อิสราเอลบุกกาซา วิเคราะห์วิกฤตมนุษยธรรมระลอกใหม่ เมื่อรถถังปิดฉากความหวัง

อิสราเอลบุกกาซา

กาซาซิตี้, ฉนวนกาซา – เสียงตีนตะขาบเหล็กของรถถังที่บดขยี้ซากปรักหักพังบนถนนในฉนวนกาซา ไม่ได้เป็นเพียงเสียงของสงคราม แต่เป็นเสียงที่กำลังกลบฝังความหวังสุดท้ายของพลเรือนหลายล้านคน การตัดสินใจของ กองทัพอิสราเอล (IDF) ในการเปิด ปฏิบัติการทางทหารในกาซา ด้วยการส่งกำลังภาคพื้นดินเข้ายึดพื้นที่ ถือเป็นการยกระดับ ความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ สู่จุดที่อันตรายและน่าหดหู่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สถานการณ์กาซาล่าสุด ไม่ใช่แค่การสู้รบระหว่างสองฝ่าย แต่ได้กลายเป็น วิกฤตมนุษยธรรม เต็มรูปแบบ ที่หน่วยงานระหว่างประเทศต่างตะโกนเตือนว่าโลกกำลังจะล้มเหลวในการปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์

ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ภาพที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกคือขบวนรถถังเมอร์คาวาและยานเกราะของอิสราเอลที่เคลื่อนพลลึกเข้ามาในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นบ้านเรือนและชุมชนที่มีชีวิตชีวา การจุดระเบิดทำลายรถยนต์เก่าที่จอดทิ้งไว้เพื่อเปิดเส้นทาง ยิ่งสร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนที่ยังคงติดค้างอยู่เบื้องหลัง จนเกิดเป็นภาพคลื่นมนุษย์ที่อุ้มลูกจูงหลานวิ่งหนีตายลงไปทางใต้ ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เหลือเพียงชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

Israel sends tanks deeper into Gaza City, more families flee | Reuters

อิสราเอลบุกกาซา “ปฏิบัติการดาบเหล็ก” สู่ภาคพื้นดิน ยุทธศาสตร์และเป้าหมายของ IDF

เบื้องหลังภาพความรุนแรง รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนของปฏิบัติการภาคพื้นดินครั้งนี้ว่า คือการ “ถอนรากถอนโคน” กลุ่ม ฮามาส ให้สิ้นซาก เพื่อรับประกันความมั่นคงของอิสราเอลในระยะยาว ยุทธศาสตร์ที่ IDF นำมาใช้ประกอบด้วยหลายมิติ

  • การตัดแบ่งพื้นที่ กองกำลังภาคพื้นดินพยายามตัดแบ่งฉนวนกาซาออกเป็นส่วนเหนือและส่วนใต้ เพื่อโดดเดี่ยวที่มั่นของกลุ่มฮามาสในกาซาซิตี้ และจำกัดการเคลื่อนไหวของนักรบ
  • การทำลายโครงสร้างใต้ดิน เป้าหมายสำคัญคือการค้นหาและทำลายเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นทั้งที่หลบภัย คลังอาวุธ และเส้นทางลำเลียงของกลุ่มฮามาส
  • ปฏิบัติการในเขตเมือง การสู้รบในพื้นที่ที่ประชากรหนาแน่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงสูงสุดต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือน
  • สงครามจิตวิทยา การทำลายสัญลักษณ์ต่างๆ และการรุกคืบอย่างหนักหน่วง เป็นการส่งสารไปยังกลุ่มฮามาสและชาวกาซาว่าอิสราเอลมีความตั้งใจจริงที่จะควบคุมพื้นที่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การทหารหลายคนตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ของเป้าหมายที่จะกำจัดกลุ่มฮามาสให้หมดสิ้นไป เนื่องจากฮามาสไม่ได้เป็นเพียงกองกำลังติดอาวุธ แต่ยังเป็นขบวนการทางการเมืองที่หยั่งรากลึกในสังคมปาเลสไตน์มานานหลายทศวรรษ

ภาพจากนรกบนดิน เสียงสะท้อนจากพลเรือนผู้ไร้ทางหนี

หากยุทธศาสตร์ของกองทัพคือแผนการบนกระดาษ ความเป็นจริงบนพื้นดินคือฝันร้ายของพลเรือน “เราหนีจากบ้านทางเหนือเพราะพวกเขาบอกให้เราไปทางใต้ พอมาถึงทางใต้ พวกเขาก็บอกว่าที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เราจะไปที่ไหนได้อีก? ทะเลอยู่ข้างหน้า กำแพงอยู่ข้างหลัง และความตายอยู่ทุกหนทุกแห่ง” นี่คือคำพูดของฟาติมา อัล-มาสรี แม่ลูกสามที่หนีมาถึงเมือง ราฟาห์ ซึ่งขณะนี้มีผู้คนแออัดยัดเยียดกันมากกว่า 1.5 ล้านคนในพื้นที่ที่ออกแบบมาสำหรับคนเพียงสองแสนคน

เสียงจากบุคลากรทางการแพทย์ยิ่งน่าสะเทือนใจ “เราทำการผ่าตัดโดยไม่มียาสลบ ใช้แสงจากโทรศัพท์มือถือเพราะไฟฟ้าดับ เด็กๆ มาถึงโรงพยาบาลในสภาพที่ร่างกายแหลกเหลว พ่อแม่ร้องไห้ถามหาลูกที่หายไป นี่ไม่ใช่วิกฤต นี่คือการล่มสลายของความเป็นมนุษย์” นายแพทย์อาเหม็ด มูห์เซน จากโรงพยาบาลที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งกล่าว

More families flee as Israel sends tanks deeper into Gaza City

วิกฤตมนุษยธรรมถึงจุดแตกหัก โรงพยาบาลล่มสลาย-ความช่วยเหลือถูกตัดขาด

สถานการณ์ใน ฉนวนกาซา ได้เดินทางมาถึงจุดที่ระบบพื้นฐานของสังคมไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป

  • ระบบสาธารณสุข โรงพยาบาลส่วนใหญ่ยุติการให้บริการเนื่องจากถูกโจมตี ขาดแคลนเวชภัณฑ์ และไม่มีเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปั่นไฟ ทำให้ผู้ป่วยหนักและทารกแรกเกิดในตู้อบเสียชีวิตลงทุกวัน
  • น้ำและอาหาร ระบบประปาและบำบัดน้ำเสียถูกทำลาย ประชาชนต้องดื่มน้ำที่ไม่สะอาดเสี่ยงต่อการระบาดของอหิวาตกโรคและโรคทางเดินอาหาร อาหารช่วยเหลือที่ส่งเข้าไปได้นั้นน้อยนิดเหมือนหยดน้ำในทะเลทราย
  • ที่พักพิง ศูนย์พักพิงของสหประชาชาติซึ่งควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัยกลับถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนนับล้านต้องนอนกลางดินกินกลางทราย ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นลง

ประชาคมโลกตอบสนองอย่างไร? เสียงเรียกร้องหยุดยิงที่ไร้ผล

เวทีสหประชาชาติร้อนระอุไปด้วยการประชุมฉุกเฉิน มติเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมถูกเสนอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กลับถูกวีโต้โดยสหรัฐอเมริกา ซึ่งยืนยันในสิทธิของอิสราเอลที่จะป้องกันตนเอง สหรัฐฯ มีท่าทีต่อสงครามกาซาอย่างไร คำตอบที่ชัดเจนคือการสนับสนุนทางการทูตและการทหารแก่อิสราเอลอย่างเต็มที่ แม้จะแสดงความกังวลต่อชีวิตพลเรือนอยู่บ้างก็ตาม

ในขณะที่กลุ่มประเทศอาหรับและประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ประณามการกระทำของอิสราเอลอย่างรุนแรง แต่กลับไม่มีอำนาจมากพอที่จะหยุดยั้งการปฏิบัติการทางทหารได้ ทำให้เกิดภาพความแตกแยกที่ชัดเจนในเวทีการเมืองโลก และความไร้ประสิทธิภาพขององค์กรระหว่างประเทศในการยุติความขัดแย้ง

Israel sends tanks deeper into Gaza City | Kyabram Free Press

บทสรุป มองไปข้างหน้าในอุโมงค์ที่ไร้แสงสว่าง

อิสราเอลบุกกาซา ในครั้งนี้ ได้สร้างบาดแผลที่ลึกเกินกว่าจะเยียวยาได้ในเร็ววัน ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาล่าสุด ที่เพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงเป็นเพียงตัวเลขที่สะท้อนส่วนหนึ่งของความสูญเสีย แต่ความสูญเสียที่แท้จริงคือการทำลายล้างโครงสร้างสังคม ความหวัง และอนาคตของคนรุ่นต่อไปอย่างสิ้นเชิง

แม้ว่าเป้าหมายทางทหารของอิสราเอลอาจบรรลุผลในบางระดับ แต่คำถามที่สำคัญกว่าคือ “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?” การสร้างความเกลียดชังและความเจ็บแค้นระลอกใหม่ อาจเป็นเมล็ดพันธุ์ของความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งกว่าในอนาคต หากประชาคมโลกยังไม่สามารถหาทางออกทางการเมืองที่ยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่ายได้ วงจรแห่งความรุนแรงในดินแดนแห่งนี้ก็จะยังคงหมุนต่อไปไม่สิ้นสุด ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและคราบน้ำตาของผู้คนนับล้าน

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *