายมากขึ้น ย่อมเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับเปียงยางบนเวทีเจรจาระหว่างประเทศ

Kim Jong Un Inspects New Destroyer at Defence Exhibition Amid Rising  Tensions | Ukraine news - #Mezha

เงาของหมีขาว ความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีจากรัสเซีย?

การเปิดตัวเรือรบที่ดูทันสมัยขึ้นอย่างก้าวกระโดดครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างเปียงยางและมอสโกกำลังเบ่งบานถึงขีดสุด ซึ่งจุดประกายคำถามสำคัญว่า ความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร?

  • ข้อตกลงแลกเปลี่ยน มีรายงานที่น่าเชื่อถือจากหน่วยข่าวกรองตะวันตกหลายแห่งว่า เกาหลีเหนือได้จัดส่งกระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธจำนวนมหาศาลให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในสงครามยูเครน
  • สิ่งตอบแทน นักวิเคราะห์เชื่อว่าสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการแลกเปลี่ยนไม่ใช่แค่เรื่องอาหารหรือพลังงาน แต่เป็น “เทคโนโลยีทางทหาร” ที่เปียงยางยังขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสำหรับโครงการดาวเทียมสอดแนม, เทคโนโลยีเครื่องยนต์สำหรับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ และที่สำคัญคือเทคโนโลยีสำหรับเรือรบผิวน้ำสมัยใหม่ เช่น ระบบโซนาร์, เรดาร์ และระบบควบคุมการยิง
  • ความเป็นไปได้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การออกแบบตัวเรือและระบบปล่อยขีปนาวุธบนเรือลำใหม่นี้ มีความคล้ายคลึงกับเรือคอร์เวตบางชั้นของรัสเซีย ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการถ่ายทอดแบบแปลนหรือการให้คำปรึกษาทางเทคนิคจากมอสโก แม้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจนก็ตาม

สารถึง “ศัตรู” และวาทกรรม “การยั่วยุ”

คำพูดของคิม จองอึน ที่ว่าพร้อมจะ “ตอบโต้ทันทีและอย่างเด็ดขาดหากมีการยั่วยุ” เป็นวาทกรรมที่เปียงยางใช้มาโดยตลอด และมักจะถูกตีความว่าเป็นการอ้างถึง สหรัฐอเมริกา-เกาหลีใต้ซ้อมรบ ซึ่งเพิ่งมีการซ้อมรบทางเรือร่วมกันไปเมื่อไม่นานมานี้

การเดินทางไปตรวจเรือรบครั้งนี้จึงเป็นการส่งสารหลายระดับ

  • ถึงวอชิงตันและโซล เป็นการแสดงให้เห็นว่าการซ้อมรบของพวกคุณไม่ได้ทำให้เราหวาดกลัว แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เราต้องพัฒนาอาวุธใหม่ๆ ที่อันตรายยิ่งขึ้นมาตอบโต้
  • ถึงผู้ชมในประเทศ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของผู้นำที่เข้มแข็ง เอาใจใส่กองทัพ และพร้อมปกป้องประเทศจากภัยคุกคามภายนอก เพื่อเสริมสร้างความชอบธรรมและปลุกเร้าความรักชาติ

Defensehere on X: "📌North Korean leader Kim Jong Un inspected the Choe  Hyon destroyer during a defense exhibition on Sunday, calling on the navy  to be prepared to “deter, counter, and punish”

บทสรุป ตัวแปรใหม่ที่ทำให้คาบสมุทรเกาหลีซับซ้อนยิ่งขึ้น

คิม จองอึน เยือนกองทัพ การเปิดตัวเรือรบติดขีปนาวุธร่อนลำใหม่นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของเกาหลีเหนือในการเดินทางสู่การเป็นมหาอำนาจทางทหารที่มีศักยภาพนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่ากองทัพเรือของเปียงยางจะยังคงห่างชั้นกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้อีกหลายขุม แต่มันได้เพิ่ม “ตัวแปร” ใหม่เข้ามาในสมการความมั่นคงที่ซับซ้อนอยู่แล้ว

ความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเร่งพัฒนาศักยภาพทางทหารของเกาหลีเหนือ ถือเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดสำหรับสหรัฐฯ และพันธมิตร มันไม่เพียงแต่จะทำให้ สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ตึงเครียดและคาดเดายากขึ้น แต่ยังเป็นการบ่อนทำลายมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ และอาจนำไปสู่การแข่งขันทางอาวุธครั้งใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือในที่สุด โลกกำลังจับตามองว่า เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ จากเรือรบลำนี้อย่างเป็นทางการเมื่อใด ซึ่งจะเป็นการยืนยันถึงภัยคุกคามบทใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้นในน่านน้ำแห่งนี้

 

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *