UN ชี้ ‘ท่องเที่ยวโลก 2568’ โตทะลุคาดการณ์ สวนกระแสเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย

มาดริด/เจนีวา – องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ของภาคการ ท่องเที่ยวโลก 2568 ในช่วงครึ่งแรกของปี โดยจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศทะยานเข้าใกล้ระดับก่อนการระบาดใหญ่ แม้ต้องเผชิญกับลมต้านจากภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกและต้นทุนการเดินทางที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเติบโตที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละภูมิภาค โดยมีเอเชียแปซิฟิกเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ได้สะท้อนภาพความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรม และในขณะเดียวกันก็สร้างโจทย์ท้าทายใหม่ในมิติของเศรษฐกิจมหภาคและความยั่งยืน

ภาพรวมการฟื้นตัว ตัวเลขที่น่าทึ่งและพลังขับเคลื่อนหลัก

รายงาน “World Tourism Barometer” ฉบับล่าสุดจาก UNWTO ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน) มีจำนวนสูงถึงประมาณ 700 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 95% ของตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 อันเป็นปีก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 การฟื้นตัวที่น่าประทับใจนี้มีแรงหนุนสำคัญมาจากความต้องการเดินทางที่อัดอั้น (Pent-up Demand) การกลับมาเปิดเส้นทางบินอย่างเต็มรูปแบบ และการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางในหลายประเทศที่เคยเป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย

นายซูรับ โปโลลิคาชวิลี เลขาธิการ UNWTO กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งถึงการเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจโลกและเป็นพลังแห่งความเชื่อมโยงของผู้คนทั่วโลก ตัวเลขในช่วงครึ่งปีแรกไม่เพียงแต่น่าพึงพอใจ แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าภาคการท่องเที่ยวสามารถปรับตัวและเติบโตได้แม้ในสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง”

ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญประกอบด้วย

• อุปสงค์คงค้าง (Pent-up Demand) หลังจากข้อจำกัดต่างๆ ถูกยกเลิก ความต้องการออกเดินทางเพื่อพักผ่อน สันทนาการ และเยี่ยมเยียนครอบครัวยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งที่สุด
• ตลาดเอเชียเปิดเต็มรูปแบบ การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อัดฉีดเม็ดเงินและจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลกอย่างมหาศาล
• กิจกรรม MICE และธุรกิจ การเดินทางเพื่อการประชุม, การให้รางวัล, การจัดประชุม และการจัดแสดงสินค้า (MICE) กลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้การเดินทางเชิงธุรกิจฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ

เอเชียแปซิฟิกผงาด เครื่องยนต์ใหม่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ยุโรปและอเมริกายังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม การเติบโตที่โดดเด่นที่สุดในครึ่งปีแรกของปี 2568 มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีอัตราการฟื้นตัวที่ก้าวกระโดดถึง 115% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และกลับมาอยู่ที่ราว 88% ของระดับก่อนการระบาดแล้ว

การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนี้มีประเทศไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น และมาเลเซียเป็นหัวหอกสำคัญ โดยได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงกระแสความสนใจในวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และค่าครองชีพที่สามารถแข่งขันได้

อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่รวดเร็วนี้ได้นำมาซึ่งความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานและความยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ตั้งข้อสังเกตว่า “การบริหารจัดการการท่องเที่ยวเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Overtourism หรือการท่องเที่ยวล้นกรอบ จะเป็นโจทย์สำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้แน่ใจว่าการเติบโตนี้จะนำไปสู่ประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม”

ความท้าทายที่ซ่อนอยู่ใต้พรม เงินเฟ้อและต้นทุนที่เปลี่ยนพฤติกรรมนักเดินทาง

แม้ภาพรวมจะสดใส แต่รายงานของ UNWTO ก็ไม่ได้มองข้ามความท้าทายเชิงโครงสร้างที่กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อการท่องเที่ยวโลก 2568 ถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลที่สุด ต้นทุนพลังงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 10-15% ทั่วโลก ขณะที่ราคาโรงแรมและที่พักก็เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อในแต่ละประเทศ

ปัจจัยเหล่านี้กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน

• ระยะเวลาการเดินทางสั้นลง นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่จะลดจำนวนวันในการเดินทางเพื่อควบคุมงบประมาณโดยรวม
• การเลือกจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่า ประเทศที่ให้ความคุ้มค่าด้านค่าเงิน (Value for Money) ได้รับความสนใจมากขึ้น
• การวางแผนล่วงหน้าน้อยลง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้เกิดแนวโน้ม “Booking Window” ที่สั้นลง นักท่องเที่ยวตัดสินใจจองการเดินทางใกล้กับวันเดินทางจริงมากขึ้น

ดร. อนา คาร์วัลโญ นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การท่องเที่ยวจาก Bloomberg Intelligence ให้ทัศนะว่า “เรากำลังเห็นการแบ่งขั้วของตลาดอย่างชัดเจน ตลาดนักท่องเที่ยวระดับหรูยังคงแข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบจากราคามากนัก แต่ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มกลางและกลุ่มประหยัดกำลังเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก พวกเขาไม่ได้หยุดเดินทาง แต่กำลังปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางอย่างชาญฉลาด”

ยุโรปเผชิญลมต้าน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

ในขณะที่ภูมิภาคอื่นเติบโตอย่างร้อนแรง การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในยุโรปกลับเริ่มแสดงสัญญาณชะลอตัว แม้จะยังคงเป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก แต่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อในยุโรปตะวันออกยังคงสร้างความกังวลด้านความปลอดภัย ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำในเขตยูโรโซนได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเอง

รายงานระบุว่า แม้จุดหมายปลายทางหลักอย่างฝรั่งเศส สเปน และอิตาลีจะยังคงคึกคัก แต่ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียและยุโรปตะวันออกบางส่วนกลับมียอดนักท่องเที่ยวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้เสมอ

มองไปข้างหน้า การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในสมการใหม่ของโลก

บทสรุปของรายงานจาก UNWTO ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวเลขการฟื้นตัว แต่ยังเน้นย้ำถึงโอกาสในการ “สร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ดีกว่าเดิม” (Build Back Better) ประเด็นเรื่อง การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้กลายเป็นวาระสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง

แนวโน้มสำคัญในอนาคตที่ถูกกล่าวถึงใน รายงานล่าสุดของ UNWTO เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้แก่

1. เทคโนโลยีดิจิทัล การใช้ AI ในการวางแผนการเดินทาง, ประสบการณ์เสมือนจริง (VR/AR) และการชำระเงินแบบไร้รอยต่อ จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
2. ความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมของธุรกิจท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
3. การกระจายตัวของนักท่องเที่ยว นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการเดินทางนอกฤดูกาล (Off-season) จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความแออัดและกระจายรายได้สู่ชุมชนให้กว้างขึ้น

โดยสรุป สถานการณ์ ท่องเที่ยวโลก 2568 ในครึ่งปีแรกคือเรื่องราวของความสำเร็จในการฟื้นตัวที่น่าประทับใจ แต่ก็เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ ที่ซับซ้อนกว่าเดิม การรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ การรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น และการมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืน จะเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในทศวรรษนี้

แหล่งที่มาจาก : am2con