เกาะไต้หวันกำลังตกอยู่ภายใต้สภาวะเฝ้าระวังขั้นสูงสุด ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “โพดุล” กำลังเคลื่อนตัวเข้าประชิดชายฝั่งตะวันออกด้วยความเร็วลมมหาศาล ทางการได้ประกาศสั่งปิดที่ทำการและสถานศึกษาในหลายเมืองทางภาคใต้และตะวันออก พร้อมเร่ง อพยพคนในไต้หวัน ในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วกว่า 5,000 คน ท่ามกลางความโกลาหลและผลกระทบที่เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นทุกขณะ แต่ในขณะที่โลกกำลังจับจ้องไปยังชะตากรรมของไต้หวัน คำถามสำคัญสำหรับคนไทยคือ พายุลูกนี้จะส่งผลกระทบมาถึงเราหรือไม่ บทความนี้จะพาไปเกาะติด สถานการณ์ไต้ฝุ่นล่าสุด แบบเรียลไทม์ พร้อมวิเคราะห์เจาะลึก เส้นทางพายุโพดุล และตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย
สถานการณ์สดจากไต้หวัน ปิดเมือง สั่งอพยพ รับมือหายนะ
กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน (Central Weather Bureau – CWB) ได้ประกาศยกระดับการเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นโพดุลเป็นระดับสูงสุดแล้วในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) โดยคาดการณ์ว่าศูนย์กลางพายุจะพัดขึ้นฝั่งบริเวณรอยต่อระหว่าง เมืองฮัวเหลียน และ เมืองไถตง ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (14 สิงหาคม 2568)
ความรุนแรงของพายุโพดุลล่าสุด จากข้อมูลล่าสุดของ CWB ไต้ฝุ่นโพดุลมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางสูงถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจทวีกำลังขึ้นได้อีกเมื่อเคลื่อนผ่านกระแสน้ำอุ่นในทะเลฟิลิปปินส์ จัดเป็นพายุที่มีความรุนแรงในระดับ 4 (Category 4) ตามมาตรวัดพายุเฮอริเคนแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน ซึ่งมีอานุภาพทำลายล้างสูง สามารถถอนรากถอนโคนต้นไม้และสร้างความเสียหายรุนแรงต่ออาคารบ้านเรือนได้
- ปริมาณฝนคาดการณ์ พื้นที่ภูเขาในภาคตะวันออกอาจมีปริมาณฝนสะสมสูงถึง 800-1,000 มิลลิเมตร เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มรุนแรง
- คลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) ชายฝั่งตะวันออกเผชิญความเสี่ยงจากคลื่นสูง 5-7 เมตร
มาตรการรับมือขั้นสูงสุดของภาครัฐ รัฐบาลไต้หวันได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ฉุกเฉินกลาง และสั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นดำเนินการตามแผน การเตรียมความพร้อมรับมือพายุ อย่างเต็มกำลัง
- การสั่งปิดทำการ เมืองฮัวเหลียน, ไถตง, ผิงตง และเกาสง (ภาคใต้) ได้ประกาศปิดที่ทำการรัฐและสถานศึกษาทั้งหมดในวันที่ 14 สิงหาคม
- การอพยพ มีคำสั่งอพยพประชาชนกว่า 5,600 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายฝั่งและหมู่บ้านบนภูเขา ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดเตรียมไว้
- ผลกระทบต่อเที่ยวบิน สายการบินหลักของไต้หวัน เช่น China Airlines และ EVA Air ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศที่เดินทางเข้า-ออกจากสนามบินทางภาคใต้และตะวันออกแล้วหลายร้อยเที่ยวบิน ผู้โดยสารควรตรวจสอบสถานะเที่ยวบินโดยตรงกับสายการบิน
- การทหาร กระทรวงกลาโหมได้สั่งเตรียมพร้อมกำลังพลกว่า 35,000 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ เช่น รถสะเทินน้ำสะเทินบกและเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
เสียงจากในพื้นที่ “เราชินแล้ว แต่ครั้งนี้น่ากลัวกว่าเดิม”
สำหรับชาวไต้หวัน พายุไต้ฝุ่นคือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ความรุนแรงของโพดุลในครั้งนี้สร้างความกังวลมากกว่าปกติ นายหลิน ชาวประมงในเมืองไถตงให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “เรานำเรือขึ้นฝั่งและทำทุกอย่างเพื่อป้องกัน แต่ลมแรงขนาดนี้ไม่เคยเจอมาหลายปี มันน่ากลัวกว่าที่คาดไว้มาก”
ในขณะเดียวกัน คำถามที่ว่า เที่ยวไต้หวันช่วงพายุปลอดภัยไหม กำลังเป็นที่กังวลของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวันได้ออกประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้โดยเด็ดขาด รวมถึงงดกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด เช่น การเดินป่า หรือกิจกรรมทางทะเล สำหรับนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ในพื้นที่ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดและอยู่ในอาคารที่พักที่ปลอดภัย
คำแนะนำสำหรับคนไทยในไต้หวัน สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ได้ออกประกาศสำหรับ คนไทยในไต้หวันรับมือพายุอย่างไร โดยมีคำแนะนำดังนี้
- ติดตามข่าวสารจากทางการไต้หวันอย่างใกล้ชิด
- สำรองอาหาร น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นไว้สำหรับ 3-5 วัน
- ชาร์จอุปกรณ์สื่อสารและพาวเวอร์แบงค์ให้เต็มอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการออกจากที่พักหากไม่มีความจำเป็น
- หากต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน สามารถติดต่อสายด่วนของสำนักงานฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำถามสำคัญ ไต้ฝุ่นโพดุลจะเข้าไทยไหม? วิเคราะห์ผลกระทบ
นี่คือประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด และคำตอบคือ “ไม่” ไต้ฝุ่นโพดุลจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง
อย่างไรก็ตาม แม้พายุจะไม่เข้าโดยตรง แต่ประเทศไทยจะได้รับ “ผลกระทบทางอ้อม” อย่างแน่นอน H3 การประเมินจากกรมอุตุนิยมวิทยาไทย นักอุตุนิยมวิทยาจากกรมอุตุนิยมวิทยาไทยได้วิเคราะห์ เส้นทางพายุโพดุล ว่า หลังจากพัดผ่านเกาะไต้หวันแล้ว พายุจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อเจอภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง และจะเคลื่อนตัวต่อไปยังช่องแคบไต้หวันและมณฑลฝูเจี้ยนของจีน แต่สิ่งที่น่าจับตาสำหรับประเทศไทยคือ
- การดึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ อิทธิพลของพายุขนาดใหญ่จะทำหน้าที่เหมือน “เครื่องดูดฝุ่น” ดึงให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยให้มีกำลังแรงขึ้น
- ฝนตกหนักถึงหนักมาก ผลจากการที่มรสุมมีกำลังแรงขึ้น จะทำให้ประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันตก (ตั้งแต่แม่ฮ่องสอนถึงกาญจนบุรี) และภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ระนอง, พังงา, ภูเก็ต) มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 15-18 สิงหาคมนี้
- คลื่นลมในทะเล ทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอาจสูงกว่า 4 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด
ดังนั้น แม้พายุจะอยู่ไกล แต่ผลกระทบทางอ้อมจะทำให้เกิดฝนตกหนักและเพิ่มความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่เสี่ยงของไทยได้
บทสรุป (Conclusion)
สถานการณ์ ไต้ฝุ่นโพดุลถล่มไต้หวัน กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังทำลายล้างของภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากภาวะโลกร้อน การเตรียมความพร้อมและระบบการจัดการภัยพิบัติที่เข้มแข็งของไต้หวันจึงเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสำหรับทุกประเทศ
สำหรับประเทศไทย แม้จะโชคดีที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรงของพายุโดยตรง แต่ผลกระทบทางอ้อมที่ส่งมาในรูปแบบของฝนที่เพิ่มขึ้นและคลื่นลมที่รุนแรง คือสิ่งที่เราต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ การติดตาม สถานการณ์ไต้ฝุ่นล่าสุด จึงไม่ใช่แค่การดูข่าวต่างประเทศ แต่คือการทำความเข้าใจห่วงโซ่ของสภาพอากาศ เพื่อเตรียมป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านของเราเอง
แหล่งที่มาจาก : am2con