เมื่อเวลาประมาณ 10:45 น. ของวันนี้ (26 ส.ค. 68) ตามเวลาประเทศไทย สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) ได้รายงานการเกิดเหตุ แผ่นดินไหวหมู่เกาะคูริล ประเทศรัสเซีย โดยวัด ขนาดแผ่นดินไหว ได้ 6.3 ตามมาตราริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 55 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวเกิดขึ้นในบริเวณ “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) ซึ่งเป็นโซนที่เกิดภัยพิบัติทางธรณีวิทยาบ่อยครั้งที่สุดในโลก ทันทีที่เกิดเหตุ คำถามสำคัญที่ทุกคนต้องการคำตอบคือ จะเกิด เตือนภัยสึนามิ หรือไม่ และ แผ่นดินไหวหมู่เกาะคูริลกระทบไทยไหม บทความนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยงานเฝ้าระวังทั่วโลก เพื่อให้คำตอบที่ชัดเจนและสร้างความเข้าใจต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติครั้งนี้อย่างรอบด้าน

เจาะลึกพิกัดไหว “หมู่เกาะคูริล” บนรอยเลื่อนมรณะแห่งแปซิฟิก
หมู่เกาะคูริลอยู่ที่ไหน? หมู่เกาะแห่งนี้เป็นแนวหมู่เกาะภูเขาไฟที่ทอดยาวกว่า 1,300 กิโลเมตร จากคาบสมุทรคัมชัตกาของรัสเซียไปจนถึงเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติระหว่างทะเลโอค็อตสค์และมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ในทางธรณีวิทยา หมู่เกาะคูริลมีความสำคัญมากกว่านั้น เพราะมันตั้งอยู่บนแนว “ร่องลึกก้นสมุทรคูริล-คัมชัตกา” (Kuril-Kamchatka Trench) พอดี
แนวร่องลึกนี้คือจุดที่แผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกอันไพศาลกำลังเคลื่อนที่มุดตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกโอค็อตสค์ด้วยอัตราประมาณ 8-9 เซนติเมตรต่อปี การมุดตัวที่ไม่สม่ำเสมอนี้ทำให้เกิดการสะสมพลังงานความเครียดมหาศาล และเมื่อถึงจุดที่หินไม่สามารถทนรับแรงต่อไปได้ มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแผ่นดินไหว
ความน่ากลัวของโซนนี้
- แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอดีต บริเวณนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงเกินกว่า 8.5 ริกเตอร์มาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์ รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คัมชัตกาขนาด 9.0 ริกเตอร์ ในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งก่อให้เกิดสึนามิที่สร้างความเสียหายไปไกลถึงฮาวาย
- ความถี่ในการเกิด แผ่นดินไหวรัสเซีย ในบริเวณนี้ โดยเฉพาะที่มีขนาด 6-7 ริกเตอร์ ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า รอยเลื่อนเปลือกโลก ยังคงมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา
วิเคราะห์ทางเทคนิค ทำไมแผ่นดินไหว 6.3 ครั้งนี้จึงไม่เกิดสึนามิ?
ข่าวดีที่สุดที่ตามมาหลังเหตุ แผ่นดินไหวหมู่เกาะคูริล ครั้งนี้ คือการประกาศจากศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก (PTWC) ที่ระบุว่า “ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิที่สร้างความเสียหาย” ซึ่งสร้างความโล่งใจให้กับประเทศต่างๆ รอบมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่นและไทย
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดสึนามิ ประกอบด้วย
- ความลึกของศูนย์กลาง (Depth) ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ความลึก 55 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างลึก พลังงานจากการสั่นสะเทือนส่วนใหญ่จะกระจายไปในชั้นหินและเปลือกโลก แทนที่จะถูกส่งขึ้นมายังพื้นผิวท้องทะเลเพื่อแทนที่มวลน้ำโดยตรง แผ่นดินไหวที่มักก่อให้เกิดสึนามิรุนแรงมักมีศูนย์กลางที่ตื้นกว่า 30 กิโลเมตร
- ลักษณะการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน (Fault Mechanism) แผ่นดินไหวจะทำให้เกิดสึนามิได้ก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง (Vertical Displacement) อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะผลักดันหรือดึงมวลน้ำปริมาณมหาศาลให้เคลื่อนที่ แต่สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ คาดว่าลักษณะการเคลื่อนที่อาจเป็นการเลื่อนในแนวระนาบ (Strike-slip) หรือมีการเคลื่อนตัวในแนวดิ่งไม่มากพอที่จะทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่
- ขนาดแผ่นดินไหว (Magnitude) แม้ขนาด 6.3 จะถือว่ารุนแรง แต่โดยทั่วไปแล้ว แผ่นดินไหวที่จะก่อให้เกิดสึนามิข้ามมหาสมุทรได้มักจะต้องมีขนาดตั้งแต่ 7.5 ริกเตอร์ขึ้นไป
ดังนั้น สำหรับคำถามที่ว่า สึนามิจากรัสเซียถึงไทยกี่ชั่วโมง ในกรณีนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องคำนวณ เพราะไม่มีการก่อตัวของคลื่นสึนามิตั้งแต่ต้นทาง

ทำความรู้จัก “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) มหากาพย์ภัยพิบัติโลก
เหตุการณ์ แผ่นดินไหวล่าสุดวันนี้ เป็นเครื่องย้ำเตือนอีกครั้งถึงการมีอยู่ของ วงแหวนแห่งไฟ แนวเขตอันทรงพลังที่มีลักษณะคล้ายเกือกม้า ล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นระยะทางยาวกว่า 40,000 กิโลเมตร
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวงแหวนแห่งไฟ
- ศูนย์รวมแผ่นดินไหว กว่า 90% ของแผ่นดินไหวทั่วโลก เกิดขึ้นในแนว วงแหวนแห่งไฟ แห่งนี้
- บ้านของภูเขาไฟ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่กว่า 75% ของโลก (มากกว่า 450 ลูก) ตั้งอยู่ในบริเวณนี้
- กลไกการเกิด มันคือบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่หลายแผ่นมาบรรจบกัน เช่น แผ่นแปซิฟิก, แผ่นฮวนเดฟูกา, แผ่นโคโคส, แผ่นอินเดีย-ออสเตรเลีย, แผ่นนาซกา และแผ่นอเมริกาเหนือ การเคลื่อนที่, การชนกัน, และการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้คือสาเหตุหลักของภัยพิบัติทางธรณีวิทยาทั้งหมด
แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บน วงแหวนแห่งไฟ โดยตรง แต่เราก็อยู่ไม่ไกลจากแนวรอยเลื่อนสำคัญ เช่น แนวรอยเลื่อนสุมาตรา-อันดามัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบวงแหวนแห่งไฟเช่นกัน และเคยเป็นสาเหตุของสึนามิในปี 2547 มาแล้ว
ระบบเฝ้าระวังของไทย เราจะรู้ตัวล่วงหน้าได้อย่างไร?
แผ่นดินไหวหมู่เกาะคูริลกระทบไทยไหม? คำตอบคือ “ไม่” แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่านี้และมีศักยภาพก่อให้เกิดสึนามิ ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
- การรับข้อมูล ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) จะได้รับข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวจากเครือข่ายตรวจจับทั่วโลก เช่น USGS และ JMA ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังเกิดเหตุ
- การวิเคราะห์ เจ้าหน้าที่จะนำข้อมูล ขนาด, ตำแหน่ง, และความลึก มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลจากแบบจำลองการเกิดสึนามิ และข้อมูลระดับน้ำจากทุ่นตรวจวัดในทะเลลึก (DART Buoys)
- การแจ้งเตือน หากประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดสึนามิกระทบชายฝั่งประเทศไทย จะมีการออกประกาศ เตือนภัยสึนามิ ผ่านทุกช่องทางสื่อสาร เช่น SMS, โทรทัศน์, วิทยุ และหอเตือนภัยตามชายฝั่ง เพื่อให้ประชาชนมีเวลาอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
(Conclusion – บทสรุป)
เหตุการณ์ แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ที่หมู่เกาะคูริล ของ รัสเซีย ครั้งนี้ แม้จะมีความรุนแรงในระดับสูง แต่ด้วยปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เฉพาะเจาะจง ทำให้ไม่เกิดภัยคุกคามจากคลื่นสึนามิ และไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทย เหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีเยี่ยมที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติอันทรงพลังของ วงแหวนแห่งไฟ และกลไกการเกิดสึนามิได้ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการตระหนักรู้ถึงความเสี่ยง, การติดตามข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และเชื่อมั่นในระบบการเตือนภัยของประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีสติและปลอดภัย
แหล่งที่มาจาก : am2con