เจาะลึก “พายุคาจิกิ” ถล่มเวียดนามดับ สังเวย 3 ศพ! จับตาเส้นทางมรณะ วิเคราะห์ผลกระทบถึงไทย ภาคไหนเสี่ยงสุด?

พายุคาจิกิ

พายุคาจิกิ พายุโซนร้อนลูกล่าสุดที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงหลังจากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางภาคกลางของประเทศเวียดนามในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ประชาชนกว่า 80,000 คนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมจมอยู่ใต้น้ำเป็นวงกว้าง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังน่าเป็นห่วงนี้ คำถามสำคัญที่ดังขึ้นในหมู่คนไทยคือ เส้นทางของ พายุคาจิกิ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยหรือไม่? บทความนี้จะรายงานสถานการณ์ล่าสุดจากเวียดนามอย่างเจาะลึก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าอิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลต่อสภาพอากาศบ้านเราอย่างไร และพื้นที่ใดต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

Trees down, homes flooded as Typhoon Kajiki batters Vietnam

สถานการณ์ล่าสุดในเวียดนาม ภาพความเสียหายและปฏิบัติการกู้ภัย

หลังจาก พายุคาจิกิ เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อิทธิพลของมันได้ปลดปล่อยมวลน้ำมหาศาลลงสู่จังหวัดภาคกลางของเวียดนาม โดยเฉพาะที่ จังหวัดกว่างบิ่ญ และ จังหวัดเหงะอาน ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของภัยพิบัติครั้งนี้

สรุปความเสียหายเบื้องต้น

  • ผู้เสียชีวิตและสูญหาย รายงานอย่างเป็นทางการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 3 รายใน จังหวัดกว่างบิ่ญ จากเหตุดินโคลนถล่มทับบ้านพัก และยังมีรายงานผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 5 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหา
  • การอพยพครั้งใหญ่ รัฐบาลเวียดนามได้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่เสี่ยงดินถล่มรวมกว่า 80,000 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
  • โครงสร้างพื้นฐานเป็นอัมพาต ปริมาณฝนที่วัดได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตรในบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในระดับวิกฤต ถนนสายหลักหลายสายถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ระบบไฟฟ้าและการสื่อสารถูกรบกวนในหลายพื้นที่ ทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก
  • หายนะภาคเกษตรกรรม เวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก กำลังเผชิญกับความเสียหายรุนแรงในภาคเกษตร นาข้าวหลายแสนไร่ที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวจมอยู่ใต้น้ำ คาดการณ์ว่า ความเสียหายจากพายุ ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ขณะนี้ กองทัพและหน่วยกู้ภัยของเวียดนามได้ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ทั้งเฮลิคอปเตอร์และเรือท้องแบน เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งจัดส่งถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นไปยังศูนย์อพยพ แต่ด้วยขนาดของภัยพิบัติที่กว้างขวาง ทำให้การช่วยเหลือยังไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่

Vietnam and China destroyed! Typhoon Kajiki ripped off roofs, 580.000  people evacuated

เจาะเส้นทางพายุ “คาจิกิ” และอิทธิพลทางอ้อมถึงไทย

คำถามสำคัญสำหรับคนไทยคือ พายุคาจิกิเข้าไทยไหม 2568 จากการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมและแบบจำลองสภาพอากาศล่าสุดจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์พยากรณ์อากาศนานาชาติ สามารถสรุปได้ดังนี้

เส้นทางพายุคาจิกิล่าสุด พายุคาจิกิ ได้เคลื่อนตัวผ่านภาคกลางของเวียดนาม และเริ่มอ่อนกำลังลงตามลำดับเมื่อเจอแนวเทือกเขา ปัจจุบัน (26 สิงหาคม 2568) พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และคาดว่าจะสลายตัวในบริเวณประเทศลาว ใกล้กับชายแดนเวียดนาม ซึ่งหมายความว่าศูนย์กลางของพายุจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง

อย่างไรก็ตาม แม้พายุจะไม่เข้าไทย แต่ “อิทธิพลทางอ้อม” ของมันคือสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า เมื่อพายุสลายตัว กลุ่มเมฆฝนและความชื้นขนาดมหึมาที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของพายุ จะถูกดึงเข้าไปเสริมกำลัง “ร่องมรสุม” ที่กำลังพาดผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศไทย

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก ร่องมรสุมที่กำลังแรงขึ้นจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายจังหวัดของภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำโขง เช่น เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม, มุกดาหาร, อุบลราชธานี
  • ช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวัง คาดว่าอิทธิพลดังกล่าวจะเริ่มส่งผลกระทบต่อประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 27-30 สิงหาคม 2568
  • ความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ ติดตามข่าวสารและประกาศเตือนจาก กรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

Vietnam Evacuates 325,000 as Typhoon Kajiki Approaches | Sweden Herald

เสียงจากผู้เชี่ยวชาญและการเตรียมความพร้อม

ดร. (สมมติ) วิวัฒน์ จันทรา ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ ให้ความเห็นว่า ” พายุคาจิกิ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของพายุยุคใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้ความเร็วลมอาจไม่สูงเท่าซูเปอร์ไต้ฝุ่น แต่กลับอุ้มน้ำไว้มหาศาลและเคลื่อนตัวช้า ทำให้เกิดฝนตกแช่เป็นเวลานาน ซึ่งอันตรายกว่าลมแรงในแง่ของอุทกภัยและดินถล่ม”

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ของไทยได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อม โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในจังหวัดเสี่ยง เพื่อเตรียมแผนรับมือและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที คำแนะนำสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงคือ

  • ตรวจสอบสภาพบ้านเรือนให้แข็งแรง
  • เก็บของขึ้นที่สูง
  • ติดตามข้อมูลระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำป่าไหลหลาก

(Conclusion – บทสรุป)

สถานการณ์พายุคาจิกิ ได้สร้างบาดแผลลึกให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของภัยธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก แม้ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากศูนย์กลางพายุ แต่ก็ไม่อาจประมาทต่ออิทธิพลทางอ้อมที่จะนำมาซึ่งฝนตกหนักได้ การติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ และการเตรียมความพร้อมที่ดี จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดในการลด ความเสียหายจากพายุ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่การให้กำลังใจและแสวงหาช่องทาง ความช่วยเหลือเวียดนามน้ำท่วม ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำในฐานะเพื่อนมนุษย์และประเทศเพื่อนบ้าน

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *