เจาะเกมยักษ์ค้าปลีก “เซเว่น ญี่ปุ่น” ประกาศเปิด 1,000 สาขาใหม่ เดิมพันครั้งใหญ่หลังมรสุมเทคโอเวอร์ ส่องอนาคตเซเว่นไทย

เซเว่น ญี่ปุ่น

ท่ามกลางสมรภูมิค้าปลีกที่ดุเดือดและแรงกดดันจากนักลงทุนระดับโลก Seven & i Holdings บริษัทแม่ของ 7-Eleven ได้สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ด้วยการประกาศแผนเชิงรุกที่จะขยายสาขา “เซเว่น ญี่ปุ่น” เพิ่มอีก 1,000 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า การเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่แค่การเดินหน้าทางธุรกิจตามปกติ แต่คือการเดิมพันครั้งสำคัญที่เปรียบเสมือน “คำประกาศอิสรภาพ” หลังรอดพ้นจากมรสุมการเทคโอเวอร์ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มันอาจกำลังบอกใบ้ถึงภาพอนาคตที่เราจะได้เห็นในร้าน 7-Eleven ทุกหัวมุมถนนของเมืองไทย บทความนี้จะพาไปถอดรหัสเบื้องหลังเกมธุรกิจครั้งนี้ และวิเคราะห์ว่ากลยุทธ์จากแดนอาทิตย์อุทัย จะสะท้อนมาถึงประสบการณ์ร้านสะดวกซื้อของคนไทยอย่างไร

7-Eleven Founding Family's Bid to Block Foreign Takeover Collapses - The New  York Times

เบื้องหลังเดิมพันพันสาขา เมื่อยักษ์ใหญ่ “Seven & i” รอดพ้นการเทคโอเวอร์

เพื่อที่จะเข้าใจความสำคัญของการประกาศครั้งนี้ เราต้องย้อนกลับไปดูมหากาพย์การต่อสู้ในห้องประชุมบอร์ดบริหารที่เพิ่งผ่านพ้นไปก่อนหน้านี้ Seven & i Holdings ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าของ ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น 7-Eleven เท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของอาณาจักรค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตที่เก่าแก่อย่าง Ito-Yokado และห้างสรรพสินค้า Sogo & Seibu

ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้เผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจาก ValueAct Capital กองทุนนักลงทุนเชิงกิจกรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่ต้องการให้ Seven & i “ผ่าตัด” องค์กรครั้งใหญ่ โดยมีข้อเรียกร้องหลักคือ

  • ขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ให้ขายหรือแยกธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต Ito-Yokado ที่ประสบภาวะขาดทุนและเป็นตัวถ่วงของบริษัทออกไป
  • มุ่งเน้นธุรกิจหลัก ให้บริษัททุ่มเททรัพยากรทั้งหมดไปที่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ทำกำไรมหาศาลทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือ

ข้อเสนอนี้จุดชนวนการต่อสู้เพื่อควบคุมทิศทางของบริษัทอย่างดุเดือด (Proxy Fight) แต่ในท้ายที่สุด ฝ่ายบริหารของ Seven & i ก็สามารถเอาชนะและรักษาอำนาจไว้ได้ โดยให้เหตุผลว่าการมีธุรกิจที่หลากหลายจะสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว

ดังนั้น การประกาศแผนขยายสาขา 7-Eleven อีก 1,000 แห่ง จึงไม่ใช่แค่แผนการเติบโต แต่เป็น “คำตอบ” ที่ทรงพลังต่อ ValueAct และตลาด ว่าพวกเขาเชื่อมั่นใน กลยุทธ์ค้าปลีก แบบผสมผสาน และพร้อมที่จะพิสูจน์ด้วยการเร่งเครื่องธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก

“ไม่ใช่แค่เปิดเพิ่ม” – เจาะลึกกลยุทธ์ในแผนขยายสาขา

การเพิ่มสาขา 1,000 แห่งในตลาดที่อิ่มตัวแล้วอย่างญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่แค่การหาทำเลเปิดร้าน แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ “รูปแบบ” ของสาขาใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายใหญ่ 3 ประการของญี่ปุ่น คือ สังคมผู้สูงอายุ, การขาดแคลนแรงงาน และการแข่งขันที่รุนแรง

กลยุทธ์ใหม่ของเซเว่นญี่ปุ่นคืออะไร?

  • โมเดลสำหรับ “สังคมผู้สูงอายุ” (Aging Society) สาขาใหม่ๆ จะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น
  • Click-and-Collect บริการสั่งของออนไลน์จากซูเปอร์มาร์เก็ต Ito-Yokado แล้วมารับที่ 7-Eleven ใกล้บ้าน
  • Meal Delivery บริการจัดส่งอาหารปรุงสำเร็จและสินค้าจำเป็นถึงบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกออกมาจับจ่าย
  • Health & Wellness เพิ่มสัดส่วนสินค้าเพื่อสุขภาพ ยาพื้นฐาน และอาจมีเคาน์เตอร์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเบื้องต้น
  • การประหยัดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพ (Labor-saving & Efficiency) เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน สาขาใหม่จะเน้นการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
  • Self-checkout เคาน์เตอร์ชำระเงินด้วยตนเองจะกลายเป็นมาตรฐาน
  • AI & Automation ใช้ AI ในการจัดการสต็อกสินค้า การสั่งซื้อ และการจัดเรียงสินค้า เพื่อลดภาระของพนักงาน
  • Micro-fulfillment Centers (MFCs) ใช้พื้นที่หลังร้านเป็นศูนย์กระจายสินค้าขนาดเล็กสำหรับบริการเดลิเวอรี่ในพื้นที่
  • การผสมผสาน (Hybrid Formats) ทลายกรอบร้านสะดวกซื้อแบบเดิมๆ ด้วยการผสมผสานบริการอื่นเข้าไปด้วยกัน เช่น
  • 7-Eleven + ฟิตเนส
  • 7-Eleven + ร้านซักรีด
  • 7-Eleven + พื้นที่ Co-working space

7-Eleven's parent company rejects $38.6 billion takeover bid, says offer  'grossly undervalues' company

สมรภูมิร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น เมื่อคู่แข่งก็ไม่หยุดนิ่ง

แน่นอนว่า Seven & i Holdings ไม่ใช่ผู้เล่นเพียงรายเดียวในสนามรบนี้ คู่แข่งสำคัญอย่าง Lawson และ FamilyMart ต่างก็มีกลยุทธ์ที่น่าสนใจเพื่อรับมือกับความท้าทายเดียวกัน

  • Lawson มุ่งเน้นไปที่การเป็น “สถานีสุขภาพใกล้บ้าน” (Neighborhood Health Station) โดยร่วมมือกับร้านขายยา เพิ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและอาหารแคลอรี่ต่ำอย่างจริงจัง
  • FamilyMart เดินหน้ากลยุทธ์ “ร้านสะดวกซื้อเพื่อครอบครัว” โดยเพิ่มพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร สินค้าสำหรับเด็ก และร่วมมือกับแบรนด์ดังอย่าง Muji เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่

สงครามค้าปลีก ในญี่ปุ่นจึงไม่ใช่แค่การแข่งกันเปิดสาขา แต่เป็นการแข่งขันว่าใครจะสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้ดีกว่ากัน

บทเรียนถึงเมืองไทย อนาคตของเซเว่นและค้าปลีกไทยจะเป็นอย่างไร?

แม้บริบทบางอย่างจะแตกต่างกัน แต่ความท้าทายที่ เซเว่น ญี่ปุ่น กำลังเผชิญอยู่ เปรียบเสมือนภาพฉายอนาคตของประเทศไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ความท้าทายที่คล้ายกัน สังคมสูงวัยและต้นทุนแรงงาน

  • สังคมสูงวัย ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความต้องการสินค้าและบริการสำหรับผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
  • ต้นทุนแรงงาน ค่าแรงขั้นต่ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และการหาแรงงานในภาคบริการที่ยากขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องนำเทคโนโลยีประหยัดแรงงานมาใช้มากขึ้น

ดังนั้น ร้านสะดวกซื้อในไทยจะปรับตัวอย่างไร? คำตอบส่วนใหญ่อาจซ่อนอยู่ในกลยุทธ์ที่ญี่ปุ่นกำลังทดลองใช้อยู่ในปัจจุบัน

นวัตกรรมที่อาจได้เห็นในไทย ภายใต้การนำของ CP ALL

อนาคตของเซเว่นในไทยจะเป็นอย่างไร? มีความเป็นไปได้สูงที่ CP ALL ผู้บริหารสิทธิ์ 7-Eleven ในไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทแม่ จะนำโมเดลที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นมาปรับใช้

  • บริการสำหรับผู้สูงอายุ เราอาจได้เห็นบริการส่งยาถึงบ้าน หรือการสั่งซื้อสินค้าจาก Makro/Lotus’s แล้วมารับที่ 7-Eleven
  • เทคโนโลยีในร้าน ร้าน 7-Eleven ที่ไม่มีพนักงาน (Cashierless) หรือการใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยงานอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
  • อาหารเพื่อสุขภาพ เมนูอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพและสำหรับผู้สูงอายุจะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

Seven & I to increase number of 7-Eleven stores in Japan by 1,000

บทสรุป จากโตเกียวสู่กรุงเทพฯ อนาคตค้าปลีกที่เชื่อมถึงกัน

การประกาศขยาย 1,000 สาขาของ เซเว่น ญี่ปุ่น เป็นมากกว่าแค่ตัวเลขทางธุรกิจ มันคือแถลงการณ์แห่งความเชื่อมั่นและเป็นภาพสะท้อนของกลยุทธ์การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทาย มันคือบทพิสูจน์ว่าในสมรภูมิ สงครามค้าปลีก ผู้ที่หยุดนิ่งคือผู้ที่พ่ายแพ้

สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การจับตาดูความเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ก็เปรียบเสมือนการได้เห็น “ตัวอย่าง” ของนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ที่กำลังจะเดินทางมาถึงร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านคุณในอีกไม่ช้า ซึ่งจะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตประจำวันของเราไปอีกขั้นอย่างแน่นอน

แหล่งที่มาจาก : am2con

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *