คดี คิม กอน ฮี เปิดฉากไต่สวนสะเทือนเกาหลีใต้ และคำสาปทำเนียบสีน้ำเงินที่ยังไม่สิ้นสุด

คดี คิม กอน ฮี

คดี คิม กอน ฮี แสงแฟลชจากกล้องนับร้อยตัวสาดส่องไปยังร่างของ คิม กอน ฮี (Kim Keon Hee) ขณะที่เธอเดินก้าวเข้าสู่ศาลกลางกรุงโซลในฐานะจำเลย นี่คือภาพประวัติศาสตร์ที่ตอกย้ำปรากฏการณ์ที่หลายคนเรียกว่า “คำสาปทำเนียบสีน้ำเงิน” อีกครั้ง การไต่สวนนัดแรกของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเกาหลีใต้ในข้อหารับสินบนและปั่นหุ้น Deutsch Motors ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ท่ามกลางความสนใจของสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ บทความนี้ไม่ได้เป็นเพียงการรายงานความคืบหน้าของคดี คิม กอน ฮี แต่จะเจาะลึกถึงรากของปัญหาที่ฝังลึกในการเมืองเกาหลีใต้ ที่ซึ่งอำนาจ, อิทธิพล และเรื่องอื้อฉาวของผู้นำและครอบครัว มักจะกลายเป็นมรดกที่ถูกส่งต่อและสั่นคลอนความเชื่อมั่นของชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่า

South Korea’s ex-First Lady Kim Keon-hee in court on corruption charges

คดี คิม กอน ฮี จากสตรีหมายเลขหนึ่งสู่จำเลย ข้อกล่าวหาใดบ้างที่ คิม กอน ฮี กำลังเผชิญ?

การไต่สวนที่เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 กันยายน 2025 ถือเป็นจุดสูงสุดของมหากาพย์เรื่องอื้อฉาวที่ตามหลอกหลอนอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง โดยข้อกล่าวหาหลักที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาลแบ่งออกเป็นสองส่วนสำคัญ ซึ่งต่างก็มีน้ำหนักและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเธออย่างรุนแรง

“กับดักกระเป๋า Dior” คดีรับสินบนที่สั่นคลอนทำเนียบประธานาธิบดี

ข้อกล่าวหาที่โด่งดังและเข้าใจง่ายที่สุดคือกรณี “กระเป๋า Dior” เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดโปงผ่านคลิปวิดีโอที่บันทึกด้วยกล้องซ่อนโดยบาทหลวงชาวเกาหลี-อเมริกันชื่อ ชเว แจ-ยอง ในคลิปดังกล่าวซึ่งบันทึกไว้ในปี 2022 บาทหลวงชเวได้มอบกระเป๋า Dior รุ่น Lady Dior Pouch มูลค่าประมาณ 3 ล้านวอน (ราว 80,000 บาท) ให้แก่ คิม กอน ฮี ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแล้ว

คลิปวิดีโอนี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไปทั่วสังคมเกาหลีใต้ ฝ่ายอัยการโต้แย้งว่าการรับของขวัญมูลค่าสูงเช่นนี้เข้าข่ายการละเมิดกฎหมายต่อต้านการทุจริตและรับสินบนอย่างชัดเจน ขณะที่ฝ่ายของ คิม กอน ฮี พยายามแก้ต่างว่านี่เป็น “กับดัก” ที่ถูกวางไว้เพื่อสร้างความเสื่อมเสียทางการเมือง และเธอไม่ได้ใช้ประโยชน์จากของขวัญดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภาพที่ปรากฏในคลิปได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเธออย่างไม่อาจปฏิเสธได้

เงื่อนงำในตลาดหุ้น ข้อกล่าวหาปั่นหุ้น Deutsch Motors

ข้อกล่าวหาที่สองมีความซับซ้อนและย้อนกลับไปไกลกว่านั้น โดยเกี่ยวข้องกับบทบาทของ คิม กอน ฮี ในคดีปั่นหุ้น Deutsch Motors ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ BMW รายใหญ่ในเกาหลีใต้ อัยการกล่าวหาว่าในช่วงระหว่างปี 2009 ถึง 2012 ก่อนที่สามีของเธอจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี คิม กอน ฮี ได้มีส่วนร่วมในฐานะ “ผู้สนับสนุนทางการเงิน” ในขบวนการปั่นราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าว ซึ่งนำโดยอดีตประธานบริษัทและนักการเงินหลายราย

แม้ว่าทีมทนายของ คิม กอน ฮี จะยืนยันว่าเธอเป็นเพียงนักลงทุนรายหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อและขาดทุนจากการลงทุนครั้งนั้น แต่ฝ่ายอัยการอ้างว่ามีหลักฐานการทำธุรกรรมและบันทึกการสื่อสารที่บ่งชี้ว่าเธอรับรู้ถึงแผนการดังกล่าวและให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อให้แผนการดำเนินต่อไปได้ คดีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะมันชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเธอและแวดวงธุรกิจสีเทา ก่อนที่เธอจะก้าวเข้ามามีบทบาทในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง

South Korea's First Lady cleared of stock manipulation allegations | The  Straits Times

ไม่ใช่ครั้งแรก วงจรอื้อฉาวและ “คำสาปทำเนียบสีน้ำเงิน”

คอร์รัปชันเกาหลีใต้ในระดับผู้นำไม่ใช่เรื่องใหม่ คดี คิม กอน ฮี เป็นเพียงบทล่าสุดของประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดที่เรียกว่า “คำสาปทำเนียบสีน้ำเงิน” (The Curse of the Blue House) ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ที่อดีตประธานาธิบดีของเกาหลีใต้และครอบครัวมักจะต้องเผชิญกับข้อหาคอร์รัปชันและการใช้อำนาจในทางมิชอบหลังจากพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว

  • พัค กึน-ฮเย (Park Geun-hye) ถูกถอดถอนจากตำแหน่งและรับโทษจำคุกจากคดีคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนสนิทและกลุ่มบริษัทแชโบล
  • อี มย็อง-บัก (Lee Myung-bak) รับโทษจำคุกจากข้อหารับสินบนและยักยอกทรัพย์
  • โน มู-ฮย็อน (Roh Moo-hyun) กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายระหว่างการสอบสวนคดีคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา

วงจรนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในการเมืองเกาหลีใต้ ที่ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจรัฐและกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ หรือ “แชโบล” (Chaebol) มักจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และการทุจริตอย่างเป็นระบบ

มรดกของ ยุน ซอก ยอล และอนาคตการเมืองเกาหลีใต้

เรื่องอื้อฉาวของภรรยาได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคะแนนนิยมของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล และพรรคต้นสังกัดของเขาอย่าง พรรคพลังประชาชน (People Power Party) ตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงที่เรื่องนี้ร้อนแรงที่สุดแสดงให้เห็นว่า ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ต้องการให้มีการสอบสวนที่เป็นอิสระและโปร่งใส ซึ่งแรงกดดันจากสาธารณชนนี้เองที่เป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้อัยการเกาหลีใต้เดินหน้ายื่นฟ้องในที่สุด

Calls grow to indict first lady after court ruling on stock manipulation  case - The Korea Times

บททดสอบกระบวนการยุติธรรมและความเชื่อมั่นของสาธารณชน

การไต่สวนคดีนี้จึงเป็นมากกว่าการตัดสินความผิดของบุคคลคนหนึ่ง แต่เป็นการทดสอบความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมเกาหลีใต้ ว่าจะสามารถดำเนินการกับผู้มีอำนาจระดับสูงสุดได้อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ ผลลัพธ์ของคดีนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อสถาบันทางการเมืองและหลักนิติธรรมของประเทศ

บทสรุป (Conclusion) การขึ้นศาลครั้งแรกของ คิม กอน ฮี เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการทางกฎหมายที่คาดว่าจะยืดเยื้อและซับซ้อน ผลกระทบคดีคิม กอน ฮี ต่อการเมืองเกาหลีใต้ จะยังคงปรากฏให้เห็นต่อไปอีกนาน ไม่ว่าคำตัดสินสุดท้ายจะออกมาเป็นเช่นไร คดีนี้ได้จารึกตัวเองเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของ “คำสาปทำเนียบสีน้ำเงิน” และเป็นเครื่องเตือนใจอันเจ็บปวดว่า การต่อสู้เพื่อความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในเวทีการเมืองระดับสูงสุดของเกาหลีใต้ยังคงเป็นสมรภูมิที่ต้องต่อสู้กันต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *