ราคารถยนต์ไฟฟ้า บทเรียนจาก ‘เทสลาลดราคา’ ที่ UK สัญญาณอันตรายสะเทือนถึงไทย

ราคารถยนต์ไฟฟ้า

ข่าวการหั่นราคาค่าเช่ารถเทสลาเกือบครึ่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ไม่ใช่แค่กลยุทธ์การตลาดที่น่าตื่นเต้น แต่คือเสียงระฆังที่ดังลั่น ประกาศการเข้าสู่ยุค “สงครามราคา” ของตลาดรถ EV อย่างเต็มรูปแบบ ปรากฏการณ์นี้เป็นมากกว่าเรื่องราวของเทสลาในประเทศอันห่างไกล แต่มันคือภาพฉายอนาคตที่กำลังคืบคลานเข้ามาสู่ประเทศไทย ที่ซึ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด นี่คือบทวิเคราะห์เชิงลึกถึงเบื้องหลังการตัดสินใจที่สั่นสะเทือนวงการของเทสลา ผลกระทบที่เจ็บปวดต่อตลาดรถ EV มือสอง และบทเรียนราคาแพงที่ผู้บริโภคชาวไทยต้องเรียนรู้ ก่อนจะตัดสินใจเข้าสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้า

เมื่อยักษ์ใหญ่อย่างเทสลาต้องยอมหั่น ราคารถยนต์ไฟฟ้า ผ่านโมเดลการเช่าในสหราชอาณาจักรลงเกือบ 50% เพื่อพยุง ยอดขายเทสลา ที่กำลังดิ่งลงเหว มันคือสัญญาณที่ชัดเจนว่าภูมิทัศน์ของ ตลาดรถ EV ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล การต่อสู้ไม่ได้วัดกันที่นวัตกรรมเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เป็นการฟาดฟันกันด้วยราคาอย่างดุเดือด โดยมีแบรนด์ม้ามืดจากจีนอย่าง BYD เป็นตัวแปรสำคัญ ปรากฏการณ์ เทสลาลดราคา ครั้งนี้ได้จุดชนวนวิกฤตลูกใหม่ นั่นคือการพังทลายของราคา รถ EV มือสอง ซึ่งเป็นฝันร้ายของผู้ซื้อก่อน และเป็นคำถามสำคัญสำหรับทุกคนที่กำลังคิดว่า ซื้อรถ EV ตอนนี้ดีไหม? โดยเฉพาะใน อนาคตตลาดรถ EV ในไทย ที่กำลังเดินตามรอยตลาดยุโรปอย่างรวดเร็ว

Tesla's UK sales jump in June from a year earlier, data shows

เกิดอะไรขึ้นที่ UK? เบื้องหลังการหั่นราคาเทสลาครั้งประวัติศาสตร์

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อยานยนต์ทั่วยุโรปต่างประโคมข่าวการลดราคาค่าเช่า (Leasing) ครั้งใหญ่ของ Tesla UK โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมอย่าง Tesla Model Y ที่มีราคาดึงดูดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากเดิมที่เคยมีค่าเช่ารายเดือนราว 600 ปอนด์ (ประมาณ 28,000 บาท) ลดลงมาเหลือเพียง 399 ปอนด์ (ประมาณ 18,600 บาท) ซึ่งเป็นการลดราคาที่สูงถึงเกือบ 50% สำหรับบางสัญญา

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากตัวเลขยอดขายของเทสลาในสหราชอาณาจักรและยุโรปโดยรวมลดลงอย่างน่าใจหายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 สวนทางกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของคู่แข่ง โดยเฉพาะแบรนด์จากประเทศจีน

สาเหตุหลักที่นำไปสู่การตัดสินใจครั้งนี้ ประกอบด้วย

  • การแข่งขันที่รุนแรง การเข้ามาของแบรนด์จีนอย่าง BYD, MG, และ GWM ที่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันใกล้เคียงกันในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ได้แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไปจากเทสลาอย่างมีนัยสำคัญ
  • ตลาดอิ่มตัว กลุ่มผู้ซื้อกลุ่มแรก (Early Adopters) ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ซื้อรถกันไปเกือบหมดแล้ว ตลาดกำลังเปลี่ยนสู่กลุ่มผู้ซื้อกระแสหลัก (Mainstream) ที่มีความอ่อนไหวต่อราคาสูงกว่ามาก
  • ภาวะเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั่วโลกทำให้การขอสินเชื่อรถยนต์มีภาระหนักขึ้น ผู้บริโภคจึงชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ราคาสูง
  • สินค้าคงคลังล้นสต็อก ยอดขายที่ชะลอตัวทำให้เทสลามีรถที่ผลิตแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งมอบจำนวนมาก การลดราคาจึงเป็นวิธีเร่งด่วนในการระบายสต็อก

สมรภูมิเดือด เมื่อ ‘สงครามราคา’ เขย่าตลาดรถ EV ทั่วโลก

กลยุทธ์การลดราคาของเทสลาไม่ใช่เรื่องใหม่ อีลอน มัสก์ ได้เริ่มต้น สงครามราคา นี้มาตั้งแต่ปี 2023 โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดและใช้ความได้เปรียบด้านขนาดการผลิต (Economies of Scale) กดดันให้คู่แข่งที่มีกำไรน้อยกว่าต้องออกจากตลาดไป

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้เปรียบเสมือนดาบสองคม ในช่วงแรกมันช่วยกระตุ้นยอดขายได้จริง แต่ในระยะยาวมันได้สร้างผลกระทบข้างเคียงที่รุนแรงและไม่คาดคิด

ผลกระทบที่เจ็บปวดที่สุด ‘ฝันร้าย’ ของคนซื้อก่อนและตลาดรถ EV มือสอง

ปัญหาใหญ่ที่สุดที่เกิดจาก เทสลาลดราคา คือ “การทำลายราคาขายต่อ” (Residual Value Destruction) เมื่อราคารถใหม่ถูกลงอย่างต่อเนื่อง ราคารถมือสองย่อมตกต่ำลงเป็นเงาตามตัว นี่คือฝันร้ายสำหรับเจ้าของรถที่ซื้อไปก่อนในราคาเต็ม

“มันรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง” ผู้ใช้รายหนึ่งใน Tesla Owners Club UK ฟอรั่มกล่าว “เรายอมจ่ายแพงเพราะเชื่อในแบรนด์และเชื่อว่าราคาจะค่อนข้างคงที่ แต่ตอนนี้รถของผมที่ซื้อมาปีกว่า ราคาขายต่อหายไปเกือบครึ่ง มันไม่ต่างอะไรกับการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลย”

สถานการณ์นี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งคำนวณค่าเช่าโดยอิงจากราคาขายต่อของรถเมื่อสิ้นสุดสัญญา เมื่อราคาขายต่อตกลง บริษัทลีสซิ่งจึงต้องแบกรับความเสี่ยงมากขึ้น การที่เทสลาต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนค่าเช่าให้ถูกลง ก็เพื่อจูงใจให้บริษัทลีสซิ่งยังคงสั่งซื้อรถของตน และเพื่อทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเช่าได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับราคาขายต่อที่ผันผวน

Tesla's UK sales slump nearly 60% in July amid market pressures

มองอังกฤษ สะท้อนไทย อนาคตตลาดรถ EV ในไทย จะซ้ำรอยหรือไม่?

ตลาดรถ EV ของไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างร้อนแรง โดยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่พุ่งสูงขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ และการเข้ามาของผู้เล่นจากประเทศจีนที่นำเสนอรถในราคาที่จับต้องได้

ภาพของตลาดไทยในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกับตลาดยุโรปเมื่อ 2-3 ปีก่อนอย่างมาก และนี่คือเหตุผลว่าทำไมกรณีศึกษาจาก UK จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

สัญญาณที่น่าจับตามองในตลาดไทย

  • การแข่งขันด้านราคาที่เริ่มต้นแล้ว เราได้เห็นการเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่ๆ ในราคาที่ท้าชนกันอย่างดุเดือดระหว่างแบรนด์จีนด้วยกันเอง และระหว่างแบรนด์จีนกับแบรนด์ญี่ปุ่นและยุโรป
  • โปรโมชันที่รุนแรง การแถมประกันภัย, ที่ชาร์จ, และการลดราคาเงินสด กลายเป็นเรื่องปกติ
  • ตลาดมือสองที่ยังไม่แน่นอน รถ EV มือสอง ในไทยยังเป็นตลาดที่ใหม่มาก และยังไม่มีมาตรฐานราคาที่ชัดเจน แต่แนวโน้มจากทั่วโลกชี้ชัดว่า ราคาขายต่อของ EV จะผันผวนสูงกว่ารถสันดาปมาก

เทสลาลดราคาในไทยเมื่อไหร่? คำถามที่ทุกคนอยากรู้

แม้ปัจจุบันเทสลาในไทยจะยังคงยืนราคาได้ค่อนข้างดี แต่แรงกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะจาก BYD, NETA, และ MG อาจทำให้เทสลาต้องพิจารณากลยุทธ์ราคาใหมในไม่ช้า การลดราคาในไทยอาจไม่เกิดขึ้นในรูปแบบของการลดราคาป้ายโดยตรง แต่ อาจมาในรูปแบบของโปรโมชันพิเศษ, การอัปเกรดซอฟต์แวร์ฟรี, หรือการให้ส่วนลดสำหรับรุ่นปีเก่าเพื่อระบายสต็อก

ซื้อรถ EV ตอนนี้ดีไหม?

สำหรับคำถามนี้ กรณีศึกษาจาก UK ให้คำตอบที่น่าคิดว่า ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนมุมมองการซื้อรถ EV ใหม่ จากเดิมที่มองเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวเพราะราคาขายต่อดี อาจต้องมองเป็นการซื้อ “สินค้าเทคโนโลยี” ที่มีค่าเสื่อมราคาสูง คล้ายกับการซื้อมือถือหรือคอมพิวเตอร์

ปัญหารถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ที่ผู้ซื้อในไทยควรตระหนักมากขึ้น คือเรื่อง “ค่าเสื่อมราคา” ซึ่งอาจเป็นต้นทุนแฝงที่สูงกว่าค่าน้ำมันที่ประหยัดไปได้เสียอีก

Tesla's UK sales plummet 60% as BYD surges

บทสรุป

ปรากฏการณ์ เทสลาลดราคา ในสหราชอาณาจักรคือสัญญาณการสิ้นสุดฮันนีมูนของ ตลาดรถ EV ทั่วโลก มันคือการก้าวเข้าสู่สมรภูมิรบที่แท้จริง ที่ซึ่งราคาและความคุ้มค่ากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจของผู้บริโภค

สำหรับ อนาคตตลาดรถ EV ในไทย นี่คือบทเรียนสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องเรียนรู้ ผู้บริโภคต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและทำความเข้าใจเรื่องค่าเสื่อมราคาให้มากขึ้น ผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนของราคา และภาครัฐอาจต้องพิจารณามาตรการที่จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดในระยะยาว

สงครามราคานี้ แม้จะเจ็บปวดสำหรับผู้ซื้อก่อนและผู้ผลิตบางราย แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ที่จะมีโอกาสได้ใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิม

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *