น้ำท่วมมุมไบ วิกฤตมรสุม จมมหานคร และบทเรียนราคาแพงที่ “กรุงเทพฯ” ต้องมอง

น้ำท่วมมุมไบ

มหานครมุมไบ ศูนย์กลางทางการเงินและอุตสาหกรรมบันเทิงของอินเดีย กำลังเผชิญกับภาวะอัมพาตอีกครั้ง หลังพายุฝนตามฤดูกาลหรือ มรสุมอินเดีย ได้โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิด น้ำท่วมมุมไบ เป็นวงกว้าง ถนนหลายสายแปรสภาพเป็นคลอง การจราจรติดขัดอย่างหนัก และชีวิตประจำวันของผู้คนกว่า 20 ล้านคนต้องหยุดชะงัก แต่ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่แค่ข่าวภัยพิบัติจากต่างแดน สำหรับคนกรุงเทพฯ แล้ว ภาพของถนนที่จมอยู่ใต้น้ำ, รถยนต์ที่จอดเสีย, และผู้คนที่เดินลุยน้ำอย่างสิ้นหวัง คือภาพสะท้อนที่คุ้นเคยอย่างน่าเจ็บปวด บทความนี้จะพาไปเจาะลึก สถานการณ์มุมไบ ล่าสุด วิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหาที่หยั่งรากลึก และที่สำคัญคือการถอดบทเรียนว่า มหานครที่จมน้ำซ้ำซากอย่างมุมไบ มีอะไรจะบอกกับกรุงเทพมหานครของเราบ้าง

Mumbai, Delhi hit by heavy rain, waterlogging and traffic jams disrupt life  | Photos

สถานการณ์ล่าสุด มุมไบจมบาดาล เมื่อสายฝนหยุดนาฬิกาของเมือง

เช้าวันนี้ (20 สิงหาคม 2568) ชาวมุมไบตื่นขึ้นมาพบกับสภาพอากาศเลวร้ายและผลพวงจาก ฝนตกหนักอินเดีย ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (IMD) รายงานปริมาณน้ำฝนสะสมในบางพื้นที่สูงกว่า 250 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจัดอยู่ในระดับ “สีแดง” (Red Alert) หมายถึงการเตือนภัยขั้นสูงสุด

ผลกระทบน้ำท่วมมุมไบ ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง ครอบคลุมหลายมิติ

  • ระบบคมนาคมเป็นอัมพาต
  • ถนน พื้นที่ลุ่มต่ำที่เป็นจุดอ่อนไหว เช่น Andheri, Sion, Kurla, และ Hindmata จมอยู่ใต้น้ำระดับเอว ทำให้ การจราจรมุมไบ ติดขัดอย่างหนัก รถยนต์จำนวนมากจอดเสียกีดขวางเส้นทาง ประชาชนหลายพันคนติดค้างอยู่บนท้องถนนนานหลายชั่วโมง
  • รถไฟ ระบบรถไฟท้องถิ่น (Mumbai Local Trains) ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเมือง ต้องหยุดให้บริการในหลายเส้นทาง โดยเฉพาะสาย Central และ Harbour เนื่องจากน้ำท่วมรางรถไฟ ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายล้านคน
  • สนามบิน เที่ยวบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติฉัตรปตีศิวาจีมหาราช (CSMIA) ได้รับผลกระทบ มีรายงานเที่ยวบินล่าช้าและเปลี่ยนเส้นทางจำนวนมาก
  • ผลกระทบต่อชีวิตประชาชน
  • โรงเรียนและหน่วยงานราชการหลายแห่งประกาศปิดทำการฉุกเฉิน
  • บริษัทเอกชนหลายแห่งอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
  • มีรายงานไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
  • ประชาชนที่อาศัยในชุมชนแออัดและพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากน้ำที่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน

หน่วยงานเทศบาลนครมุมไบ หรือ BMC (Brihanmumbai Municipal Corporation) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำลงพื้นที่ประสบภัย แต่ดูเหมือนว่าความพยายามทั้งหมดจะไร้ผลเมื่อต้องต่อสู้กับปริมาณน้ำฝนที่มหาศาลและปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน

เจาะสาเหตุ ทำไมมุมไบถึง “จม” แทบทุกปี? เบื้องหลังภาพความคุ้นเคย

คำถามสำคัญคือ สาเหตุน้ำท่วมมุมไบซ้ำซาก คืออะไร? ปัญหานี้มีความซับซ้อนและเกิดจากหลายปัจจัยที่ผสมผสานกัน ทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์

  • ภูมิศาสตร์ที่เปราะบาง มุมไบเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะที่ถูกถมเชื่อมต่อกัน มีลักษณะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดชายฝั่งทะเลอาหรับ เมื่อฝนตกหนักในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง น้ำจากแผ่นดินจึงไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระบบระบายน้ำที่เก่าและเกินศักยภาพ ระบบท่อระบายน้ำส่วนใหญ่ของมุมไบสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมอังกฤษเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนในระดับที่น้อยกว่าปัจจุบันมาก และไม่สามารถรับมือกับจำนวนประชากรและการขยายตัวของเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดได้
  • การขยายตัวของเมืองที่ไร้การควบคุม การก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ได้ทับถมพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเคยทำหน้าที่เป็น “ฟองน้ำ” ซับน้ำตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ขยะพลาสติกและเศษสิ่งก่อสร้างที่อุดตันท่อระบายน้ำและลำคลองก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญ
  • แม่น้ำ Mithi ที่กำลังจะตาย แม่น้ำ Mithi ซึ่งควรจะเป็นเส้นทางระบายน้ำสายหลักของเมือง ได้กลายเป็นคลองระบายน้ำเสียที่ตื้นเขินและเต็มไปด้วยขยะและสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ ทำให้ความสามารถในการระบายน้ำลดลงอย่างมาก
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้รูปแบบของฝนเปลี่ยนไป จากเดิมที่ฝนอาจจะตกกระจายตัวตลอดทั้งวัน กลายเป็นฝนที่ตกหนักแบบสุดขั้วในระยะเวลาสั้นๆ (Extreme Rainfall Events) ซึ่งเกินกว่าที่โครงสร้างพื้นฐานใดๆ จะรับมือได้ทัน

Mumbai rains: 2 dead after landslide hits Vikhroli's housing society; IMD  sounds red alert

“กระจกสะท้อนกรุงเทพฯ” ความเหมือนที่น่ากังวลของสองมหานคร

เมื่อมองดู สถานการณ์มุมไบ ผู้อ่านชาวไทย โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ คงรู้สึกถึง “เดจาวู” เพราะความท้าทายที่มุมไบเผชิญนั้น แทบจะเป็นภาพจำลองของปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว

ความคล้ายคลึงนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาน้ำท่วมในมหานครไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เป็นผลลัพธ์ที่คาดเดาได้จากการวางผังเมืองที่ขาดวิสัยทัศน์และการเติบโตที่ไม่สมดุลกับธรรมชาติ บทเรียนน้ำท่วมมุมไบถึงกรุงเทพ จึงไม่ใช่แค่เรื่องที่น่าสนใจ แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ดังและชัดเจน

แนวทางการรับมือ มุมไบทำอะไรอยู่ และกรุงเทพฯ เรียนรู้อะไรได้บ้าง?

แม้จะเผชิญปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แต่ทั้งสองเมืองก็มีความพยายามในการแก้ไขและรับมือกับสถานการณ์ มุมไบรับมือน้ำท่วมอย่างไร?

  • โครงการ BRIMSTOWAD เป็นโครงการพัฒนาระบบระบายน้ำครั้งใหญ่ที่เริ่มขึ้นหลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2005 ประกอบด้วยการขยายท่อระบายน้ำ, สร้างสถานีสูบน้ำใหม่ 8 แห่ง, และขุดลอกแม่น้ำ แต่โครงการดำเนินไปอย่างล่าช้าและมีปัญหาคอร์รัปชัน
  • การเตือนภัยล่วงหน้า IMD และ BMC มีการพัฒนาระบบพยากรณ์และแจ้งเตือนภัยผ่าน SMS และโซเชียลมีเดียที่แม่นยำขึ้น เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวได้ทัน
  • การจัดการขยะ มีความพยายามในการรณรงค์และเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการขยะพลาสติกที่อุดตันท่อระบายน้ำ

บทเรียนสำหรับกรุงเทพฯ

  • การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต้องจริงจังและต่อเนื่อง โครงการขนาดใหญ่อย่างอุโมงค์ระบายน้ำและแก้มลิงของกรุงเทพฯ เป็นทิศทางที่ถูกต้อง แต่ต้องมีการเร่งรัดการก่อสร้างและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  • “ผังเมือง” ต้องมาก่อน “การก่อสร้าง” ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองอย่างจริงจัง เพื่อสงวนพื้นที่สีเขียวและพื้นที่รับน้ำ (Water Retention Areas) ไม่ให้ถูกทำลายจากการขยายตัวของเมือง
  • เทคโนโลยีคือหัวใจ การนำระบบพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ, เรดาร์ตรวจจับกลุ่มฝน, และระบบควบคุมการระบายน้ำอัจฉริยะ (Smart Drainage System) มาใช้ จะช่วยให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การมีส่วนร่วมของประชาชน ปัญหาขยะอุดตันท่อเป็นสิ่งที่ภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนอย่างจริงจัง

Mumbai rains: 33 trains diverted in Mumbai due to heavy rains, waterlogging  - Mumbai News | India Today

(Conclusion) บทสรุป จากมุมไบถึงกรุงเทพฯ ถึงเวลาต้องลงมือทำอย่างจริงจัง

น้ำท่วมมุมไบ ในวันนี้ คือภาพอนาคตที่กรุงเทพฯ อาจต้องเผชิญรุนแรงขึ้น หากเรายังคงเพิกเฉยต่อปัญหาเชิงโครงสร้างและผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวิธีแก้ปัญหาแบบ “วัวหายล้อมคอก” หรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดเหตุนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป

มหานครทั้งสองแห่งมีชะตากรรมที่คล้ายคลึงกัน คือการต่อสู้กับธรรมชาติที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรง การถอดบทเรียนความผิดพลาดและความพยายามของมุมไบ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อกรุงเทพฯ ในการวางแผนระยะยาว ทั้งในด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง, การวางผังเมืองที่เคารพธรรมชาติ, และการสร้างสังคมที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

ท้ายที่สุดแล้ว คำถามสำหรับนักเดินทางที่ว่า เที่ยวอินเดียช่วงมรสุมปลอดภัยไหม อาจไม่สำคัญเท่ากับคำถามที่เราต้องถามตัวเองว่า “เราจะเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนครั้งต่อไปในบ้านของเราเองได้อย่างไร?” ก่อนที่ภาพความเดือดร้อนจากมุมไบ จะกลายเป็นภาพจริงที่เกิดขึ้นหน้าบ้านเราเอง

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *