ECB แนะถือเงินสด สัญญาณวิกฤต หรือบทเรียนความมั่นคงในโลกการเงินดิจิทัล?

ECB แนะถือเงินสด

ECB แนะถือเงินสด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการการเงินและประชาชนในกลุ่มประเทศยูโรโซน โดยแนะนำให้ครัวเรือนและภาคธุรกิจสำรอง “เงินสด” ไว้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤตที่ไม่คาดฝัน คำแนะนำที่ไม่ธรรมดานี้ไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เชิงรุกที่ซับซ้อน เพื่อสร้าง “ความมั่นคงทางการเงิน” (Financial Stability) ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ บทความนี้จะวิเคราะห์เจาะลึกถึงเบื้องหลังคำแนะนำของ ECB ว่าเหตุใดในยุคแห่งนวัตกรรมการชำระเงินและเงินยูโรดิจิทัล เงินสดที่จับต้องได้จึงยังคงมีความสำคัญในฐานะ “สมอแห่งความเชื่อมั่น” และเป็นปราการด่านสุดท้ายเมื่อระบบดิจิทัลล่มสลาย

ECB: Keep cash at home for emergencies « Euro Weekly News

ECB แนะถือเงินสด เบื้องหลังคำแนะนำที่ไม่ธรรมดา ทำไม ‘เงินสด’ ถึงยังคงเป็นราชา?

ในโลกที่การชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนและบัตรคอนแทคเลสกลายเป็นเรื่องปกติ คำแนะนำให้ “ถือเงินสด” จากธนาคารกลางที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอาจฟังดูย้อนยุค แต่เมื่อพิจารณาถึงภูมิทัศน์ความเสี่ยงในปัจจุบัน จะเห็นว่านี่คือการวางแผนบริหารความเสี่ยงที่สุขุมและมองการณ์ไกล โดยมีเหตุผลสำคัญหลายประการ

ภัยคุกคามที่มองไม่เห็น อัมพาตจากไซเบอร์และไฟฟ้าดับ ระบบการชำระเงินดิจิทัลที่ทันสมัยและสะดวกสบายนั้น พึ่งพิงโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนและเปราะบางอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, ระบบไฟฟ้า, และเซิร์ฟเวอร์ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเป้าหมายสำคัญของภัยคุกคามยุคใหม่

  • การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyberattacks) ภาคการเงินเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของแฮกเกอร์และกลุ่มอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลบางประเทศ การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์หรือการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ที่ประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียว อาจทำให้ระบบธนาคารหรือเครือข่ายการชำระเงินเป็นอัมพาตได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน
  • ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง (Blackouts) ภัยธรรมชาติ, สภาพอากาศสุดขั้ว (Extreme Weather) หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อโครงข่ายพลังงาน สามารถทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างได้ ซึ่งจะส่งผลให้ตู้ ATM, เครื่องรูดบัตร (POS), และแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือไม่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด

ในสถานการณ์เหล่านี้ นายปิเอโร ชิโปลโลเน (Piero Cipollone) สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ ECB ได้กล่าวในสุนทรพจน์ล่าสุดว่า “เงินสดมีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนใคร มันทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในยามฉุกเฉิน มันคือสมอแห่งเสถียรภาพขั้นสุดท้ายของระบบการชำระเงินของเรา”

อิสรภาพ ความเป็นส่วนตัว และการเข้าถึงสำหรับทุกคน นอกเหนือจากประเด็นด้านความมั่นคงแล้ว ECB ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของเงินสดในมิติทางสังคม

  • ความเป็นส่วนตัว (Privacy) การทำธุรกรรมด้วยเงินสดไม่ทิ้งร่องรอยทางดิจิทัล (Digital footprint) ซึ่งเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นสินค้า
  • การเข้าถึงทางการเงิน (Financial Inclusion) เงินสดยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ, ผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอาจไม่มีทักษะหรืออุปกรณ์ในการเข้าถึงระบบการชำระเงินดิจิทัล

Keep cash at home”: this is the amount recommended by the European Central  Bank

ยุทธศาสตร์สองขา ‘เงินยูโรดิจิทัล’ กับ ‘เงินสด’ จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร?

คำแนะนำให้ถือเงินสดของ ECB ไม่ได้ขัดแย้งกับโครงการพัฒนา “เงินยูโรดิจิทัล” (Digital Euro) ที่กำลังดำเนินอยู่แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม มันคือส่วนหนึ่งของ “ยุทธศาสตร์สองขา” (Two-legged Strategy) ที่ต้องการสร้างระบบนิเวศการชำระเงินที่ทั้ง “ทันสมัย” และ “มั่นคง”

เงินยูโรดิจิทัล คือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ที่ ECB กำลังศึกษาและพัฒนา โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นทางเลือกการชำระเงินดิจิทัลที่ปลอดภัย, มีประสิทธิภาพ และได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางโดยตรง เพื่อคานอำนาจของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และสกุลเงินดิจิทัลเอกชน

นางคริสติน ลาการ์ด (Christine Lagarde) ประธาน ECB ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า “เงินยูโรดิจิทัลจะถูกออกแบบมาเพื่อ ‘เติมเต็ม’ (complement) เงินสด ไม่ใช่เพื่อ ‘แทนที่’ (replace) มัน ประชาชนชาวยุโรปจะยังคงมีสิทธิ์ในการเลือกวิธีการชำระเงินที่พวกเขาต้องการเสมอ”

ยุทธศาสตร์นี้มองว่า ในอนาคต ประชาชนจะสามารถใช้เงินยูโรดิจิทัลเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีเงินสดเป็น “แผนสำรอง” ที่เชื่อถือได้เสมอ ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการเงินโดยรวม

ภาพสะท้อนจากทั่วยุโรป สังคมไร้เงินสด ปะทะ วัฒนธรรมนิยมเงินสด

คำแนะนำของ ECB เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วภายในยูโรโซนเอง

  • กลุ่มประเทศสังคมไร้เงินสด (Cashless Societies) ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (แม้จะอยู่นอกยูโรโซน) และเนเธอร์แลนด์ การใช้เงินสดลดลงอย่างมากจนธนาคารบางแห่งเริ่มปิดสาขาและยกเลิกตู้ ATM อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์จากสวีเดนแสดงให้เห็นว่า การพึ่งพาระบบดิจิทัลมากเกินไปสร้างความเปราะบางใหม่ๆ จนรัฐบาลต้องออกกฎหมายบังคับให้ธนาคารต้องให้บริการเงินสดต่อไป
  • กลุ่มประเทศนิยมเงินสด (Pro-cash Cultures) ในทางกลับกัน ประเทศอย่างเยอรมนี, ออสเตรีย, และอิตาลี ประชาชนยังคงมีความผูกพันกับเงินสดอย่างเหนียวแน่น โดยมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพ, ความเป็นส่วนตัว และความมั่นคงทางการเงิน

ความแตกต่างทางวัฒนธรรมนี้เป็นความท้าทายที่ ECB ต้องบริหารจัดการ ซึ่งคำแนะนำล่าสุดนี้ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณไปยังกลุ่มประเทศที่กำลังมุ่งสู่สังคมไร้เงินสดอย่างรวดเร็ว ให้ชะลอและทบทวนถึงความสำคัญของการรักษาโครงสร้างพื้นฐานของเงินสดเอาไว้

ผลกระทบต่อนักลงทุนและประชาชน เราควรทำอย่างไร?

สิ่งสำคัญคือต้องตีความคำแนะนำของ ECB อย่างถูกต้อง นี่ไม่ใช่การบอกให้ประชาชนตื่นตระหนกและถอนเงินทั้งหมดออกจากธนาคาร แต่เป็นการส่งเสริม “สุขอนามัยทางการเงิน” ที่ดี

  • การสำรองเงินสดฉุกเฉิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงินแนะนำให้มีเงินสดสำรองไว้ที่บ้านในจำนวนที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (อาหาร, น้ำ, ยา) เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • กระจายความเสี่ยง ไม่ควรเก็บสินทรัพย์ทั้งหมดไว้ในรูปแบบดิจิทัลหรือในธนาคารเดียว การมีเงินสดสำรองเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายความเสี่ยง
  • สำหรับนักลงทุน คำแนะนำนี้แทบไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อตลาดการลงทุน แต่เป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของ “ความเสี่ยงเชิงระบบ” (Systemic risk) และกระตุ้นให้ภาคการเงินลงทุนในระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์มากยิ่งขึ้น

The advice of the ECB: "Keep calm and carry cash" - PPulse

บทสรุป ความมั่นคงที่จับต้องได้ในโลกที่ไม่แน่นอน

ECB แนะถือเงินสด ในยุคที่ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล คำแนะนำของธนาคารกลางยุโรปให้ “ถือเงินสด” เปรียบเสมือนการดึงสติและเตือนให้เราระลึกถึงความจริงพื้นฐานที่ว่า ความสะดวกสบายมักแลกมาด้วยความเปราะบางที่มองไม่เห็น

นี่ไม่ใช่การหันหลังให้กับอนาคต แต่เป็นการก้าวสู่อนาคตอย่างรอบคอบและมั่นคงยิ่งขึ้น ธนบัตรยูโรในกระเป๋าเงิน อาจดูเหมือนเป็นของล้าสมัยในสายตาของนักนวัตกรรม แต่สำหรับ ECB มันคือกรมธรรม์ประกันภัยที่ถูกที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุด ที่จะค้ำประกันเสถียรภาพของสังคมและเศรษฐกิจทั่วยุโรป เมื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ในโลกที่ไม่แน่นอนใบนี้

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *