น้ำท่วมปากีสถาน วิกฤตซ้ำรอย สังเวยทะลุ 300 ชีวิต ตอกย้ำหายนะโลกร้อนที่รอไม่ได้

น้ำท่วมปากีสถาน

สถานการณ์น้ำท่วมปากีสถานล่าสุดทวีความรุนแรงสู่ระดับวิกฤตด้านมนุษยธรรม ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 300 รายแล้ว ขณะที่ประชาชนหลายแสนคนต้องกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย นี่ไม่ใช่แค่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่คือสัญญาณเตือนครั้งสำคัญที่สะท้อนภาพ “ความปกติใหม่” ของโลกที่กำลังเดือด จากผลพวงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เปลี่ยนสายฝนแห่งความชุ่มชื้นให้กลายเป็นหายนะที่ทำลายล้างอย่างไร้ความปรานี

เพียงชั่วข้ามคืน สายน้ำที่เคยหล่อเลี้ยงชีวิตได้แปรเปลี่ยนเป็นมัจจุราชที่พรากทุกสิ่งไป เสียงกรีดร้องและภาพความเสียหายจาก น้ำท่วมปากีสถาน ในวันนี้ คือภาพฉายซ้ำของมหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปี 2022 ที่ยังคงเป็นฝันร้ายของคนทั้งชาติ อิทธิพลของ ฝนมรสุมปากีสถาน ที่รุนแรงผิดปกติได้กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา โดยเฉพาะใน แคว้นบาลูจิสถาน และ แคว้นซินด์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 300 ราย และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะเจาะลึกถึงแก่นของปัญหา ตั้งแต่ สาเหตุน้ำท่วมปากีสถาน 2568 ที่ซับซ้อนกว่าแค่เรื่องของฝน ไปจนถึง ผลกระทบน้ำท่วมปากีสถานต่อเศรษฐกิจ และเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ดังก้องไปทั่วโลก

Pakistan floods claim over 300 lives in 48 hours as monsoon rains wreak havoc: 10 points | World News - The Indian Express

สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด เมื่อแผ่นดินกลายเป็นมหาสมุทร

รายงานล่าสุดจาก NDMA (National Disaster Management Authority) หรือองค์การจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของปากีสถาน ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตน้ำท่วมปากีสถานล่าสุด ว่ามีจำนวนมากกว่า 300 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 100 ราย ภาพที่ปรากฏผ่านสื่อทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของภัยพิบัติครั้งนี้ บ้านเรือนกว่า 50,000 หลังพังทลายหรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญถูกกระแสน้ำพัดตัดขาด ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ แคว้นบาลูจิสถาน ซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดแต่มีประชากรเบาบางที่สุด และ แคว้นซินด์ ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ

บาลูจิสถานและซินด์ ศูนย์กลางแห่งความสูญเสีย

ใน แคว้นบาลูจิสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งโดยส่วนใหญ่ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับปริมาณน้ำฝนจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันอย่างรุนแรง เมืองต่างๆ เช่น เควตตา (Quetta) และ ลาสเบลา (Lasbela) จมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนจำนวนมากติดค้างอยู่บนหลังคาบ้าน รอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง

“เราสูญเสียทุกอย่าง” นายอับดุล คาริม ชาวนาในแคว้นซินด์ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น “น้ำมาเร็วมาก เราแทบไม่มีเวลาเก็บของ บ้านของเรา ที่ดินของเรา วัวควายที่เลี้ยงไว้ หายไปกับสายน้ำทั้งหมด ตอนนี้เราไม่เหลืออะไรเลย”

ผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ สามารถสรุปได้ดังนี้

  • ชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนเสียชีวิต บาดเจ็บ และไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก สัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักล้มตาย
  • โครงสร้างพื้นฐาน ถนนและสะพานกว่า 150 แห่งถูกทำลาย ทำให้หลายชุมชนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก การลำเลียงความช่วยเหลือและทีมกู้ภัยเป็นไปได้ยาก
  • พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่เพาะปลูกหลายล้านไร่จมอยู่ใต้น้ำ คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศในระยะยาว
  • ระบบสาธารณสุข โรงพยาบาลและสถานีอนามัยหลายแห่งถูกน้ำท่วม ทำให้การให้บริการทางการแพทย์เป็นอัมพาต และเสี่ยงต่อการระบาดของโรคที่มากับน้ำ เช่น อหิวาตกโรค และไข้เลือดออก

ภัยพิบัติปากีสถาน ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายในระยะสั้น แต่กำลังกัดเซาะรากฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างน่าเป็นห่วง

Pakistan flash floods: Horrifying videos show destruction; over 300 dead as towns submerged | World News - Hindustan Times

ไม่ใช่แค่ฝน แต่คือ ‘สัญญาณเตือน’ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

คำถามสำคัญคือ สาเหตุน้ำท่วมปากีสถาน 2568 คืออะไร? ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศทั่วโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่า นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change

นางเชอร์รี เราะห์มาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของปากีสถาน เคยกล่าวไว้ในช่วงวิกฤตปี 2022 ว่า “นี่คือมรสุมที่ถูกอัดฉีดด้วยสเตียรอยด์” (Monsoon on steroids) ซึ่งเป็นคำอธิบายที่ยังคงใช้ได้ดีกับสถานการณ์ปัจจุบัน

กลไกที่เชื่อมโยงภาวะโลกร้อนกับฝนที่รุนแรงขึ้นมีดังนี้

  • อากาศที่อุ่นขึ้นอุ้มความชื้นได้มากขึ้น ทุกๆ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ชั้นบรรยากาศจะสามารถอุ้มไอน้ำได้มากขึ้นประมาณ 7% เมื่อมีไอน้ำในอากาศมากขึ้น ก็หมายถึงโอกาสที่จะเกิดฝนตกหนักและรุนแรงขึ้นก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
  • การละลายของธารน้ำแข็ง ปากีสถานเป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็งนอกเขตขั้วโลกมากที่สุดในโลก (กว่า 7,000 แห่ง) อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเร่งให้ธารน้ำแข็งเหล่านี้ละลายเร็วขึ้น และไหลลงสู่แม่น้ำสายต่างๆ ทำให้ระดับน้ำสูงอยู่แล้ว เมื่อฝนมรสุมตกลงมาสมทบ จึงทำให้เกิดอุทกภัยที่รุนแรงกว่าปกติ
  • ความแปรปรวนของลมมรสุม รูปแบบของลมมรสุมกำลังเปลี่ยนแปลงไป ทำให้คาดเดาทิศทางและปริมาณฝนได้ยากขึ้น บางปีอาจแห้งแล้งอย่างรุนแรง แต่บางปีก็อาจเผชิญกับฝนที่ตกหนักแบบทำลายล้างดังเช่นที่เกิดขึ้น

น่าเศร้าที่ปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ถึง 1% ของโลก กลับต้องมารับผลกระทบจาก ภัยพิบัติปากีสถาน ที่เกิดจากภาวะโลกร้อนอย่างไม่เป็นธรรม นี่คือความจริงอันโหดร้ายที่ตอกย้ำถึงความเหลื่อมล้ำของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

นานาชาติเคลื่อนไหว เมื่อปากีสถานร้องขอความช่วยเหลือ

เมื่อเผชิญกับวิกฤตที่เกินกำลังจะรับมือไหว รัฐบาล ปากีสถานขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ อย่างเป็นทางการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมในครั้งนี้

องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เริ่มระดมทุนฉุกเฉิน ขณะที่หลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, จีน, และตุรกี ได้เริ่มส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น เต็นท์, อาหาร, และเวชภัณฑ์ มาให้ความช่วยเหลือแล้ว

“เราขอขอบคุณน้ำใจจากประชาคมโลก” นายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าว “แต่ความต้องการยังคงมีอีกมหาศาล เราต้องการ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, ที่พักพิง, ยารักษาโรค และที่สำคัญคือการสนับสนุนด้านการฟื้นฟูในระยะยาว”

อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือที่หลั่งไหลเข้ามาอาจยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับขนาดของความเสียหาย ผลกระทบน้ำท่วมปากีสถานต่อเศรษฐกิจ ในครั้งนี้คาดว่าจะสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเปราะบางอยู่แล้วจากปัญหาหนี้สินและเงินเฟ้อ

327 people killed in Pakistan after flash floods, weather department warns of heavy rains | Today News

บทเรียนจากอดีตและหนทางสู่อนาคต

สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ครั้งนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า ปากีสถานจำเป็นต้องลงทุนในระบบเตือนภัยล่วงหน้าและโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปให้มากขึ้น การสร้างเขื่อน, อ่างเก็บน้ำ, และปรับปรุงระบบระบายน้ำในเมือง คือภารกิจเร่งด่วนที่ไม่อาจผัดวันประกันพรุ่งได้อีกต่อไป

ในขณะเดียวกัน โลกก็ต้องหันกลับมาทบทวนอย่างจริงจังถึงคำมั่นสัญญาในการต่อสู้กับวิกฤตโลกร้อน ประเทศที่ร่ำรวยซึ่งเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ในประวัติศาสตร์ มีภาระรับผิดชอบทางศีลธรรมในการช่วยเหลือประเทศที่เปราะบางอย่างปากีสถาน ให้สามารถปรับตัวและรับมือกับหายนะที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนก่อขึ้น

บทสรุป

น้ำท่วมปากีสถาน ในปีนี้ ไม่ใช่เพียงหัวข้อข่าวจากต่างแดน แต่มันคือภาพสะท้อนอนาคตของโลกใบนี้หากเรายังคงเพิกเฉยต่อวิกฤต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงคือราคาที่ต้องจ่ายจากความล่าช้าในการลงมือทำ ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลา และประชาคมโลกกำลังระดมความช่วยเหลือ ชะตากรรมของชาวปากีสถานหลายล้านคนยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย ท่ามกลางสายฝนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก และคำถามที่ยังคงไร้คำตอบว่า… หายนะครั้งต่อไปจะรุนแรงกว่านี้อีกเพียงใด

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *